Grasim Industries Limited ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2019

14 สิงหาคม, 2562

ผลประกอบการทางการเงินแบบรวมกิจการ

(หน่วยเป็นสิบล้านรูปี)
  ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2020 ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2019 เปรียบเทียบรายปี ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2019
รายได้สุทธิ 18,861 16,761 13% 20,965
EBITDA 4,217 3,212 31% 3,786
กำไรก่อนภาษี (PBT)
(ก่อนหักรายการพิเศษ)
2,814 2,080 35% 2,619

รายได้แบบรวมกิจการสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 188,610 ล้านรูปี EBITDA แบบรวมกิจการอยู่ที่ 42,170 ล้านรูปี โดยบันทึกการเติบโตไว้ที่ร้อยละ 31 เมื่อเปรียบเทียบรายปี ส่วน PBT (ก่อนหักรายการพิเศษ) สูงขึ้นที่ร้อยละ 35 เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 28,140 ล้านรูปี ซึ่งนำโดยผลการดำเนินงานที่ดีเยี่ยมของบริษัทในเครือ คือ UltraTech Cement Limited และ Aditya Birla Capital Limited

ในระดับเฉพาะกิจการ มีการเติบโตของปริมาณทั้งในส่วนของ VSF และโซดาไฟ แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำกำไรได้รับผลกระทบจากราคาที่อ่อนตัวลงทั่วโลก

ธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์

ธุรกิจ VSF แสดงผลการดำเนินงานที่ดี โดยมีปริมาณการผลิตและยอดขายที่ 140KT และ 138KT ตามลำดับ ซึ่งบันทึกการเติบโตที่ร้อยละ 4 และร้อยละ 5 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน

รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 25,090 ล้านรูปี EBITDA สำหรับไตรมาสอยู่ที่ 4,420 ล้านรูปี (สูงขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาส) ความสามารถในการทำกำไรได้รับผลกระทบแบบเปรียบเทียบรายปี เนื่องด้วยราคา VSF ของประเทศจีนดิ่งลงไปถึง ~ร้อยละ 21 จากปีก่อน และ ~ร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส ทั้งนี้ สืบเนื่องจากมีกำลังการผลิตใหม่ที่เริ่มดำเนินงานในปีที่ผ่านมา (รอบปี 2018) และได้รับผลกระทบในเชิงลบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรยังได้รับผลกระทบจากการลดค่าเงินตรา หากแต่ได้รับการชดเชยส่วนหนึ่งด้วยผลประโยชน์จากราคาเยื่อไม้ที่ลดลง ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะลดต่ำลงในช่วงนี้ ด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์และการตลาดที่ดีขึ้นของเรา เราจึงสามารถรับมือกับผลกระทบในเชิงลบจากภาวะตลาดโลกได้

เพื่อนำพาความสำเร็จอันโดดเด่นของบริษัทคือ แบรนด์ VSF 'Liva' ให้ก้าวหน้าต่อไป แบรนด์จึงมีการขยายสายงานผลิตภัณฑ์ส่าหรี โดยบริษัทอยู่ระหว่างร่วมงานกับหุ้นส่วนทางธุรกิจต่าง ๆ เพื่อทำให้ส่าหรี 'LIVA' เป็นที่นิยมให้ได้เทียบเทียมกับเสื้อผ้าที่ติดป้าย 'LIVA' ทั้งหลายในส่วนเสื้อผ้าของสุภาพสตรี

ขณะนี้ Liva จับมือร่วมกับแบรนด์ค้าปลีกกว่า 40 ราย และมีจำหน่ายในเอ้าท์เล็ททั้ง 3,500 แห่งที่อยู่ในรูปแบบเอาท์เล็ตจำเพาะของแบรนด์และร้านค้าขนาดใหญ่ ที่นอกเหนือไปจาก MBO หลายแห่งมากมายใน 250 เมืองทั่วประเทศอินเดีย

ในส่วนของความยั่งยืน ด้วยให้การมุ่งเน้นไปที่การพยายามบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ บริษัทจึงสามารถลดการบริโภคน้ำได้ถึงร้อยละ 50 ภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา และลดได้กว่าร้อยละ 15 ในหลาย ๆ แห่งนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2019 โดยส่วนธุรกิจ VSF เป็นกิจการที่บริโภคน้ำน้อยที่สุดในโลก ความริเริ่มนี้ยังช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องที่โรงงาน Nagda ซึ่งในอดีตเคยต้องหยุดดำเนินงานเป็นเวลานานในช่วงฤดูร้อน

การเร่งการผลิตของสายงานไฟเบอร์พิเศษเฉพาะรุ่นที่ 3 จำนวน 16 KTPA ที่ Kharach (เริ่มดำเนินงานในเดือนพฤษภาคม 2019) มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โรงงานประสบความสำเร็จเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างไตรมาสสำหรับการใช้ศักยภาพตามที่ออกแบบไว้

การขยายกำลังการผลิตที่โรงงานแห่งเดิมที่ Vilayat เป็น 219 KTPA มีความคืบหน้าเป็นอย่างดี โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มดำเนินงานได้ในปีงบประมาณ 2021

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020 อยู่ที่ 15,030 ล้านรูปี ส่วน EBITDA อยู่ที่ 4,460 ล้านรูปี ซึ่งบันทึกการเติบโตที่สูงขึ้นที่ร้อยละ 3 เมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส ราคาโซดาไฟที่อ่อนตัวลงทั่วโลกสร้างความกดดันให้กับราคาในตลาดภายในประเทศ ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นและการเร่งการผลิตจากกำลังการผลิตใหม่ในอุตสาหกรรมอาจได้รับผลกระทบด้านราคาต่อไปในระยะเวลาอันใกล้นี้

ยอดขายโซดาไฟและปริมาณการผลิตในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2020 อยู่ที่ 238KT และ 242KT ซึ่งมีการบันทึกการเติบโตที่ร้อยละ 1 และ 2 จากปีก่อนตามลำดับ การผลิตได้รับผลกระทบในหลาย ๆ แห่งเนื่องจากการขาดแคลนทรัพยากรน้ำและได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากพายุไซโคลน

การที่บริษัทคงให้การมุ่งเน้นไปที่เคมีภัณฑ์พิเศษจำเพาะส่งผลให้เคมีภัณฑ์พิเศษซึ่งรวมถึงอีพ็อกซีเรซินสร้างรายได้ EBITDA ในส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่ ~ร้อยละ 21

บริษัทอยู่ในระหว่างกระบวนการวางแผนการขยับขยายผลิตโซดาไฟจาก 1,147 KTPA ให้เป็น 1,457 KTPA ในหลาย ๆ แห่ง โดยอยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างกัน ซึ่งมีการขยายส่วนผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์จำเพาะพิเศษเช่นกัน

แผนการลงทุน CAPEX

แผนรายจ่ายฝ่ายทุน CAPEX โดยรวมจำนวน ~78,000 ล้านรูปี (ในระดับเฉพาะกิจการ) อยู่ระหว่างดำเนินการเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับทั้งธุรกิจ VSF และธุรกิจเคมีภัณฑ์ ที่นอกเหนือจากรายจ่ายฝ่ายทุนเพื่อเสริมสร้างความทันสมัยให้กับโรงงานหลาย ๆ แห่ง รายจ่ายเพื่อการลงทุนนี้จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ 2020-2022

กิจการเครือซีเมนต์ – UltraTech

UltraTech รายงานรายได้แบบรวมกิจการที่ 101,780 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วน EBITDA อยู่ที่ 28,400 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2020 ซึ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 61 เมื่อเปรียบเทียบรายปี ปริมาณการขายแบบรวมกิจการมีการบันทึกการเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 3 ตามการเปรียบเทียบรายปีเป็น ~18.8 MTPA

หลักการเตรียมการณ์ระหว่าง Century Textiles and Industries Limited (“Century”), UltraTech และผู้ถือหุ้นโดยลำดับ และเจ้าหนี้ (หลักการ) ได้รับการอนุมัติแล้วจากองค์กรด้านกฎหมายบริษัทแห่งชาติ (National Company Law Tribunal) และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ในไตรมาสที่ 2 ปีงบฯ 2020 ภายหลังได้รับการอนุมัติตามกฎเกณฑ์ที่เหลือ

หลังเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการและการขยายศักยภาพที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ความสามารถในการผลิตซีเมนต์ของ UltraTech จะเพิ่มขึ้นเป็น 117.35 MTPA ซึ่งรวมการดำเนินงานในต่างประเทศ

เครือธุรกิจบริการทางการเงิน – Aditya Birla Capital Limited (ABCL)

รายได้และกำไรสุทธิหลังส่วนของดอกเบี้ยส่วนน้อยสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020 (ตามรายงานของ ABCL) อยู่ที่ 36,460 ล้านรูปี และ 2,700 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นที่ร้อยละ 19 และร้อยละ 27 ตามลำดับ

บัญชีเงินกู้ NBFC (รวมถึงสินเชื่อเพื่อการเคหะ) เติบโตขึ้นที่ร้อยละ 16 เมื่อเทียบแบบรายปีเป็น 619,980 ล้านรูปี (ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2020)

สินทรัพย์ภายใต้การจัดการโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,539,650 ล้านรูปี (ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2020) ซึ่งสูงขึ้นที่ร้อยละ 2 เมื่อเทียบแบบรายปี

ในส่วนธุรกิจประกันชีวิต เบี้ยประกันรับปีแรกส่วนบุคคลสูงขึ้นที่ร้อยละ 29 เป็น 3,220 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020 อัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์ (Persistency Ratio) ยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราความยั่งยืนของกรมธรรม์เดือนที่ 13 ปรับดีขึ้นที่ 591 bps เป็นร้อยละ 78 ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020

สำหรับส่วนธุรกิจประกันสุขภาพ เบี้ยประกันสุทธิที่บันทึกเพิ่มขึ้นเป็น 1,430 ล้านรูปี (ไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020) ซึ่งสูงขึ้น 1.9 เท่าจากปีก่อน

แนวโน้ม

ธุรกิจ VSF จะยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดในอินเดียโดยร่วมมือกับภาคธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งจะสามารถเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านทางแบรนด์ LIVA การขยายเข้าสู่หมวดผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยการผสมผสานผลิตภัณฑ์ผ่านทางส่วนแบ่งที่เพิ่มขึ้นจากใยสังเคราะห์พิเศษ VSF จะยังคงเป็นเส้นใยผ้าที่เติบโตรวดเร็วที่สุดทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตาม กำลังการผลิตใหม่ ๆ ในเอเซียที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้คาดว่าจะทำให้อุปสงค์และอุปทานขาดความสมดุลและสร้างความกดดันในด้านราคา

ธุรกิจเคมีภัณฑ์อยู่ระหว่างการขยายกิจการทั้งในส่วนคลอร์-อัลคาไลและเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจำเพาะ โครงการขยายที่อยู่ระหว่างดำเนินการในหลาย ๆ แห่ง ณ โครงการที่เข้าซื้อกิจการในรัฐอานธรประเทศและสายงานผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษจำเพาะจะสร้างความเติบโตได้อย่างเด่นชัดให้กับธุรกิจในอนคตอันใกล้นี้

การเติบโตของความต้องการซีเมนต์คาดว่าจะขนานไปกับการเติบโตของ GDP ปัจจัยขับเคลื่อนความต้องการระยะยาวก็คือ ท่าทีของรัฐบาลต่อการเติบโต และแรงผลักดันจากภาครัฐในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การวางแผนรายจ่ายเพิ่มเติมสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยในเฟส 2 และการหยิบยกเรื่องความต้องการในการสร้างที่อยู่อาศัยทั้งในชนบท / เมืองโดยมีการลดดอกเบี้ยให้

สำหรับภาคธุรกิจบริการด้านการเงิน ABCL เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ทางการเงินได้อย่างครบวงจร เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางการเงินของลูกค้าตลอดช่วงชีวิต ABCL ยืนหยัดต่อการให้บริการทางการเงินตามความต้องการตั้งแต่ต้นจนจบให้กับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าองค์กรภายใต้แบรนด์ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวคือ Aditya Birla Capital

แถลงการณ์เตือน

ข้อความใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” ฉบับนี้ที่แสดงถึงวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ อาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่น ๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด