ULTRATECH CEMENT ประกาศผลประกอบการสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31มีนาคม 2017

24 เมษายน, 2560

 

รวมกิจการ กิจการเดี่ยว
  สิ้นสุดไตรมาส ปีสิ้นสุด สิ้นสุดไตรมาส ปีสิ้นสุด

 

31.03.17 31.03.16 31.03.17 31.03.16 31.03.17 31.03.16 31.03.17 31.03.16
ยอดขายสุทธิ 6,922 6,747 25,092 24,880 6,500 6,332 23,616 23,440
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษี (PBIDT) 1,577 1,605 5,861 5,365 1,518 1,517 5,629 5,107
กำไรหลังหักภาษี 726 818 2,715 2,478 688 781 2,628 2,370

UltraTech Cement บริษัทหนึ่งในกลุ่ม Aditya Birla Group ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่สำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 24 เมษายน 2017 ในวันนี้

ผลการดำเนินงาน

ยอดขายซีเมนต์เทาในประเทศอยู่ที่ 47.62 MnT (47.13 MnT) สำหรับทั้งปี และ13.35 MnT (13.32 MnT) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 ยอดขายปูนซีเมต์ขาวและวอลล์พัตตี้อยู่ที่ 13.18 LmT (13.12 LmT) ระหว่างปี 2017 และ 3.86 LmT (3.85 LmT) สำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31 มีนาคม 2017

ผลประกอบการทางการเงิน

ไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017

ยอดขายรวมอยู่ที่ 69,220 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ 67,470 ล้านรูปีสำหรับช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 15,770 ล้านรูปี เทียบกับ 16,050 ล้านรูปี กำไรหลังภาษีอยู่ที่ 7,206 ล้านรูปี เมื่อเปรียบเทียบกับ 8,180 ล้านรูปีช่ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการเดี่ยว ยอดขายอยู่ที่ 65,000 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 63,320 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 15,180 ล้านรูปี และกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 6,880 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 15,170 ล้านรูปี และ 7,810 ล้านรูปีตามลำดับ

ปีงบประมาณ 2017

ยอดขายรวมกิจการอยู่ที่ 250,920 จาก 248,800 ในปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 58,610 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 9 กว่า 56,350 ล้านรูปี ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 27,150 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเปรียบเทียบกับ 24,780 ล้านรูปี ในปีงบประมาณ 2016 เมื่อพิจารณาจากผลประกอบการเดี่ยว ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 236,160 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 234,400 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 56,290 ล้านรูปี ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 26,280 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 51,070 และ 23,700 ล้านรูปีตามลำดับ

เงินปันผล

ในวันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารได้เสนอเงินปันผลร้อยละ 100 ที่อัตรา 10 รูปีต่อหุ้น โดยมูลค่าตราสารอยู่ที่ 10 รูปีต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่า 2745.10 ล้านรูปี บริษัทจะรับผิดชอบต่อภาษีเงินได้นิติบุคคลที่เกี่ยวกับเงินปันผลจำนวน 558.80 ล้านรูปี อันเกิดจากการจ่ายเงินจำนวน 3,303.90 ล้านรูปี

เงินลงทุน

การลงทุนเพื่อการรวมโรงงานปูนซีเมนต์ขนาด 3.5 mtpa ที่ Dhar รัฐมัธยประเทศ อยู่ระหว่างดำเนินการ การผลิตเพือการพาณิชย์ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2019 ในระหว่างปี บริษัทได้ตกลงจัดตั้งหน่วยขัดกรอที่ Nagpur รัฐมหาราษฎระ และ Patliputra ในรัฐพิหาร

ด้วยการขยายและการจัดหาโรงงาน Jaiprakash Associates Limited จะทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตซีเมนต์ที่ 95.4 mtpa ซึ่งรวมถึงจากการผลิตจากนอกประเทศ

การพัฒนาองค์กร

หลักเกณฑ์การเตรียมการระหว่างบริษัท กับ Jaiprakash Associates Limited (‘JAL’), Jaypee Cement Corporation Limited (‘JCCL’) และผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ (“หลักเกณฑ์”) ในการให้ได้มาซึ่งโรงงานซีเมนต์เฉพาะ JAL และ JCCL ได้รับการอนุมัติ National Company Law Tribunal, Mumbai Bench และ the Allahabad Bench แล้ว และยังได้รับการอนุมัติจาก Securities and Exchange Board of India แล้วเช่นกัน การดำเนินการร่วมเพื่อการโอนสัมปทานแร่จาก JAL และ JCCL ให้กับบริษัทได้รับความเห็นชอบแล้วจากหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง