Shri G. D. Birla: ผู้มีวิสัยทัศน์ผู้พลิกโฉมอินเดีย

การเดินทาง

ผู้นำผู้ยิ่งใหญ่ คุณ Shri G. D. Birla เป็นนักปฏิรูป นักอุตสาหกรรม และเหนือสิ่งอื่นใด คือผู้ที่มีแนวคิดชาตินิยม เป็นที่เลื่องลือถึงจิตวิญญาณในการเป็นผู้ประกอบการ และได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในอุตสาหกรรมอินเดีย โดยเป็นผู้วางรากฐานให้กับอาณาจักร Birla นักธุรกิจผู้มีวิสัยทัศน์ Shri G.D. ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของอินเดียในฐานะผู่ก่อตั้งหนึ่งในกลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดีย แนวคิดชาตินิยมของเขานำมาซึ่งเสรีภาพ และเป็นการสร้างแม่แบบทางธุรกิจที่แตกต่างสำหรับนักธุรกิจแบบพึ่งพาตนเอง ซึ่งทำให้อินเดียสามารถยกระดับขึ้นสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ และทำให้อุตสาหกรรมอินเดียปรากฏอยู่บนแผนที่โลก

ครั้งหนึ่ง คุณ Shri G.D. Birla กล่าวว่า “เราถูกขับเคลื่อนด้วยพลังบางอย่าง และคุณก็ทำในสิ่งที่คุณไม่เคยวางแผนมาก่อน” การเดินทางของเขาเริ่มต้นในรัฐราชสถาน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตระกูลมาร์วารี (Marwari) ดั้งเดิมในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในเมือง Pilani รัฐราชสถานเมื่อปี 1894 ซึ่งตรงกับวันรามนวมีหรือวันประสูติของพระรามอันเป็นมงคล เขาเป็นบุตรคนที่สามของคุณ Shri Baldeodasji ซึ่งเป็นบุตรชายคนเดียวของ Shri Seth Shiv Narayan Birla

รากเหง้าของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group สามารถสืบย้อนไปยังปี 1857 และที่หมู่บ้านในเมือง Pilani เมื่อคุณ Shri Seth Shiv Narayan Birla เริ่มทำการค้าฝ้าย หลายปีต่อมา คุณ Shri G.D. Birla ก่อตั้งโรงกระสอบ Birla แห่งแรก ซึ่งเป็นก้าวแรกของเขาที่เข้าสู่ภาคการผลิต เขาทำการจารึกประวัติองค์กรสัญชาติอินเดียต่อไป ในฐานะผู้สร้างหนึ่งในอาณาจักรอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ประกอบด้วยบริษัทในภาคส่วนหลัก ๆ ที่ประสบความสำเร็จ

ไหวพริบทางธุรกิจ

เติบโตในเมือง Pilani และ Calcutta (ปัจจุบันคือโกลกาตา) คุณ Shri. G.D. Birla บุกเข้าสู่ธุรกิจในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และด้วยเป็นที่ทราบกันดีถึงการมองการไกลของเขา เขามักพูดเน้นถึงการสนับสนุนการประกอบกิจการภายในประเทศและความไม่พอใจนายทุนต่างชาติและสินค้าจากต่างประเทศ เขาพยายามแทนที่สิ่งทอจากต่างประเทศด้วยเสื้อผ้าที่ผลิตเอง โดยใช้เทคโนโลยีที่ดีสุดเท่าที่มี

กว่าศตวรรษที่ผ่านมาในปี 1919 เขาบุกเข้าสู่ภาคการผลิตเชิงอุตสาหกรรมด้วยการก่อตั้งโรงกระสอบแห่งแรก Birla Jute Manufacturing Co. Ltd. 

ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของตระกูล Birla ในการก้าวเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมการผลิต โรงงานเริ่มดำเนินงานท่ามกลางโอกาสที่เป็นไปได้มากมายมหาศาล และในที่สุดเขาก็สามารถขยายอาณาจักรอุตสาหกรรมจนแข็งแกร่งพร้อมด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ในเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการของเขานั้น เขาเข้าซื้อกิจการหลายอย่างตั้งแต่สิ่งทอไปจนถึงไร่ชา และในที่สุดก็ก่อตั้งรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับอาณาจักรธุรกิจที่มีความหลากหลายทั้งในด้านซีเมนต์ อะลูมิเนียม เคมีภัณฑ์ เรยอน โทรคมนาคม และบริการทางการเงิน

การเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพ

ชีวิตและอาชีพของคุณ Shri G.D. Birla เปลี่ยนไปในปี 1920 เขามีบทบาทสำคัญในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของอินเดียโดยเป็นเพื่อนคู่คิดของ Mahatma Gandhi ในขณะที่ Gandhiji ทุ่มเทให้กับเสรีภาพทางการเมืองของประเทศ คุณ Shri G.D. Birla ก็ทำงานเคียงคู่กันโดยมุ่งเน้นไปที่เสรีภาพทางเศรษฐกิจของอินเดีย เขาทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่คู่กับ Gandhiji ในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของประเทศ เข้าร่วมในการเคลื่อนไหวแบบ ‘การปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือ’ (Non-Cooperation Movement) และผ่านการเคลื่อนไหว Quit India Movement

ในขณะที่อายุ 27 ปี เขากลายเป็นสมาชิกของสภานิติบัญญัติเบงกอล (Bengal Legislative Assembly) ปีต่อมา เขาเข้าซื้อกิจการหนังสือพิมพ์ Empire และตั้งชื่อใหม่เป็น New Empire เขายังเข้าควบคุมกิจการหนังสือพิมพ์ Hindustan Times ที่ภายหลังมีการบริหารจัดการโดยบุตรชายของเขา คุณ Shri K.K. Birla

‘Capital of India’

ในระหว่างการเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพ Birla House เป็นที่รู้จักกันในนาม Capital of India ประวัติศาสตร์ของอินเดียพัวพันอยู่กับ Birla House ซึ่งปัจจุบันนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Gandhi Smriti บ้านขนาด 12 ห้องนอนที่สร้างโดย Shri G.D. Birla ให้การต้อนรับแก่นักต่อสู้เพื่อเสรีภาพมากมายหลายท่าน โดยนอกเหนือจาก Gandhiji แล้ว คุณ Shri G.D. Birla ยังใกล้ชิดกับ Sardar Vallabhai Patel, C. Rajagopalachari, Dr. Rajendra Prasad, Lal Bahadur Shastri และ K.M. Munshi ด้วย Mahatma Gandhi ถึงแก่กรรมใน Birla House เมื่อเวลา 17.17 น. เมื่อวันที่ 30 มกราคม 1948 Lal Bahadur Shastri รับคำแนะนำที่เกี่ยวกับ IMF และ World Bank จากเขา และคุณ Sardar Vallabhbhai Patel คนเหล็กแห่งอินเดียก็ถึงแก่กรรมที่ Birla House ในบอมเบย์ (ปัจจุบันคือมุมไบ) ด้วยเช่นกัน

นักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพล

ในยุคที่ยังตกเป็นอาณานิคม คุณ Shri G.D. Birla ก้าวออกมาเผชิญหน้ากับชาวอังกฤษมากขึ้น เนื่องจากวิธีที่พวกเขาได้เข้ามาควบคุมอุตสาหกรรมอินเดีย ในปี 1925 เขาได้ก่อตั้งหอการค้าอินเดียร่วมกับกลุ่มนักอุตสาหกรรมผู้บุกเบิก ซึ่งเชื่อมโยงอย่างเหนียวแน่นกับการเคลื่อนไหวเพื่อเสรีภาพของอินเดีย โดยเป็นกลุ่มก้อนแรกที่มีการจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นเสียงให้กับอุตสาหกรรมอินเดียท้องถิ่น

ตั้งแต่ปี 1926 คุณ Shri G.D. Birla เป็นหนึ่งในนักพูดที่มีอิทธิพลที่สุดของธุรกิจขนาดใหญ่ของอินเดีย ร่วมกับท่าน Purshottamdas Thakurdas เขาร่วมก่อตั้งสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมอินเดีย (Federation of Indian Chambers of Commerce and Industry (FICCI)) ซึ่งเป็นองค์กรธุรกิจขั้นสูงสุดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดในอินเดีย อันเป็นตำนานที่เชื่อมสายใยอย่างแนบแน่นกับการต่อสู้เพื่อเสรีภาพของอินเดีย เป็นการปฏิวัติสู่อุตสาหกรรมและการเกิดขึ้นของเศรษฐกิจระดับโลกที่มีการเติบโตรวดเร็วที่สุด เขาเป็นผู้แทนอินเดียในการประชุมโต๊ะกลมครั้งแรกและครั้งที่สองที่กรุงลอนดอนร่วมกับ Mahatma Gandhi ในปี 1945 เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่รู้จักกันในชื่อ Bombay Plan อันเป็นโครงการริเริ่มหลัก ๆ ของภาคเอกชน ช่วงระหว่างปี 1921 และ 1945 เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดในงานอาชีพของคุณ Shri G.D. Birla โดยเป็นช่วงที่ทำให้เขากลายเป็นนักอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของอินเดียก่อนได้รับเอกราข

ผู้ใจบุญ

คุณ Shri G.D. Birla เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในการให้ เขาให้การสนับสนุนต่อการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ ให้การช่วยเหลือทางการเงิน โดยได้เติมเต็มความฝันให้กับชาวอินเดียนับล้านสู่เอกราชอินเดีย เพื่อให้การสนับสนุนทางการเงินต่อการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ เขาให้การเกื้อหนุนต่อกองทุน Tilak Swaraj เป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นการสดุดีต่อ Bal Gangadhar Tilak ในวันครบรอบการเสียชีวิตของเขาในปีแรก โดยตั้งเป้าว่าจะรวบรวมเงินทุนจำนวน 10 ล้านรูปีเพื่อช่วยในการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และต่อต้านการปกครองของอังกฤษ เขาบริจาคเงิน 200,000 รูปีเพื่อยกระดับ Harijans และจากนั้นไม่นานก็เริ่มเป็นผู้นำ Harijan Sevak Sangh

เขายังเป็นผู้ที่เชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในพลังแห่งการศึกษา โดยในปี 1929 ภายใต้ Birla Education Trust เขาสร้างโรงเรียนประถมโดยให้การมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาการศึกษาในรัฐราชสถาน ในช่วงทศวรรษ 1940 ด้วยการร้องขอจาก Sardar Vallabhbhai Patel, Shri G.D. Birla เขาบริจาคเงินจำนวน 2.5 ล้านรูปีเพื่อก่อตั้งวิทยาลัย Birla Vishwakarma Mahavidyalaya ใน Baroda (ปัจจุบันคือ Vadodra) นอกจากนี้เขายังมอบเงินจำนวน 70,000 รูปีให้กับมหาวิทยาลัย Aligarh Muslim และช่วยก่อตั้งมหาวิทยาลัย Banaras Hindu อีกด้วย

Shri. G. D. Birla ช่วยวางแนวทางการศึกษาให้กับประเทศ โดยหนึ่งในสถาบันต่าง ๆ ที่เขาก่อตั้งขึ้นคือ Birla Institute of Technology and Sciences (BITS) อันทรงเกียรติในเมือง Pilani รางวัล Padma Vibhushan เขายังมีบทบาทสำคัญในการช่วยก่อตั้งวัด หอดูดาว และโรงพยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศอินเดียอีกด้วย

แนวคิดทรัสตี

แนวคิดทรัสตีของ Mahatma Gandhi เป็นรากฐานทางปรัชญาให้กับคุณ Shri G D Birla. ครั้งหนึ่งเขากล่าวว่า “มันเป็นนโยบายของบ้าน Birla ที่จะไม่สร้างธุรกิจด้วยมุมมองที่จะสั่งสมทุน แต่ต้องเพื่อพัฒนาสายงานที่ไม่มีการสำรวจมาก่อน ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่ยังไม่ได้รับการพัฒนาของประเทศ ส่งเสริมความรู้เชิงปฏิบัติ สร้างแรงงานที่มีทักษะและความสามารถด้านการบริหารจัดการ เผยแพร่การศึกษา และเหนือสิ่งอื่นใด คือเพิ่มพูนความพยายามให้กับผู้นำประเทศผู้ที่กำลังฟันฝ่าเพื่อกอบกู้เอกราชของอินเดียใหม่ ที่ปราศจากความต้องการ คำสาปแช่งเรื่องการว่างงาน ความประมาทเลินเล่อและโรคร้าย” ทางกลุ่มได้นำแนวคิดทรัสตีมารวมไว้ในจุดประสงค์ของบริษัท ซึ่งหมายความว่าส่วนหนึ่งของกำไรจะได้รับการจัดสรรเพื่อตอบแทนคืนสู่สังคม ผ่านทางกิจกรรมที่เป็นไปเพื่อการดำรงชีพที่ดีเพื่อสังคมส่วนรวม ซึ่งในปัจจุบันนี้ วัฒนธรรมการให้การดูแลและการให้หยั่งรากลึกอยู่ในสายเลือดของ of Aditya Birla Group อย่างยิ่ง

มรดกที่สืบทอดต่อไป

คุณ Shri G.D. Birla ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 1983 ประธานกลุ่ม คุณ Kumar Mangalam Birla ได้เรียนรู้มาจากปู่ทวดของเขาว่า ในขณะที่คุณสามารถได้รับความรักและความชื่นชมจากผู้คน ก็มีแบบแผนที่ต้องปฏิบัติตาม คุณ Birla รำลึกถึงคุณ Shri G.D. Birla ว่าเป็นผู้ที่ละเอียดอ่อนในเรื่องต่าง ๆ อย่างเรื่องการตรงต่อเวลาในการงานของครอบครัว และการแต่งกายที่เหมาะสมในงานต่าง ๆ มีครั้งหนึ่งที่เขาถูกตำหนิเล็กน้อยเนื่องจากมาสายในอดีต ซึ่งได้ทำให้เปลี่ยนไปในเวลาต่อมา

คุณ Shri G. D. Birla ให้ความใส่ใจต่อเหลนของเขาเป็นอย่างมาก คุณ Birla จำได้ว่า: “ท่านถึงแก่กรรมตอนที่ผมอายุ 15 ผมเลยจำท่านได้อย่างชัดเจน ท่านให้ความสนใจอย่างมากกับเรื่องเล็ก ๆ ที่สำคัญต่อผม ตอนนั้นผมมีสอบ และไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ท่านจะโทรหาผมแล้วถามว่าผมทำได้ไหม ถ้าผมบอกท่านว่าผมจะไม่ทานข้าวเย็นเพราะผมจะออกไปข้างนอก ท่านจะอยากทราบว่าผมจะไปไหน ถ้าผมบอกท่านว่าผมจะไป Sardar ท่านจะอยากทราบว่าอยู่ที่ไหน อะไรคือปาววาจี (Pav Bhaji) อะไรทำนองนี้”

ครั้งหนึ่งคุณ Birla กล่าวว่าเขาใช้เวลานานมากในการข้ามผ่านการถึงแก่กรรมของคุณ Shri G.D. Birla “ท่านเป็นคุณทวดของผม เป็นผู้ที่ผมใกล้ชิด เป็นผู้ที่ผมคุยด้วยได้และเป็นผู้ที่จะโกรธผมได้ด้วย ผมใช้เวลานานมากที่จะผ่านพ้นความจริงที่ว่าท่านจากไปแล้ว ผมรับไม่ได้เพราะมันเคยมีแต่อะไรที่ดี ๆ และจู่ ๆ ท่านก็หัวใจวายและจากไป บางทีมันก็ทำให้เห็นมุมมองในคุณค่าของบุคคล ผมโชคดีที่ได้ใช้เวลาอยู่กับท่าน ผมรับหลายอย่างมาจากท่าน การใช้ชีวิตที่เรียบง่ายและการคิดที่นอกเหนือไปจากตนเอง ไม่มีอะไรที่ฟุ่มเฟือย”