Grasim Industries ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568

การสร้างและการขยายเครื่องมือการเติบโตเพื่อเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต

ไฮไลท์สำคัญ–ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568

• รายได้: รายได้รวมอยู่ที่ ₹33,861 Cr. เพิ่มขึ้น 9% เทียบปีต่อปี; รายได้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ ₹1,33,774 Cr. 
• ซีเมนต์: เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ 8.7 ล้านตันต่อปีโดยใช้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์สีเทาทั้งหมด (ในประเทศ + ต่างประเทศ) อยู่ที่ 154.9 ล้านตันต่อปี
• Birla Opus: ขยายตลาดไปยัง 3,300 เมืองและชุมชนทั่วประเทศ ได้รับการตอบรับที่ดีจากช่องทางการค้าขายและผู้บริโภค 
• บริการทางการเงิน: พอร์ตสินเชื่อรวม* ข้าม ₹1,25,000 Cr. เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
• เส้นใยเซลลูโลส: ยอดขายรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 212 KT ส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์พิเศษอยู่ 22%
• เคมีภัณฑ์: รายได้จากสารเคมีชนิดพิเศษเพิ่มขึ้นเป็น 30% และการรวมตัวของคลอรีนอยู่ในระดับสูงสุด 65%

*พอร์ตสินเชื่อ (NBFC + HFC)

Grasim Industries Limited ได้ประกาศผลการดำเนินงานทางการเงินสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2567 รายได้รวมอยู่ที่ ₹33,861 Cr. เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งจากพอร์ตโฟลิโอธุรกิจที่หลากหลาย ธุรกิจเซลลูโลสไฟเบอร์ วัสดุก่อสร้างและบริการทางการเงิน มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น  

EBITDA รวมลดลง 4% ที่ ₹4,760 Cr. สิ่งนี้ได้รับแรงผลักดันจากการลงทุนในธุรกิจสี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Grasim ในการสร้างธุรกิจที่เน้นผู้บริโภคตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งผลลัพธ์อยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในบัญชีขจากธุรกิจที่กำลังเติบโตใหม่ ๆ ยังส่งผลให้กำไรสุทธิ (PAT) ลดลง

การเงินรวม

^ส่วนแบ่งกำไรสุทธิของเจ้าของ ไม่รวมรายการพิเศษ

เซลลูโลสไฟเบอร์ (เส้นใยเซลลูโลสแบบเส้นขนาดสั้น - CSF และเส้นใยแฟชั่นเซลลูโลส - CFY)

ราคาของเส้นใยเซลลูโลสในจีน (CSF) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบรายไตรมาสที่ $1.64/kg แต่ยังลดลง 2% เมื่อเทียบรายปี ในไตรมาสนี้ อัตราการดำเนินงานของจีนยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 82% โดยมีระดับสินค้าคงคลังอยู่ที่ 12 วัน ธุรกิจ CSF ประสบกับการเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สี่ของเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากสถานการณ์อุปสงค์ในประเทศที่ดีขึ้นและแนวโน้มราคาโลก

ธุรกิจ CSF มียอดขายรายไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 212 KT เพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ธุรกิจ CFY มียอดขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เนื่องจากสภาวะความต้องการที่ชะลอตัวในห่วงโซ่คุณค่าปลายน้ำ และการส่งออกที่ราคาต่ำเข้ามาในอินเดียจากผู้ผลิตในจีน

รายได้ของไตรมาสอยู่ที่ ₹3,787 Cr. เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ส่วน EBITDA เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็น ₹405 Cr. สาเหตุหลักมาจากการใช้ประโยชน์จากการดำเนินงานและต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำลง

สารเคมี (คลอ - อัลคาไล, อนุพันธ์คลอรีนและสารเคมีพิเศษ)

ราคาเฉลี่ยของโซดาไฟในตลาดนานาชาติ (CFR-SEA) อยู่ที่ 469 เหรียญสหรัฐฯ/ตันในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้น 13% และ 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ แนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดโลกส่งผลให้ราคาโซดาไฟในประเทศปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากภาวะความสามารถในการผลิตในตลาดภายในประเทศ การปรับโครงสร้าง ECU เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ธุรกิจเคมีภัณฑ์มีรายได้ ₹2,066 Cr. ลดลง 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและ 1% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เคมีภัณฑ์เฉพาะทาง (อีพ็อกซี่โพลิเมอร์และสารบ่ม) สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในไตรมาสนี้จาก 25% ในไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2567 EBITDA สำหรับกลุ่มเคมีภัณฑ์อยู่ที่ ₹310 Cr. เพิ่มขึ้น 59% มื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง 13% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาค่าโซดาไฟที่สูงขึ้นและส่วนต่างกำไรที่ดีขึ้นของอนุพันธ์คลอรีน 

วัสดุก่อสร้าง (ปูนซีเมนต์สีและอีคอมเมิร์ซ B2B)

ธุรกิจวัสดุก่อสร้างรายงานรายได้ ₹18,701 Cr. เพิ่มขึ้น 11%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นำโดยการเติบโตของปูนซีเมนต์และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจการเติบโตใหม่ - สีและ B2B  อีคอมเมิร์ซ EBITDA ยืนอยู่ที่ ₹2,909 Cr. ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เนื่องจากการระดมทุนเริ่มต้นของธุรกิจใหม่

ปริมาณการขายรวมของธุรกิจปูนซีเมนต์ (UltraTech) เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อนเป็น 31.95 ล้านตันและปริมาณการขายคอนกรีตผสมเสร็จเพิ่มขึ้น 22% จากปีก่อนเป็น 3.25 ล้านลบ. ม. ในไตรมาสนี้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์สีเทาขยายตัว 8.7 ล้านตันต่อปีโดยใช้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์สีเทารวมเป็น 154.9 ล้านตันต่อปี คณะกรรมการบริหารของ UltraTech อนุมัติให้มีการซื้อหุ้นส่วนของผู้ส่งเสริมการขายและผู้ร่วมลงทุนในบริษัท India Cements Limited (ICL) จำนวน 32.72% UltraTech ได้ทำการลงทุนทางการเงินใน ICL เพื่อซื้อหุ้น 22.77% ในเดือนมิถุนายน 2567 หลังลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและได้รับการอนุมัติตามกฎระเบียบสำหรับการซื้อหุ้นใน ICL UltraTech จะจ่าย ₹3,954 Cr. ที่ ₹390/หุ้นสำหรับการซื้อหุ้น 32.72% ใน ICL จากผู้ถือหุ้นใหญ่และกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง นี่ส่งผลให้เกิดการเปิดเสนอซื้อที่ราคา ₹390/หุ้น การเสนอซื้อจะทำในภายหลังหลังจากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลทั้งหมดแล้ว

ธุรกิจสีภายใต้ชื่อแบรนด์ 'Birla Opus' กำลังเพิ่มการผลิตในทุกหมวดหมู่ผลิตภัณฑ์ที่โรงงานที่เปิดดำเนินการแล้ว 3 แห่ง มีการเริ่มผลิตทดลองที่โรงงาน ชามาราจานาการ์ ร้านเปิดประสบการณ์ระดับเรือธงแห่งแรกเปิดให้บริการในมุมไบ แคมเปญสื่อภายใต้แนวคิด‘Make Life Beautiful’เปิดตัวโดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างแบรนด์อย่างรวดเร็วในทุกช่องทางการตลาด การเข้าถึงงผู้มีอิทธิพล (ผู้รับเหมาและช่างทาสี) ยังคงดำเนินไปตามแผน Capex รวมสำหรับธุรกิจคือ ₹7,795 Cr. จนถึง มิถุนายน 2568~ 77% ของงบลงทุนที่วางแผนไว้ของ Capex

Birla Pivot ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ B2B มีรายได้ประจำไตรมาสที่สูงกว่า ₹550 Cr. ธุรกิจนี้ยังคงเพิ่มจำนวนผู้ซื้อใหม่อย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งมีอัตราการสั่งซื้อซ้ำในระดับที่ดี Birla Pivot ยังคงขยายการเข้าถึงไปยังพื้นที่ต่าง ๆ มากขึ้น โดยมีการส่งสินค้าครอบคลุมกว่า 200 เมืองใน 25 รัฐและเขตการปกครอง 

บริการทางการเงิน

ธุรกิจบริการทางการเงิน (Aditya Birla Capital) มีรายได้และ EBITDA ตามที่ระบุไว้ในInd AS อยู่ที่ ₹8,807 Cr. และ ₹1,058 Cr. โดยมีการเติบโต 25% และ 17% ตามลำดับ พอร์ตสินเชื่อรวม (NBFC และ HFC) เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และ 3% มื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เป็น ₹1,27,705 Cr. AUM รวม (AMC, ประกันชีวิตและประกันสุขภาพ) เพิ่มขึ้น 20% ถึง ₹4,62,891 Cr. เมื่อเทียบปีต่อปี แพลตฟอร์ม D2C Aditya Birla Capital Digital (ABCD) ซึ่งเปิดตัวในเชิงพาณิชย์ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568 พบว่ามีการลงทะเบียน ประมาณ 8 แสนราย Udyog Plus แพลตฟอร์ม B2B สำหรับ MSME ยังคงขยายตัวโดยมีการลงทะเบียนมากกว่า 10 แสนรายและมีพอร์ตสินเชื่อรวม ₹2,600 Cr.

ธุรกิจอื่นๆ (สิ่งทอพลังงานหมุนเวียนและฉนวน)

รายได้จากธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น ₹798 Cr. และ EBITDA ที่ ₹109 Cr. ลดลง 16% เมื่อเทียบปีต่อปี ในธุรกิจหมุนเวียนกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 946 เมกะวัตต์เพิ่มขึ้น 6% จาก 894 เมกะวัตต์ในเดือนมี. ค. 2567 

ค่าใช้จ่ายในการลงทุน

ค่าใช้จ่ายในการลงทุนสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568 อยู่ที่ ₹983 Cr. งบประมาณการลงทุนเฉพาะกิจสำหรับปีการเงิน 2568 อยู่ที่ ₹4,553 Cr. ซึ่งประมาณ ₹3,000 Cr. มุ่งไปที่ธุรกิจใหม่เพื่อการเติบโต 

ความยั่งยืน

บริษัทของเรายังคงมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงบรรทัดฐานการบริโภคและการปล่อยมลพิษอย่างต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2568 สัดส่วนการใช้น้ำรีไซเคิลต่อการใช้น้ำจืดเพิ่มขึ้นเป็น 54% จาก 50% ในปีงบประมาณ 2567 สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนในธุรกิจเฉพาะกิจอยู่ 11% บริษัทฯได้รับการยอมรับในความมุ่งมั่นที่เป็นตัวอย่างต่อความยั่งยืนในการจัดอันดับองค์กรยั่งยืนในงาน Times Now Sustainable Organization 2567 - Global Sustainability Alliance ครั้งที่สาม

การสร้างและการขยายเครื่องมือการเติบโตเพื่อเศรษฐกิจที่กำลังเติบโต

Grasim ด้วยการมีส่วนร่วมที่สำคัญในธุรกิจต่าง ๆ มีความพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสในภาคส่วนต่าง ๆ ของเศรษฐกิจอินเดียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว รัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัย การเพิ่มการเข้าถึงทางการเงิน และการยกระดับความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของประชาชนในวงกว้าง ส่งผลดีต่อบริษัทเป็นอย่างมาก