ULTRATECH CEMENT ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ รอบไตรมาสสิ้นสุด 30 กันยายน 2017

18 ตุลาคม, 2560

(หน่วยเป็นสิบล้านรูปี)
  รวมกิจการ กิจการเดี่ยว
  สิ้นสุดไตรมาส สิ้นสุดไตรมาส
รายละเอียด 30 ก.ย. 2017 30 ก.ย. 2016 30 .. 2017 30 ก.ย. 2016
ยอดขายสุทธิ
(ภาษีสุทธิ)
6,840 5,708 6,478 5,397
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษี (PBIDT) 1,550 1,378 1,519 1,327
กำไรหลังหักภาษี 423 614 431 601

UltraTech Cement Limited บริษัทหนึ่งในกลุ่ม Aditya Birla Group ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่ยังไม่ผ่านการตรวจสอบสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2017 ในวันนี้

การเงิน
ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 68,400 ล้านรูปี โดยเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 57,080 ล้านรูปี กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 15,500 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับ 13,780 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ค่าเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นอันเกี่ยวเนื่องกับการจัดหาโรงงานซีเมนต์ส่งผลกระทบต่อกำไรหลังหักภาษี โดยที่อยู่ 4,230 ล้านรูปี เมื่อเปรียบเทียบกับ 6,140 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบฯ 17 ทั้งนี้ ไตรมาสนี้ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากแนวโน้มราคาที่สูงขึ้น โดยปัจจัยหลักคือรายจ่ายด้านพลังงาน

สำหรับผลประกอบการกิจการเดี่ยว ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 64,780 ล้านรูปี ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 53,970 ล้านรูปี กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 15,190 ล้านรูปี (13,270 ล้านรูปี) ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 4,310 ล้านรูปี (6,010 ล้านรูปี)

การพัฒนาองค์กร
จากการจัดตั้งโรงงานซีเมนต์ที่มีกำลังผลิต 21.2 MTPA ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตซีเมนต์ได้ถึงถึง 93 MTPA

โดยการจัดตั้งโรงงานเหล่านี้ จะนำพาให้บริษัทก้าวสู่การเติบโตในตลาดอินเดีย ทั้งในอินเดียตอนกลาง รัฐหิมาจัลประเทศ ฝั่งตะวันออกของรัฐอุตตราขัณฑ์ และแถบชายฝั่งรัฐอานธรประเทศ อันเป็นเขตที่บริษัทมุ่งเน้นขยายการตลาด

ทั้งนี้ ไตรมาสนี้จัดเป็นไตรมาสแรกที่เริ่มดำเนินการได้ภายหลังการจัดตั้ง ซึ่งบริษัทได้เร่งสูบฉีดปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินงาน โดยสิ่งที่ท้าทายที่สุดก็คือการปรับปรุงและคงไว้ซึ่งคุณภาพของซีเมนต์ที่ผลิตขึ้นในโรงงานเหล่านี้ให้ได้ตามมาตรฐานของบริษัท ซึ่งในการนี้ มีค่าใช้จ่ายแรกเริ่มแบบชำระครั้งเดียวเพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพและเพื่อการบำรุงรักษาโรงงาน ขณะเดียวกัน ยังมีการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เพื่อขยายส่วนแบ่งการตลาดด้วย อีกบริษัทยังประสบความสำเร็จในการจัดหาโรงงานซีเมนต์เพื่อให้อยู่ภายใต้แบรนด์ UltraTech

การจัดหาโรงงานเหล่านี้ดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงต้นของฤดูมรสุมและเป็นช่วงที่เกิดภาวะขาดแคลนทรายอย่างกะทันหันในตลาดส่วนใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบการ อย่างไรก็ตาม การจัดหาทรัพย์สินใหม่นี้ก็ได้ส่งผลให้ EBITDA เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ บริษัทได้มุ่งเน้นที่การขยายไปยังตลาด ณ โรงงานที่ตั้งขึ้นใหม่และการเพิ่มยอดขาย

รายจ่ายฝ่ายทุน
คณะกรรมการมีมติในที่ประชุมในวันนี้ อนุมัติการจัดสรรทุนจำนวน 1,940 ล้านรูปีเพื่อสร้างโรงงานผลิตวอลล์พัตตี้กำลังการผลิต 4.0 Lmt เพื่อรองรับความต้องการวอลล์พัตตี้ที่เพิ่มสูงขึ้น โรงงานนี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินกิจการได้ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบฯ 20

แนวโน้ม
การที่ภาครัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ชนบท และที่อยู่อาศัยราคาประหยัด คือแรงขับเคลื่อนหลักที่เพิ่มปริมาณความต้องการ ซึ่ง UltraTech อยู่ในสถานะที่เอื้ออำนวยต่อการตอบสนองต่อความต้องการในระดับประเทศนี้