“งบดุลอันน่าเชื่อถือ กระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง มูลค่าตามราคาตลาด 14 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และแผนขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ ได้เป็นแรงหนุนให้กับการเติบโตของอัลตราเทค: นายกุมาร์ มังกาลัม เบอร์ลา ประธานบริษัทฯ

เพื่อให้ผู้ถือหุ้นเข้าใจถึงการขับเคลื่อนทางยุทธศาสตร์ นายเบอร์ลากล่าวว่า “อัลตราเทคได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับ Jaiprakash Associates Limited แล้วในการจัดหาโรงงานซีเมนต์ในรัฐมัธยประเทศ รัฐอุตตรประเทศ รัฐหิมาจัลประเทศ รัฐอุตตราขัณฑ์ และรัฐอานธรประเทศ ผู้อำนวยการยังได้อนุมัติหลักการเตรียมการระหว่างอัลตราเทค Jaiprakash Associates Limited, Jaypee Cement Corporation Limited และผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของบริษัทเหล่านั้น ในการจัดหาโรงงานเพื่อให้มีกำลังการผลิต 21.20 MTPA ซึ่งมีมูลค่าที่ 161,890 ล้านรูปี”

นอกจากนั้น นายเบอร์ลา ยังได้กล่าวว่ากิจกรรมที่เสนอนั้นเป็นการขยายตลาดในเชิงภูมิศาสตร์ที่สำคัญ อันจะเป็นการเบิกทางให้อัลตราเทคในตลาดที่กำลังเตบโตของอินเดีย ซึ่งทั้งนี้ รวมถึงกลุ่ม Satna ในรัฐอุตตรประเทศ (ตะวันออก) และรัฐมัธยประเทศ (ตะวันตก) รัฐหิมาจัลประเทศ รัฐอุตตราขัณฑ์ และชายฝั่งในรัฐอานธรประเทศ การดำเนินงานจะมีสมรรถภาพมากขึ้นด้วยผลจากการอัพเกรดด้านเทคโนโลยีต่างๆ และการเพิ่มกำลังการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมแบบรายปี ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างการทำงานร่วมกันระหว่างภาคการผลิต การกระจายสินค้า และระบบโลจิสติกส์ อันจะเอื้อประโยชน์ต่างๆ อาทิ การประหยัดอัตราและการสร้างเสริมประสิทธิภาพโดยลดระยะเวลาการขนส่งไปยังตลาดได้ ในขณะเดียวกัน ก็จะเพิ่มประโยชน์ให้กับผู้บริโภคในเชิงการแข่งขัน ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าให้กับผู้ถือหุ้นด้วยโดยการจัดหามาซึ่งสินทรัพย์พร้อมใช้”

“ซึ่งหลักการนี้ยังต้องได้รับการอนุมัติตามกฎหมายต่อไป” โดยเราหวังว่าทั้งหมดนี้จะสำเร็จภายใน 12 เดือนข้างหน้านี้ และจากนั้นกำลังการผลิตซีเมนต์ของอัลตราเทคก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 91.1 MTPA ซึ่งร่วมถึงการดำเนินงานภายนอกประเทศด้วย” นายเบอร์ลากล่าวยืนยัน

สำหรับการขับเคลื่อนหลักอื่นๆ นายเบอร์ลาได้กล่าวพาดพิงถึงความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มมากขึ้น โดยในเรื่องนี้ เขาได้กล่าวว่า “อัลตราเทคได้ติดตั้งเครื่องมือเพื่อการขัดซีเมนต์แล้วที่ Jhajjar ในรัฐรยาณา ที่ Dankuni ในเบงกอลตะวันตก และที่ Pataliputra ในรัฐพิหาร มีสถานีขนส่งซีเมนต์ที่อยู่ระหว่างดำเนินการอยู่ที่ Pune ในรัฐมหาราษฏระ และจากทรัพย์สินในส่วนนี้ ทำให้กำลังการผลิตซีเมนต์ของอัลตราเทคในอินเดียอยู่ที่ 66.3 MTPA ยิ่งไปกว่านั้น การนำระบบความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 26 MW ในระหว่างปี ยังทำให้ขณะนี้สามารถนำความร้อนเหลือทิ้งกลับมาใช้ใหม่ได้ถึง 59 MW นอกจากนี้ อัลตราเทคยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานความร้อนที่ 717 MW ซึ่งพลังงานจากทั้งสองทางรวมกันแล้วมากกว่าร้อยละ 88 ของพลังงานที่จำเป็นต้องใช้ทั้งหมด”

เขายังเสริมว่า: “ปัจจุบันนี้ อัลตราเทคเป็นผู้ประกอบการซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก”

นายเบอร์ลามีทัศนะที่ดีต่อด้านซีเมนต์ เขาให้ความเห็นว่าอินเดียอยู่ให้ช่วงเวลาแห่งการเจริญเติบโตในระดับสูง รัฐบาลได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่อยู่อาศัย การพัฒนาเมือง ถนนและอื่นๆ ตลอดจนมรสุมที่เกิดขึ้นก็จะเป็นผลพวงที่ก่อให้เกิดการเติบโตให้กับภาคเกษตรกรรมด้วย อัลตราเทค เขากล่าว “ตั้งอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นและพร้อมเข้าร่วมกับการพัฒนาประเทศในระยะต่อไป”

จากคำพูดของนายเบอร์ลา “อัลตราเทคมีงบดุลที่แข็งแกร่งมาก มีกระแสเงินสดที่ทนทาน และมีระดับราคาหุ้นที่ดีตามข้อจำกัดตามเหตุผล” บริษัทยินดีในความมั่นใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งสะท้อนออกมาเป็นมูลค่าตามตลาดที่สูงกว่า 14 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ”

ด้วยมีความรับผิดชอบและด้วยเป็นผู้ประกอบการผู้ถือสัญชาติ อัลตราเทคจึงมุ่งมั่นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาที่ยั่งยืน และด้วยความช่วยเหลือของศูนย์เพื่อการสร้างสรรค์ชุมชนและเพื่อพัฒนาชนบทของอดิตยา เบอร์ลา ที่นำโดยนางราชาสรี เบอร์ล่า อัลตราเทคจึงได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดเสมือนเครือญาติกับหมู่บ้าน 407 แห่งเพื่อเป็นฐานโรงงานผลิต อัลตราเทคประสงค์ที่จะช่วยเหลือด้านการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในชุมชนที่ได้เข้าไปดำเนินการอยู่ สิ่งที่อัลตราเทคมุ่งเน้นให้ความสำคัญก็คือ ด้านการศึกษา อนามัย การครองชีพอย่างมั่นคง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการปฏิรูปสังคม และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบ อัลตราเทคได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาแผนกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี “เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์อินเดีย” ด้วยเป็นสมาชิกของ Cement Sustainability Initiative อัลตราเทคได้ใช้ความพยายามในการใช้แผนยุทธศาสตร์เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์และลดการใช้พลังงาน การทดแทนด้วยเชื้อเพลิงฟอสซิลและวัตถุดิบตามธรรมชาติจากวัสดุเหลือทิ้งเป็นแรงผลักดันจากอัลตราเทค บริษัทยังได้ใช้วิธีการวัดเพื่อลดปริมาณการใช้น้ำ โดยประมาณร้อยละ 49 ของความต้องการในการใช้น้ำมาจากการกักเก็บน้ำฝนและการนำกลับมาใช้ใหม่