UltraTech Cement เผยผลประกอบการสิ้นปี ณ วันที่ 31 มีนาคม 2013

25 เมษายน, 2556

10 ล้านรูปี
  ปีสิ้นสุด ไตรมาสสิ้นสุด
  31.03.13 31.03.12 31.03.13 31.03.12
ยอดขายสุทธิ 20,018 18,158 5,389 5,334
ผลการดำเนินงานรวม 4,980 4,519 1,383 1,464
กำไรหลังหักภาษี 2,655 2,446 726 867

วันนี้  ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เผยผลประกอบการสิ้นปีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2013

ด้านการเงิน - ปีงบประมาณ 2013

ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 200.18 พันล้านรูปีเมื่อเทียบกับ 181.58 พันล้านรูปีของช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี ค่าตัดจำหน่ายและภาษีอยู่ที่ 49.8 พันล้านรูปีเมื่อเทียบกับ 45.19 พันล้านรูปี กำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 26.55 พันล้านรูปี (รวมหนี้ที่เกิดจากภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีโดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้น ของการจัดเก็บภาษีเพิ่มจากรายได้ หรือราว 870 ล้านรูปี) เมื่อเทียบกับ 24.46 พันล้านรูปีในปีงบประมาณ 2012

ยอดขายเม็ดปูนซีเมนต์เทาและปูนซีเมนต์ผสมยังคงอยู่ที่ 40.7 MMT ในขณะที่ยอดขายปูนซีเมนต์ขาวอยู่ที่ 5.7 LMT (หรือราว 5.6LMT)

ในปีนี้ บริษัทต้องประสบกับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องในแง่ของวัตถุดิบและต้นทุนการขน ส่ง ทั้งนี้เป็นผลมาจาก ค่าขนส่งทางรถไฟที่สูงขึ้นและราคาน้ำมันดีเซล์ที่แพงขึ้น ถึงแม้ว่าราคาของถ่านหินนำเข้าจะลดลงบ้างก็ตาม

ด้านการเงิน - ไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2013
ยอดขายสุทธิอยุ่ที่ 53.89 พันล้านรูปีเมื่อเทียบกับ 53.34 พันล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักภาษี ค่าตัดจำหน่ายและภาษีอยู่ที่ 13.83 พันล้านรูปีเมื่อเทียบกับ 14.64 พันล้านรูปี กำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 7.26 พันล้านรูปี (รวมหนี้ที่เกิดจากภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีโดยเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้น ของการจัดเก็บภาษีเพิ่มจากรายได้ หรือราว 870 ล้านรูปี) เมื่อเทียบกับ 8.67 พันล้านรูปีในปีงบประมาณ 2012

ยอดขายเม็ดปูนซีเมนต์เทาและปูนซีเมนต์ผสมยังคงอยู่ที่ 11.13 MMT ในขณะที่ยอดขายปูนซีเมนต์ขาวอยู่ที่ 1.56 LMT (หรือราว 1.63LMT)

ปันผล

การประชุมบอร์ดผู้บริหารมีขึ้นในวันนี้ โดยเห็นชอบจ่ายปันผล 90 เปอร์เซ็นต์ ในอัตรา 9 รูปีต่อหุ้นในราคาเริ่มต้นที่ 10 รูปี ทั้งนี้รวมยอดได้ 246.76 รูปี อีกทั้ง บริษัทได้รวมเอาภาษีเงินได้นิติบุคคลไว้ในปันผล โดยมีมูลค่า 41.94 โกฏิรูปี โดยเป็นผลให้มียอดจ่ายปันผลอยู่ที่ 288.70 รูปี

ค่าใช้จ่ายในการลงทุน

บริษัทได้ดำเนินโครงการต่างๆ ในหลายๆ พื้นที่ โดยในบรรดาโครงการเหล่านี้ มีโครงการที่กำลังอยู่ในระหว่าง การดำเนินงานดังต่อไปนี้:

  • โรงผลิตปูนซีเมนต์ที่มีกำลังการผลิต 3.30Mn.Mt ในเมืองราวัน [Rawan] รัฐฉัตติสครห์ [Chhattisgarh]
  • โรงโม่ที่มีกำลังการผลิต 1.55Mn.Mt. ในเมืองฮอตจิ [Hotgi] รัฐมหาราชตรา [Maharashtra]
  • การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตโม่ซีเมนต์สูงถึง 0.60Mn.Mt.ในโรงงานในรัฐกุจราช [Gujarat]
  • โรงเก็บวัตถุในเมืองโคชิน [Cochin] รัฐเคราลา [Kerala]
  • โรงโป้วผนังในเมืองคัทนี [Katni] รัฐมาดยาประเทศ [Madhya Pradesh]

จากการดำเนินการของโครงการเหล่านี้ กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัทได้เพิ่มขึ้นจาก 48.75Mn.Mt มาอยู่ที่ 50.90Mn.Mt

โรงผลิตปูนซีเมนต์ที่มีกำลังการผลิต 3.30Mn.Mt ในรัฐกรณาฏกะ [Karnataka] คาดว่าจะคงที่ในช่วงไตรมาส แรกของปีงบประมาณ 2014

บริษัทมุ่งมั่นให้มีการเติบโตและประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ บอร์ดผู้บริหารได้มีมติในที่ประชุมในวันนี้ว่า ให้อนุมัติการขายกำลังการผลิตในส่วนผลิตปูซีเมนต์อธิตยา [Aditya Cement Works] ในรัฐราชสถาน [Rajasthan] ให้สูงขึ้นเป็น 2.9Mn.Mt รวมทั้งก่อตั้งโรงโม่เพิ่ม อีก 2 แห่ง โดยการขยายการผลิตในครั้งนี้จะช่วย ปรับโครงสร้างทุนการผลิตราว 20 พันล้านรูปี โดยทุนก้อนนี้จะมาจากการจัดสรรงบประมาณภายในบริษัท และกู้ยืม นอกจากนี้ ส่วนผลิตเพิ่มเติมนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการผลิตได้ภายในเดือนมีนาคม 2015

และด้วยการดำเนินโครงการทั้งในส่วนที่กล่าวมาแล้วและโครงการอื่นๆ ที่กำลังอยู่ในก่อสร้าง กำลังการผลิต ปูนซีเมนต์ของบริษัทจะสูงขึ้น 61.45Mn. Mt

ภาพการณ์ทางธุรกิจในอนาคต

ความต้องการปูนซีเมนต์ในระยะยาวมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นกว่า 8 เปอร์เซ็นต์โดยสอดคล้องกับการเติบโตของจีดีพี ตัวขับเคลื่อนมูลค่าให้การเติบโตจะยังคงเป็นความต้องการในภาคอสังหาริม ทรัพย์และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน