14 ตุลาคม, 2562
Shareรวมกิจการ | เฉพาะกิจการ | ||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2020 | ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2019 | ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2020 | ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2019 | ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2020 | |||||
UTCL | Century (ครองสิทธิ์) |
รวมทั้งสิ้น | UTCL | Century (ครองสิทธิ์) |
รวมทั้งสิ้น | ทั่วอินเดีย | |||
ยอดขายสุทธิ | 9,491 | 9,088 | 8,383 | 746 | 9,129 | 7,732 | 977 | 8,710 | 9,098 |
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษี (PBIDT) | 2,072 | 1,564 | 1,984 | 10 | 1,995 | 1,427 | 117 | 1,544 | 2,059 |
กำไรหลังภาษี (PAT) | 579 | 356 | 739 | (100) | 639 | 391 | (20) | 371 | 612 |
UltraTech Cement Limited ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 30 กันยายน 2019 ในวันนี้
UltraTech เข้าซื้อส่วนกิจการซีเมนต์ของ Century เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยหลักการในการแยกกิจการมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2019 เป็นต้นมา ซึ่งการเข้าซื้อกิจการนี้ทำให้ความสามารถในการผลิตซีเมนต์ของ UltraTech อยู่ที่ 117.4 mtpa โดยรวมกำลังการผลิตในต่างประเทศด้วย จึงทำให้ UltraTech ขึ้นสู่สถานะการเป็นบริษัทซีเมนต์รายใหญ่เป็นอันดับ 3ของโลกที่อยู่นอกอาณาเขตประเทศจีน อีกยังเป็นบริษัทเพียงแห่งเดียวในโลกที่มีกำลังการผลิตเกินกว่า 100 ล้านตันภายในประเทศเดียว ที่อยู่นอกอาณาเขตประเทศจีน
UltraTech ทำการจัดสรรหุ้นทุนจำนวน 13,961,960 หุ้นในราคา 10 รูปีต่อหุ้นให้กับผู้ถือหุ้น Century เมื่อวันที่ 14ตุลาคม 2019 ซึ่งเป็นวันที่บันทึกที่กำหนดโดย Century ตามหลักการ
The National Company Law Tribunal, Mumbai Bench ให้การอนุมัติต่อหลักการแล้ว โดยกำหนดวันไว้เป็นวันที่ 20 พฤษภาคม 2018 ซึ่งส่งผลให้มีการแถลงถึงการเงินของบริษัทใหม่โดยนับจากวันนั้น เพื่อนำผลทางการเงินจากธุรกิจซีเมนต์ของ Century ที่ซื้อกิจการมารวมไว้ด้วย
ไตรมาสที่ผ่านมาประสบภาวะความกดดันจากความต้องการซีเมนต์ เนื่องจากมีฤดูมรสุมที่ยาวนานและเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักในแทบทุกพื้นที่ของประเทศ ซึ่งสถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นในภาคตะวันออกและภาคกลางของอินเดียอันเป็นที่ตั้งของโรงงานต่าง ๆ ของ Century อีกโรงงานเหล่านี้ยังอยู่ในแผนการปิดโรงงานประจำปีในช่วงไตรมาสนี้ด้วย ซึ่งปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลต่อผลประกอบการของโรงงานซีเมนต์ทั้งหลายของ Century ที่เข้าซื้อกิจการ หากแต่รากฐานของ Ultratech ที่ปูไว้ทั่วประเทศอินเดียส่งผลดีต่อสถานการณ์ความต้องการในตลาดในตอนเหนือของอินเดีย ทำให้มีประสบการณ์อย่างกว้างขวางในการผสานกำลังที่มีอยู่เดิมเข้ากับหน่วยการผลิตที่เข้าซื้อกิจการเพื่อสร้างมาตรฐานในการดำเนินการ โดยบริษัทมุ่งหมายที่จะทำเช่นเดียวกันนี้กับโรงงานซีเมนต์ที่ซื้อกิจการมาเหล่านี้
ยอดขายสุทธิแบบรวมกิจการอยู่ที่ 94,910 ล้านรูปี เทียบกับ 90,880 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2019 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 20,720 ล้านรูปี เทียบกับ 15,640 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 5,790 ล้านรูปี เทียบกับ 3,560 ล้านรูปี
การบำรุงรักษาโรงงานประจำปีมีการดำเนินการในระหว่างไตรมาส ส่งผลให้เกิดต้นทุนผันแปรเพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ ในทางกลับกัน ต้นทุนด้านพลังงานลดลงไปที่ร้อยละ 9 โดยมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการแบ่งปันการบริโภคพลังงานสีเขียวจากร้อยละ 8.4 ในไตรมาสที่ 2 ปีงบฯ 2019 เป็นร้อยละ 10.5 ในระหว่างไตรมาส ซึ่งทำให้มีการบริโภคพลังงานที่ลดลงและได้รับพลังงานที่ยั่งยืน
UltraTech Nathdwara Cement Limited
ด้วยการบูรณะโรงงานครั้งใหญ่และการอัปเกรดคุณภาพที่ดำเนินการแล้วเสร็จ UltraTech Nathdwara Cement Limited จึงผสานกำลังเข้ากับระบบและกระกระบวนการของ UltraTech แล้วโดยปริยาย ซึ่งโรงงานสามารถบรรลุถึงประสิทธิภาพสูงสุดแล้ว ในระหว่างช่วงปิดปรับปรุงเพื่อทำการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่โดยบริษัทนี้ ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นและการใช้กำลังการผลิตลดลง อย่างไรก็ตาม บริษัทบันทึกผลประกอบการที่แข็งแกร่งในตลาดตอนเหนือของประเทศ โดยถึงจุดคุ้มทุน PAT ถึงแม้ว่ามีภาระจากดอกเบี้ยที่สูงขึ้นก็ตาม
การเข้าซื้อกิจการในปีงบฯ 2018
กำลังการผลิตซีเมนต์ที่ 21.2 mtpa ที่ซื้อกิจการมาจาก Jaiprakash Associates ในเดือนมิถุนายน 2017 มีการดำเนินการควบคู่ไปกับโรงงานของบริษัทต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิม และบรรลุเป้าหมายจุดคุ้มทุน PBT ในระหว่างช่วงไตรมาสที่แล้ว โรงบด Bara Grinding มีกำหนดการเริ่มดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2020
รายจ่ายฝ่ายทุน
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารในวันนี้ มีการอนุมัติรายจ่ายฝ่ายทุนที่ 9,400 ล้านรูปี เพื่อทำการผลิตผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียมด้วยความสามารถในการบดที่เพิ่มขึ้น 0.6 mtpa ในแต่ละแห่งในรัฐพิหารและเบงกอลตะวันตก และโรงบดแห่งใหม่ที่มีกำลังการผลิต 2.2 ล้านตันในรัฐโอริศา ซึ่งทั้งนี้จะเป็นการสร้างสถานะที่แข็งแกร่งให้กับบริษัทในตลาดภาคตะวันออกของประเทศ โดยโรงงานทุกแห่งจะเริ่มดำเนินงานในเดือนมกราคม-มีนาคม ปี 2021
แนวโน้ม
ด้วยพื้นฐานความต้องการที่ดีที่เห็นได้ในตอนเหนือของอินเดียในไตรมาสที่ 2 ที่พื้นที่ส่วนใหญ่ในภาคเหนือนั้นไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนักและน้ำท่วม จึงมีความเป็นไปได้ที่จะสร้างบรรทัดฐานความต้องการซีเมนต์ต่อไป อีกคำมั่นอย่างแข็งขันของภาครัฐที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจและการผลักดันการใช้จ่ายสำหรับโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับการเติบโตของความต้องการซีเมนต์ ฝนที่ตกหนักในประเทศยังประโยชน์ให้กับผลผลิตข้าวในอินเดียที่ปลูกในฤดูมรสุม (Kharif Crop) ซึ่งจะสามารถช่วยฟื้นฟูความต้องการในชนบทได้อีกด้วย และด้วยบริษัทลงหลักปักฐานอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในประเทศ จึงอยู่ในสถานะที่เหมาะสมที่สุดที่จะได้ประโยชน์จากความต้องการซีเมนต์ที่ฟื้นคืนกลับมา ถึงแม้ต้องเผชิญภาวะผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นจากรูปแบบความต้องการที่แปรเปลี่ยนไปในบางพื้นที่ของประเทศ อันเนื่องมาสาเหตุภายนอกก็ตาม