ULTRATECH CEMENT ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ รอบไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2017

18 มกราคม, 2561

UltraTech รายงานปริมาณที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 37; EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 18

 

รวมกิจการ กิจการเดี่ยว
รายละเอียด ไตรมาส 3 ปีงบ 2018 ไตรมาส 3 ปีงบ 2017 ไตรมาส 3 ปีงบ 2018 ไตรมาส 3 ปีงบ 2017
ยอดขายสุทธิ 7,897 5,927 7,471 5,540
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษี (PBIDT) 1,494 1,280 1,425 1,210
กำไรหลังหักภาษี 456 595 421 563

UltraTech Cement Limited บริษัทในกลุ่ม Aditya Birla Group ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2017 ในวันนี้

ระหว่างไตรมาส เกิดภาวะต้นทุนผันแปรที่เพิ่มขึ้นอันสืบเนื่องมาจากราคาถ่านโค๊กและถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น การห้ามใช้ถ่านโค๊กในบางรัฐยังส่งผลกระทบในเชิงลบต่อผลประกอบการ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังแสดงการเติบโต โดย PBIDT สูงขึ้นร้อยละ 18 ในระหว่างไตรมาส

การจัดตั้งโรงงาน

ภายหลังเปิดตัว ‘UltraTech Brand’ และประสบความสำเร็จในทุกตลาด และได้รับการตอบสนองเป็นอย่างดีจากโรงงานที่จัดหาใหม่แล้ว การดำเนินการจึงสอดคล้องกับนโยบายเพื่อการเติบโตแบบทะยานขึ้นของบริษัท การใช้ประโยชน์จากศักยภาพเพิ่มสูงชึ้น โดยขณะนี้อยู่ราวร้อยละ 60 จากเพียงร้อยละ 18 ในช่วงที่ทำการจัดตั้งโรงงาน มีการปรับปรุงพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในโรงงานทั้งหลายนี้ ในแง่ปัจจัยเพื่อการดำเนินงาน มีโปรแกรมการดำเนินการแต่งตั้งดีลเลอร์และตัวแทนรายย่อยอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำพาให้ UltraTech ก้าวสู่ตลาดใหม่ได้ การจัดตั้งบริษัทใหม่นำมาซึ่งรายได้เพิ่มเติมตามคาด และเพิ่มขึ้นในทุกๆ เดือน

การเงิน

ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 78,970 ล้านรูปี โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 59,270 ล้านรูปี กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 14,940 ล้านรูปี โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 12,800 ล้านรูปี กำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 4,560 ล้านรูปี จาก 5,950 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017

สำหรับผลประกอบการกิจการเดี่ยว ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 74,710 ล้านรูปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 55,400 ล้านรูปี กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 14,250 ล้านรูปี (12,100 ล้านรูปี) ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 4,210 ล้านรูปี (5,630 ล้านรูปี)

แนวโน้ม

การจัดสรรงบประมาณคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นในส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและชนบท จะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน