การประสานกำลังยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่องโดยมีความก้าวหน้าที่ 66% ของการรวมกันในระดับอำเภอ ส่วนความเร็ว 4G มีการปรับปรุงดีขึ้นกว่า 50% ในเซอร์เคิลที่มีการรวมเข้าด้วยกัน

ไฮไลท์ประจำไตรมาส

• รายได้ในไตรมาสที่ 1 ลดลงที่ร้อยละ 4.3 เมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส โดยมีปัจจัยหลักมาจากความปั่นป่วนของลูกค้าที่มีการเติมเงินด้วยบัตรกำนัลสำหรับรับบริการ ‘Service Validity Voucher’ ในไตรมาสที่ 4 ตลอดจนการวางตำแหน่งใหม่สู่ตลาดส่วนล่างสำหรับ ARPU
• การผนึกกำลังเป็นไปตามความคาดหมายโดยอยู่ที่ราวร้อยละ 70 ของเป้าหมายการผนึกกำลังที่กำหนดให้ลุล่วงในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020
• การประสานกันของเครือข่ายเป็นไปอย่างต่อเนื่องอย่างรวดเร็วที่ร้อยละ 66 ของการรวมกันในระดับอำเภอ
• นอกเหนือจากการผลักดัน TDD ไซต์ ยังมีการแปรแถวระบบ Massive MIMO ในเขตหลัก ๆ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับ
• เครือข่าย 4G ที่เร็วที่สุดในกรุงเดลี เบงกอลตะวันตก และเมืองเจนไน โดยอ้างอิงตาม Ookla ความเร็ว 4G ปรับปรุงดีขึ้นกว่าร้อยละ 50 ในเซอร์เคิลที่มีการรวมตัวกันเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนธันวาคม 2018
• มีการเริ่มใช้ LTE 900 ในพื้นที่ให้บริการในกรุงเดลี มุมไบ รัฐเกรละ รัฐคุชราต และรัฐหรยาณาผ่านการจัดสรรคลื่นความถี่แบบพลวัต
• ประสบผลสำเร็จต่อการปิดประเด็นด้านสิทธิที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย โดยมีการระดมทุนถึง 250 พันล้านรูปี

ไฮไลท์ด้านการเงิน

คุณ Balesh Sharma, CEO ของ Vodafone Idea Limited กล่าวว่า “เรากำลังทำในสิ่งที่เป็นยุทธศาสตร์ตามที่บอกไว้ ถึงแม้ว่ายังไม่เห็นผลประโยชน์อย่างชัดเจนในรายได้หลักของเราก็ตาม เนื่องจากเรากำลังรวมเครือข่ายของเราอย่างต่อเนื่อง ประสบการณ์ข้อมูลของผู้ใช้ของเราจึงปรับปรุงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในพื้นที่ให้บริการส่วนใหญ่ และตอนนี้เราเป็นผู้นำกลุ่มสำหรับความเร็วการโหลดข้อมูลในกรุงเดลี เบงกอล และเจนไน เรายังคงมุ่งเน้นไปที่การขยายความครอบคลุม 4G ให้เข้าถึงชาวอินเดียกว่า 1 พันล้านคน ตลอดจนขยายความสามารถในการรองรับดาต้าโดยการเพิ่มไซต์ TDD ให้มากขึ้นและยังมีการแปรแถวระบบ Massive MIMO เรามีความคืบหน้าตามเป้าหมายในการผนึกกำลังให้สำเร็จในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021 เราคาดว่าปัจจัยเหล่านี้จะช่วยเสริมผลประกอบการทางการเงินของเราให้เพิ่มพูนขึ้นต่อไป ”

ไฮไลท์ทางการเงิน

อัตราภาษีศุลกากรหลักยังทรงระดับเดิมในระหว่างไตรมาส อย่างไรก็ตาม ฐานลูกค้าที่ใช้บัตรกำนัลสำหรับรับบริการ ‘Service Validity Voucher’ ยังไม่แน่นอนสำหรับรอบการเติมเงิน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ รายได้ในไตรมาสปัจจุบันได้รับผลกระทบจากความปั่นป่วนของลูกค้าที่ทำการเติมเงิมด้วยแผนการใช้บริการในไตรมาสที่ 4 ด้วยเหตุนี้ ประกอบกับผลจากการวางตำแหน่งใหม่สู่ตลาดส่วนล่างสำหรับลูกค้า ARPU ระดับสูง ทำให้มีรายได้ที่ 112.7 พันล้านรูปี ซึ่งลดลงที่ร้อยละ 4.3 เมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาสกับ 117.8 พันล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2019

EBITDA สำหรับไตรมาสเพิ่มขึ้นเป็น 36.5 พันล้านรูปี เทียบกับ 17.9 พันล้านรูปีไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2019 (15.9 พันล้านรูปีเป็นการปรับค่าเพียงครั้งเดียว) โดยการนำมาตรฐาน Ind AS 116 มาใช้เป็นผลดีต่อ EBITDA ตามพื้นฐานที่จำเป็น ผลกระทบจากรายได้ที่ลดลงถูกชดเชยบางส่วนด้วยการผนึกกำลังทางค่าใช้จ่าย โดยไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการที่จำเป็น (โดยไม่รวมค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าบริการในการใช้คลื่นความถี่และโรมมิ่ง และค่าบริการในการเข้าถึง) ลดลงที่ 14.8 พันล้านรูปีเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2019 ภายหลังจากการปรับค่าสำหรับค่าใช้จ่ายที่มาจากเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นและจากการผลักดันเครือข่ายส่วนเพิ่ม เมื่อพิจารณาแบบรายปี แสดงให้เห็นว่าประมาณร้อยละ 70 ของการผนึกกำลังค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ 84 พันล้านรูปี ดังนั้น จึงเป็นไปตามเป้าหมายการผนึกกำลังค่าใช้จ่ายแบบสมบูรณ์ของเราในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021

การนำมาตรฐาน Ind AS 116 ‘Leases’ มาใช้มีผล ณ วันที่ 1 เมษายน 2019 ซึ่งส่งผลให้ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย และค่าใช้จ่ายทางการเงินสูงขึ้นในไตรมาส การนำมาตรฐานนี้มาใช้เป็นผลดีต่อ PAT ที่ 1.2 พันล้านรูปีในไตรมาส

Vodafone M-Pesa Limited (บริษัทในเครือในต่างประเทศที่ลงทุนเองทั้งหมด) ได้แจ้งต่อ RBI ถึงการถอนใบอนุญาต Prepaid Payment Instrument (PPI) เนื่องจากเราวางแผนที่จะปิดกิจการ PPI และ Busi ness Correspondence (BC) นอกจากนี้ ABIPBL บริษัทในเครือของเรายังตัดสินใจเลิกกิจการธนาคารเพื่อการชำระเงินโดยสมัครใจ ซึ่งการดำเนินการนี้สงผลให้เกิดความสูญเสียจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ที่ 2.1 พันล้านรูปีในระหว่างไตรมาส

รายจ่ายฝ่ายทุน Capex สำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2020 อยู่ที่ 28.4 พันล้านรูปี หนี้สินสุทธิ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2019 อยู่ที่ 1,204.4 พันล้านรูปี ซึ่งรวมถึงข้อผูกพันด้านการชำระเงินค่าความถี่ที่รอการตัดบัญชีที่มาจากรัฐบาลจำนวน 891.80 พันล้านรูปี โดยไม่รวมเงินกู้จากสัญญาเช่าซื้อ เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 211.8 พันล้านรูปี ทำให้หนี้สินสุทธิอยู่ที่ 992.6 พันล้านรูปี (เทียบกับ 1,183.9 พันล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2019)

อัปเดตด้านการประสานกำลัง

นับแต่การรวมกิจการระหว่าง Vodafone India และ Idea Cellular เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2018 เราได้เร่งการประสานกำลังระหว่างทั้งสองธุรกิจ การผนึกกำลังค่าใช้จ่ายจำนวน 84 พันล้านรูปีมีเป้าหมายในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021 ซึ่งเร็วขึ้น 2 ปีจากแผนการเริ่มต้นที่ตั้งไว้เมื่อมีการประกาศถึงการรวมกิจการในเดือนมีนาคม 2017

การประสานกำลังมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเป็นอย่างดี หลังจากที่ดำเนินการประสานเครือข่ายเสร็จสมบูรณ์แล้วในพื้นที่ให้บริการ 10 แห่งในไตรมาสก่อน การประสานกำลังของเรายังดำเนินต่อไปเพื่อให้ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วด้วยวิธีแบบคลัสเตอร์ต่อคลัสเตอร์ในเซอร์เคิลที่เหลือ และผู้ลงทะเบียนของทั้งสองค่ายกำลังย้ายมายังเครือข่ายทีละน้อย โดยมีการครอบคลุมและความสามารถในการรองรับที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เมื่อประกอบกับการจัดแถวให้กับไซต์ TDD ระบบ Massive MIMO และ L900 MHz ณ ไซต์ที่เลือก เป็นผลให้ความเร็วข้อมูลปรับปรุงดีขึ้นในทุก ๆ เซอร์เคิล ความสามารถในการรองรับในเซอร์เคิลที่ประสานกำลังกันเพิ่มขึ้นราวร้อยละ 55 นับแต่เดือนธันวาคม 2018 เรานำเสนอเครือข่าย 4G ที่เร็วที่สุดในเซอร์เคิลที่กรุงเดลีและเบงกอลตะวันตก ตลอดจนเมืองเจนไน ซึ่งอ้างอิงตามข้อมูลจาก Ookla เราเชื่อมั่นว่าความเร็วข้อมูลที่ปรับปรุงดีขึ้นจะนำไปสู่ประสบการณ์ผู้ใช้และการตระหนักรู้ที่เยี่ยมยอด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มขึ้นของผู้ลงทะเบียนของเราต่อไป

เราดำเนินการประสานเครือข่ายแล้วโดยสมบูรณ์ในเมืองสำคัญต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงที่บังคาลอร์ ชัยปุระ อักรา ลัคเรา ไฮเดอราบาด และทริวันดรัม ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการเพื่อการประสานเครือข่าย เราจึงนำอุปกรณ์ส่วนเกินออกไปจากไซต์ต่าง ๆ ราว 38,000 แห่งจากไซต์ที่มีอยู่ร่วมกันทั้งหมดราว 73,000 แห่ง ณ ปลายเดือนมิถุนายน 2019 ซึ่งจะส่งผลดีต่อฐานค่าใช้จ่ายของเราต่อไป นอกจากนี้ เรายังออกจากไซต์ที่มีอัตราการใช้ต่ำประมาณ 14,000 แห่ง ในปลายเดือนเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2019

ไฮไลท์การดำเนินการ

ฐานผู้ลงทะเบียนลดลงไปที่ 320 ล้านรายจาก 334.1 ล้านรายในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2019 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากความปั่นป่วนของลูกค้า ที่เกิดจากการเติมเงินด้วยบัตรกำนัลสำหรับรับบริการ ‘Service Validity Voucher’ ในไตรมาสก่อน อย่างไรก็ตาม ฐานผู้ลงทะเบียน ARPU ระดับสูงของเรายังคงทรงตัว เรามีการริเริ่มด้านการตลาดแบบเฉพาะ เพื่อนำเสนอคุณค่าที่ส่งมอบให้กับลูกค้า ARPU ระดับต่ำที่ดีขึ้น และเพื่อลดความปั่นป่วนในระดับล่าง เรายังนำเสนอกลุ่มข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้นในราคา 229/225 รูปีแบบไม่จำกัดการโทรด้วยเสียง และดาต้า 2/2.5 GB ต่อวันเพื่ออัปเกรดผู้ที่ใช้ดาต้าจำนวนมากจากแพ็คเกจราคา 169/199 รูปี ซึ่งคาดว่าจะปรับปรุง ARPU ให้ได้ขึ้นได้ต่อไป

ความปั่นป่วนลดลงไปที่ร้อยละ 3.7 ในไตรมาสที่ 1 เมื่อเทียบกับร้อยละ 7.2 ในไตรมาสที่ 4 ส่วน ARPU ในขณะนี้อยู่ที่ 108 รูปี ซึ่งสูงขึ้นที่ร้อยละ 3.8 เมื่อเปรียบเทียบแบบรายไตรมาส โดยอยู่ที่ 104 รูปี ในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2019 แนวโน้มแบบต่อเนื่องจากการวัดทั้งสองแบบสะท้อนให้เห็นว่าเกิดการตัดการเชื่อมต่อจากลูกค้าระดับล่างในระหว่างไตรมาสที่ 4 และไตรมาสที่ 1 ซึ่งเป็นผลตามมาจากการเติมเงินด้วยบัตรกำนัลสำหรับรับบริการ ‘Service Validity Voucher’

เราได้ทำการเพิ่มไซต์ FDD ประมาณ 6,500 แห่งเพื่อเพิ่มความครอบคลุมสำหรับ 4G และมีการแปรแถวไซต์ TDD จำนวน 15,000 แห่ง และไซต์ Massive MIMO ประมาณ 4,400 แห่งในโลเคชั่นหลัก ๆ ที่เลือก เพื่อเพิ่มความสามารถในการรองรับดาต้าในระหว่างไตรมาส เรายังริเริ่ม 4G คลื่นความถี่ 900 MHz ในโลเคชั่นเฉพาะ เช่น กรุงเดลี มุมไบ รัฐเกรละ รัฐคุชราต และรัฐหรยาณาผ่านการจัดสรรคลื่นความถี่แบบพลวัต ซึ่งการริเริ่มเหล่านี้ส่งผลให้ความสามารถในการรองรับปรับปรุงดีขึ้นอย่างชัดเจน และสร้างประสบการณ์ลูกค้าของเราได้มากยิ่งขึ้น การครอบคลุมประชากร 4G ของเรามีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่ประมาณร้อยละ 68.6 (ชาวอินเดียราว 830 คน) เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2019 เปรียบเทียบกับร้อยละ 50 สำหรับแต่ละค่ายในเดือนสิงหาคม 2018

ในระหว่างไตรมาส เรามีลูกค้า 4G เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านราย ซึ่งทำให้ฐานผู้ลงทะเบียน 4G ทั้งหมดอยู่ที่ 84.8 ล้านราย ฐานผู้ลงทะเบียนบรอดแบรนด์สำหรับไตรมาสอยู่ที่ 110.5 ล้านราย ปริมาณดาต้าเติบโตขึ้นที่ร้อยละ 9.3 เป็น 3,222 พันล้าน MB เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน นาทีโดยรวมสำหรับเครือข่ายลดลงที่ร้อยละ 3.8 ในระหว่างไตรมาส ซึ่งมีปัจจัยหลักจากการลดลงของนาทีโทรเข้าที่เป็นผลจากการตัดการเชื่อมต่อจากลูกค้าแบบ ‘รับสายอย่างเดียว’ หรือ ‘ARPU ระดับต่ำ’

การระดมทุน /การแปลงสินทรัพย์เป็นเงินตรา

ในไตรมาสนี้ เราได้รับรายได้จำนวน 250 พันล้านรูปีจากการดำเนินการแล้วเสร็จในประเด็นทางด้านสิทธิที่ประสบผลสำเร็จ การรวมกิจการระหว่าง Bharti Infratel และ Indus Towers คาดว่าจะสิ้นสุดในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบฯ 2020 ส่วนของ Vodafone Idea ที่ร้อยละ 11.15 ใน Indus คิดเป็นมูลค่าได้ประมาณ 56.3 พันล้านรูปี (อ้างอิงตาม VWAP สำหรับหุ้นของ Bharti Infratel ในระหว่างวันทำการซื้อขาย 60 วันสุดท้าย ณ 30 มิถุนายน 2019) ซึ่งเราวางแผนในการแปลงเป็นเงินตราหลังจากที่เสร็จสมบูรณ์ เรายังเข้าสำรวจทางเลือกในการแปลงทรัพย์สินที่เป็นไฟเบอร์ทั้งในเขตเมืองและนอกเมืองที่มีระยะทางกว่า 159,000 กิโลเมตรเป็นเงินตรา ซึ่งจะทำให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินยิ่งขึ้น

เกี่ยวกับ Vodafone Idea Ltd. (เดิมคือ Idea Cellular Ltd)

Vodafone Idea Limited เป็นบริษัทในกลุ่ม Aditya Birla Group และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Vodafone Group เป็นผู้บริการด้านโทรคมนาคมชั้นนำของอินเดีย บริษัทให้บริการด้านเสียงและดาต้าผ่านทางแพลตฟอร์ม 2G, 3G และ 4G ทั่วประเทศอินเดีย ด้วยถือครองฐานคลื่นความความถี่ขนาดใหญ่ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการในด้านดาต้าและเสียงที่กำลังเติบโต บริษัทจึงมุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์อันเป็นที่พึงพอใจให้กับลูกค้า และมุ่งสนับสนุนต่อการสร้าง ‘Digital India’ โดยทำให้ประชากรหลายล้านคนสามารถเชื่อมต่อและมีวันพรุ่งนี้ที่ดีขึ้น บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อนำเสนอเทคโนโลยีที่ใหม่ขึ้นและชาญฉลาดยิ่งขึ้น ทำให้ลูกค้ารายย่อยและระดับองค์กรพร้อมเข้าสู่อนาคตด้วยข้อเสนอเชิงนวัตกรรม ที่สามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายผ่านระบบนิเวศน์ของช่องทางดิจิทัล ตลอดจนช่องทางอื่นตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง บริษัทได้รับการขึ้นทะเบียนใน National Stock Exchange (NSE) และ BSE ในอินเดีย

Vodafone Idea Limited (เดิมคือ Idea Cellular Ltd)
CIN L32100GJ1996PLC030976,
สำนักงานจดทะเบียน: Suman Tower,
Plot No. 18, Sector 11,
Gandhinagar 382011,
Gujarat, India
โทร: 91 79 6671 4000
แฟ็กซ์: 91 79 2323 2251
เว็บไซต์: www.vodafoneidea.com
อีเมล: info@vodafoneidea.com