เซลลูโลส ซึ่งเป็นพอลิเมอร์อินทรีย์ที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพและมีมากมายหลายชนิดที่สุดในโลก จะย่อยสลายไปตามธรรมชาติเพื่อให้เกิดความยั่งยืน Aditya Birla Group นำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเส้นใยเซลลูโลสที่ทั้งหมดมาจากธรรมชาติและจากแหล่งที่มีความยั่งยืน โดยอยู่ภายใต้ชื่อแบรนด์ Birla Cellulose

ด้วยตระหนักถึงสินทรัพย์ที่เป็นมรดกสืบทอดมาและการประยุกต์ใช้เซลลูโลส ทาง Birla Cellulose จึงสรรหาวัตถุดิบที่เป็นสารอินทรีย์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้จากเยื่อไม้ธรรมชาติ 100% ซึ่งสามารถให้เส้นใยเรยอน (VSF) ที่จะนำไปทำเครื่องแต่งกายที่สามารถแยกแยะได้ด้วยความสบายในการสวมใส่และความมีสไตล์ต่อไป

ทุกวันนี้ Birla Cellulose เป็นผู้นำของโลกในด้าน VSF และเป็นพันธมิตรด้านวัตถุดิบที่วางใจได้สำหรับภาคธุรกิจสิ่งทอทั่วโลกและผ้าที่เกิดจากการขึ้นรูปโดยไม่ถักไม่ทอ ด้วยการผลิตเส้นใยเซลลูโลสขึ้นใหม่ได้ Birla Cellulose จึงทิ้งร่องรอยที่ไม่อาจเลือนลางลงได้ในโลกของสิ่งทอและให้คำมั่นสัญญาสำหรับอนาคตที่ยั่งยืนต่อชุมชน

กำหนดเกณฑ์มาตรฐานทางอุตสาหกรรม

Birla Cellulose เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Sustainable Apparel Coalition โดยเป็นผู้ผลิตเส้นใยเซลลูโลสรายแรกของโลกที่บรรลุเป้าหมายการเป็นกลางทางคาร์บอน โดยได้รับการจัดอันดับที่ 1 ในด้านวิธีการปฏิบัติสำหรับผืนป่าที่ยั่งยืนในรายงาน Canopy Hot Button Report ประจำปี 2019 อีกยังเป็นผู้ผลิตวิสคอสรายแรกที่ทำการประเมินการปล่อยมลภาวะทางอ้อมของตนได้อย่างครอบคลุม ยิ่งไปกว่านั้น การลงทุนในด้านเทคโนโลยีและการนำกลับมาใช้ใหม่ของบริษัทยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานของบริษัทเองได้ด้วย

ในปี 2019 คาร์บอนกว่า 3.4 ล้านตันถูกแยกออกไว้ในผืนป่าที่มีการบริหารจัดการโดยตรงโดย Birla Cellulose นวัตกรรม ประกอบกับแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศส่งผลให้บริษัทสามารถลดความเข้มน้ำได้เป็นผลสำเร็จที่ 30% เมื่อเทียบกับเส้นฐานในปี 2015 ซึ่งเป็นการสร้างเกณฑ์มาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรม ด้วยการใช้เทคโนโลยีใหม่ที่อิงตามหลัก 3R (Reduce, Reuse, Recycle) บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเพื่อลดความเข้มน้ำให้ได้ 50% ภายในปี 2025 จากเส้นฐานปี 2015 ความยั่งยืนเป็นสิ่งที่อยู่ในใจกลางของความคิดริเริ่มของ Birla Cellulose เสมอ และฝังลึกอยู่ในวิธีการแบบ 5 เสาหลักที่บริษัทปฏิบัติตาม

1. การสรรหาที่มีความรับผิดชอบ

ถึงแม้ว่าเส้นใยเซลลูโลสจะนำกลับมาใช้ใหม่ได้ผ่านทางการสรรหาที่มีความรับผิดชอบ Birla Cellulose ยังทำให้มั่นใจได้ว่าจะเป็นไปตามแนวทางนี้เพื่อสืบต่อไปยังคนรุ่นใหม่ในอนาคตต่อไป บริษัทได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการอนุรักษ์ป่าที่ถูกคุกคาม ป่าที่อยู่ในพื้นที่ที่มีคุณค่าสูงต่อการอนุรักษ์ (High Conservation Value (HCV)) และความหลากหลายทางชีวภาพในผืนป่านั้น ๆ ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้ระบบการจัดการป่าไม้ที่ดีที่สุดเท่าที่มี นโยบายในการจัดหาไม้เป็นไปตามมาตรฐานโลกที่เข้มงวด และได้รับการรับรองโดย Forest Stewardship Council (FSC), Sustainable Forestry Initiative (SFI) และ Programme for Endorsement of Forest Certification (PEFC)

2. การผลิตที่มีความรับผิดชอบ

ด้วยการขยายกิจการในลักษณะย้อนกลับ (Backward Integration) Birla Cellulose ได้เข้าร่วมในการผลิตเยื่อไม้และเส้นใย และมีความภาคภูมิใจในตนเองที่สามารถลดการบริโภคพลังงานและน้ำมันลงได้ การใช้น้ำนั้นจัดว่าอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดในโลก และหน่วยงานการผลิตของบริษัทก็เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 14001 และ ISO 9001 Birla Cellulose เป็นหนึ่งในแบรนด์เส้นใยที่ได้นำ Higg FEM 3.0 มาใช้ (ดัชนี Higg คือชุดของเครื่องมือที่พัฒนาโดย Sustainable Apparel Coalition เพื่อการวัดที่เที่ยงตรงและรายงานที่โปร่งใสที่เกี่ยวกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน) Higg FEM คือ Facility Environment Module)

3. ผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน

LIVA ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ของ Birla Cellulose มีการผลิตผืนผ้าที่มีความนุ่มและพลิ้วที่ทำมาจากเส้นใยเซลลูโลสตามธรรมชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากเยื่อไม้ ภายใต้นโยบายการสรรหานั้น บริษัทได้ทำให้มั่นใจได้ว่ามีต้นไม้ที่ปลูกมากกว่าที่ถูกตัด และดังนั้นพื้นที่สีเขียวจึงได้รับการรักษาไว้ โดยสามารถรักษาพื้นที่ได้มากกว่าถึง 6-7 เท่าเมื่อเทียบกับฝ้าย และสามารถประหยัดน้ำได้มากกว่าปกติได้ 3-4 เท่า

Livaeco เป็นผ้าของ LIVA ในแบบที่คำนึงถึงระบบนิเวศน์ยิ่งขึ้น โดยประกอบด้วยเนื้อผ้าที่หลากหลายที่ผลิตขึ้นเพื่อความยั่งยืนเป็นสำคัญ โดยผลิตอย่างประหยัดน้ำ ลดการปลดปล่อยมลพิษ และลดผลกระทบที่มีต่อโลกตลอดขั้นตอนการผลิต Livaeco ใช้น้ำปริมาณต่ำที่สุดในภาคอุตสาหกรรมวิสคอส โดยอิงตามดัชนี Higg วัตถุดิบนั้นมีแหล่งมาจากป่าที่มีความยั่งยืน 100% ที่ผ่านการรับรอง FSC และสามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าได้ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

เส้นใยนั้นสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติโดยสมบูรณ์ และเมื่อถึงเวลาที่ผ้าหมดอายุการใช้งาน ก็จะเสื่อมสลายไปภายในเวลาเพียง 8 สัปดาห์ (เทียบกับผ้าชนิดอื่นที่ใช้เวลาถึง 450 ปี) ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงการที่ต้องนำไปฝังกลบ ผ้าแต่ละผืนลด CO2 ได้ 300 กรัม ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2 ต้น

แบรนด์จาก Birla Cellulose อื่น ๆ - LIVA REVIVA, Birla Viscose และ Modal ทั้งหมดเป็นผ้าที่ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ ที่มีแหล่งที่มาจากผืนป่ายั่งยืนเต็ม 100%

4. พันธมิตรอันทรงคุณค่า

การประสานการทำงานร่วมกันและการเป็นหุ้นส่วนกันนั้นมีผลมากมายต่อการส่งเสริมความยั่งยืน ด้วยยังคงมีการปรับปรุงในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ความมุ่งมั่นในการให้บริการ นวัตกรรม และด้วยคำนึงถึงการปรับปรุงรากฐานทางสิ่งแวดล้อมเสมอ Birla Cellulose จึงได้จัดให้มีการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain Integration) และแพลตฟอร์มการมีส่วนร่วม ที่ใช้ชื่อว่า LIVA Accredited Partner Forum (LAPF) ซึ่งเป็นครั้งแรกของกลุ่มอุตสาหกรรม

5. ความรับิดชอบต่อสังคม

เพื่อให้สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ด้าน CSR ของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ทาง Birla Cellulose จึงทำงานร่วมกับชุมชนหมู่บ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงานการผลิตของตน ซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับชาวบ้านผ่านโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการดูแลสุขภาพ การเพิ่มขีดความสามารถของสตรี การศึกษา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน น้ำสะอาด และการสุขาภิบาล โปรแกรมต่าง ๆ ของกลุ่มได้เข้าไปส่งเสริมชีวิตผู้คนถึง 7.5 ล้านคนต่อปีทั่วหมู่บ้าน 5,000 แห่ง

ผ่านแนวทางการปฏิบัติที่เป็นเลิศ การริเริ่มใหม่ ๆ การร่วมเป็นพันธมิตร การสรรหาแหล่งที่มาอย่างรับผิดชอบและการผลิต Birla Cellulose จะยังคงสืบสานความมุ่งมั่นในการทำให้แฟชั่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป ตลอดจนเพื่อให้ชุมชนโดยส่วนรวมมีอนาคตที่ยั่งยืนอย่างมั่นคง