UltraTech Cement Limited ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2020

ยอดขายภายในประเทศสูงขึ้น 14%

บริษัท UltraTech Cement Limited ซึ่งเป็นบริษัทแถวหน้าของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ประกาศผลประกอบการทางการเงินในวันนี้สำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2020

การฟิ้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากประสบภาวะชะงักงันอันเนื่องมาจาก Covid-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากเสถียรภาพของความต้องการที่รวดเร็วขึ้น การฟื้นฟูทางอุปทานและประสิทธิภาพด้านต้นทุนที่ดีขึ้น

ในขณะที่การเคหะในชนบทและในเขตกึ่งเมืองกึ่งชนบทยังช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โครงสร้างพื้นฐานที่คัดเลือกโดยรัฐบาลก็ยังเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเติบโตของความต้องการในด้านซีเมนต์ด้วยเช่นกัน ความต้องการในเขตเมืองยังคาดว่าจะยังคงปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีการกลับเข้ามาของแรงงานอพยพอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในขณะที่ราคาเชื้อเพลิงนั้นเพิ่มสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุมก็ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทอยู่ที่ 26% ยังคงให้การมุ่งเน้นไปที่การลดหนี้ การลดลงของหนี้สินสุทธิระหว่างไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 26,960 ล้านรูปี และจากต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 74,240 ล้านรูปี

การเงิน

ยอดขายสุทธิแบบรวมกิจการอยู่ที่ 121,440 ล้านรูปี เทียบกับ 102,610 ล้านรูปีในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 33,620 ล้านรูปี เทียบกับ 21,470 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 15,840 ล้านรูปี เทียบกับ 7,120 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน

สำหรับกิจการเดียว ยอดขายสุทธิอยู่ที่ 117,080 ล้านรูปี (98,140 ล้านรูปี) กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษีอยู่ที่ 32,060 ล้านรูปี (19,500 ล้านรูปี) ส่วนกำไรหลังภาษีอยู่ที่ 15,500 ล้านรูปี (6,430 ล้านรูปี)

การพัฒนาองค์กร

ในระหว่างไตรมาส คณะกรรมการบริหารของ UltraTech ให้การอนุมัติรายจ่ายฝ่านทุนที่ 54,770 ล้านรูปีเพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตของบริษัทขึ้นเป็น 12.8 mtpa โดยเป็นการขยายทั้งในส่วนของพื้นที่ที่มีอยู่เดิมและในทำเลที่ตั้งแห่งใหม่ ความสามารถในการผลิตที่เพิ่มขึ้นมานี้นั้นมาจากในส่วนของตลาดที่เติบโตเร็วในภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือของประเทศ โดยการขยายนั้นเป็นการเพิ่มความสามารถในการผลิตของบริษัทเพิ่มเติมจาก 6.7 mtpa ที่อยู่ระหว่างดำเนินการในรัฐอุตตรประเทศ รัฐโอริศา รัฐพิหาร และรัฐเบงกอลตะวันตกที่เป็นไปตามความคาดหมาย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตได้ในปีงบประมาณ 2022 โดยเป็นไปตามเฟส

หลังจากทำการขยายรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กำลังการผลิตของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 136.25 mtpa ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทขึ้นสู่สถานะบริษัทซีเมนต์รายใหญ่อันดับที่ 3 ของโลกที่อยู่นอกอาณาเขตประเทศจีน

อัปเดตเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการ

โรงงานซีเมนต์ที่มีกำลังการผลิต 14.6 mtpa ที่เข้าซื้อกิจการในช่วงปีงบประมาณก่อนมีความคืบหน้าในการประสานกำลังกันเป็นอย่างดี โดยการผลิตทะยานขึ้นถึงเกือบ 84% จนถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 การเข้าซื้อกิจการในเวลาที่เหมาะสมนี้ทำให้บริษัทสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดภาคกลางและภาคตะวันออกได้

ก้าวไปข้างหน้า

ในขณะที่ UltraTech ยังคอยเฝ้าดูผลกระทบจาก COVID-19 ต่อการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ทรัพยากรทุนและทรัพยากรทางการเงินยังคงช่วยปกป้องและจุนเจือสภาพคล่องได้อย่างเพียงพอ

ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งในภาคชนบท การฟื้นตัวของภาคการผลิต การลอยตัวของ GST และการเก็บภาษี UltraTech จึงคาดว่าความต้องการจะมีการเติบโตโดยได้รับแรงหนุนจากภาครัฐในส่วนของโครงการสาธารณูปโภคต่าง ๆ

ด้วยลงหลักปักฐานอยู่ทั่วประเทศอินเดีย UltraTech จึงอยู่ในสถานะที่จะสามารถให้การรองรับต่อความต้องการซีเมนต์ที่เพิ่มมากขึ้นในประเทศได้

เช่นเคย UltraTech ยังคงให้การมุ่งมั่นต่อการมีส่วนร่วมทางธุรกิจและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลาย

เกี่ยวกับ UltraTech Cement Limited
UltraTech Cement Limited เป็นบริษัทผู้ประกอบการด้านซีเมนต์ซึ่งเป็นบริษัทแถวหน้าของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group เป็นมหาอำนาจทางโซลูชันการก่อสร้างที่มีมูลค่า 5.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ บริษัท UltraTech เป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดสำหรับปูนซีเมนต์เทา คอนกรีตผสมเสร็จ (RMC) และปูนซีเมนต์ขาวในอินเดีย ด้วยความสามารถในการผลิตปูนซีเมนต์เทาที่รวมกันได้ถึง 116.75 mtpa จึงเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่เป็นอันดับสามของโลกโดยไม่รวมประเทศจีน และเป็นแห่งเดียวในโลก (นอกอาณาเขตประเทศจีน) ที่สามารถผลิตซีเมนต์ได้เกิน 100 mtpa จากในประเทศเดียว การดำเนินงานของบริษัทขยายไปยัง UAE, บาห์เรน, ศรีลังกา และอินเดีย

UltraTech เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Global Cement and Concrete Association (GCCA) โดยเป็นผู้ลงนามในสัญญา GCCA Climate Ambition 2050 ซึ่งเป็นแรงจูงใจให้กับภาคส่วนในการทำให้การผลิตคอนกรีตนั้นไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นให้ได้ภายในปี 2050 UltraTech มีการนำเครื่องมือยุคใหม่มาปรับใช้ เช่น Science Based Target Initiative (SBTi), Internal Carbon Price and Energy Productivity (#EP100) เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการพยายามเร่งการปรับใช้เทคโนโลยีแบบคาร์บอนต่ำและกระบวนการต่าง ๆ ทั่วทั้งห่วงโซ่อุปทาน และจึงสามารถลดคาร์บอนได้ตลอดช่วงอายุของการใช้งาน ด้วยเป็นส่วนหนึ่งของงานด้าน CSR ทาง UltraTech จึงพยายามเข้าหาผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จำนวน 1.6 ล้านคนทั่วประเทศอินเดีย โดยครอบคลุมส่วนต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งภาคการศึกษา การดูแลสุขอนามัย การดำรงชีพอย่างยั่งยืน โครงสร้างพื้นฐานสำหรับชุมชน และผลทางด้านการสมาคมในสังคมต่าง ๆ