13 พฤษภาคม, 2560
Shareมุมไบ
ไฮไลท์ ผลประกอบการ 1กิจการเดี่ยว | |||
รายได้ 81,261 ล้านรูปี | EBITDA -21,965 ล้านรูปี | PAT -4,300 ล้านรูปี |
ไตรมาส 4 ปีงบ 2017 | ไตรมาส 3 ปีงบ 2017 | ปีงบ 17 | ปีงบ 16 | เทียบกับปีก่อน | |
---|---|---|---|---|---|
รายได้ - พื้นที่ให้บริการเดิม3 | 75,260 | 80,163 | 329,586 | 335,583 | -1.8% |
รายได้ - พื้นที่ให้บริการใหม่4 | 6,002 | 6,464 | 26,171 | 23,911 | 9.5% |
รายได้รวม | 81,261 | 86,627 | 355,757 | 359,494 | -1.0% |
EBITDA - พื้นที่บริการเดิม3 | 23,151 | 23,283 | 108,141 | 125,910 | -14.1% |
EBITDA - พื้นที่ให้บริการใหม่4 | -1,186 | -1,628 | -5,378 | -6,235 | 13.7% |
EBITDA ทั้งหมด | 21,965 | 21,655 | 102,763 | 119,675 | -14.1% |
EBITDA % - พื้นที่ให้บริการเดิม3 | 30.8% | 29.0% | 32.8% | 37.5% | -4.7% |
EBITDA % - พื้นที่ให้บริการใหม่4 | -19.8% | -25.2% | -20.5% | -26.1% | 5.5% |
EBITDA% | 27.0% | 25.0% | 28.9% | 33.3% | -4.4% |
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย | 19,885 | 19,653 | 78,272 | 62,561 | 25.1 % |
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี | 2,080 | 2,002 | 24,491 | 57,114 | -57.1% |
ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ) | 10,132 | 9,232 | 37,341 | 18,830 | 98.3% |
เงินปันผลจากบริษัท Indus | - | - | 3,623 | - | - |
กำไรก่อนหักภาษี | -8,052 | -7,230 | -9,228 | 38,284 | -124.1% |
กำไรหลังหักภาษี (กิจการเดี่ยว 1) | -4,300 | -4,789 | -4,075 | 23,781 | -117.1% |
กำไรเงินสด 5 (กิจการเดี่ยว) | 12,494 | 12,276 | 69,386 | 99,011 | -29.9% |
ส่วนแบ่งกำไรจาก Indus และ ABIPBL | 983 | 1,143 | 4,218 | 4,217 | 0.0% |
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจากรายได้จาก Indus | -41 | 193 | 518 | 717 | 27.8% |
รายได้รวมอื่น (ภาษีสุทธิ) | 21 | -17 | -43 | -139 | 68.7% |
รายได้รวมทั้งหมด (รวมกิจการ 2) | -3,256 | -3,856 | -4,040 | 27,142 | -114.9% |
ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2016-2017 อุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือในอินเดียประสบภาวะชะงักงันอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการออกโปรโมชั่นการโทรด้วยเสียงและข้อมูลมือถือฟรี ที่จัดขึ้นโดยผู้ประกอบการรายใหม่ ช่วงระหว่างเดือนตุลาคมถึงเมษายน 2017 อาจเรียกได้ว่าเป็น ‘ช่วงไม่ต่อเนื่องของโทรคมนาคม’ ที่แปรเปลี่ยนตัวแปรที่เกี่ยวข้องในธรุกิจมือถือไปอย่างสิ้นเชิง ส่งผลให้รายได้ตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงานหลัก (KPI) และพารามิเตอร์ด้านการเงินของผู้ประกอบการมือถือทั้งหลายลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2017 โดยเป็นครั้งแรกในประวัติกาลที่อุตสาหกรรมมือถือของอินเดียที่สดใสกลับมีรายได้ที่ลดลงราวร้อยละ 2 ในปีงบประมาณ 2017 (เทียบกับปี 2016) เมื่อผู้ประกอบการรายใหม่เริ่มคิดค่าบริการจากผู้ใช้แล้ว คาดว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตขึ้นช้าๆ อีกครั้งในปีงบประมาณถัดไป
จากการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่นี้ ส่งผลให้รายได้ของ Idea แต่เพียงกิจการเดียวลดลงไปอย่างไม่คาดหมายในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 มาอยู่ที่ 81,261 ล้านรูปี ซึ่งเป็นการลดลงต่อเนื่องรายไตรมาสที่ร้อยละ 6.2 โดยในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017 (เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017) ลดลงที่ร้อยละ 6.9 อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการดำเนินการในไตรมาสได้เน้นถึงการเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนและกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงทำให้สามารถคงระดับ EBITDA ไว้ได้ที่ 21,965 ล้านรูปี (สูงขึ้นราวร้อยละ 1.4 เมื่อเปรียบเทียบรายไตรมาส) โดย EBITDA margin อยู่ที่ร้อยละ 27 ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 ถึงแม้ว่ารายได้รายไตรมาสจะลดลงที่ 5,366 ล้านรูปี
และเพื่อให้คงรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ Idea จึงจำต้องลดอัตราค่าบริการในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 ลง โดยอัตราค่าบริการการโทรด้วยเสียงลดลงร้อยละ 12.5 เหลือ 25.9 ไปซา (Paisa) ต่อนาที (จาก 29.6 ไปซาในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) และลดอัตราค่าบริการข้อมูลมือถือลง (ARMB) ร้อยละ 27.6 เหลือเพียง 11.5 ไปซา ต่อเมกะไบต์ (จาก 15.9 ไปซา ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การล่อใจผู้ใช้ด้วยบริการฟรีของผู้ประกอบการรายใหม่ส่งผลกระทบต่ำกว่าเกณฑ์ตามปกติ จึงมีอัตราการใช้บริการเสียงต่อนาทีสูงขึ้นร้อยละ 10.3 เป็น 231.4 พันล้านนาที (เทียบกับ 209.8 พันล้านนาทีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) อัตราการใช้เสียงผสมที่ลดลงยังเป็นผลมาจากการโทรจำนวนมากที่มาจากบริการของผู้ประกอบการรายใหม่ที่เข้ามารบกวนเครือข่ายของ Idea อันทำให้อัตราโดยรวมทั้งหมดของนาทีการโทรเข้าอยู่ต่ำกว่าอัตรา IUC
ผลจากโปรโมชั่นใช้ฟรีที่ขยายเวลาออกไปยังส่งผลยิ่งขึ้นต่อธุรกิจข้อมูลมือถือ Idea จึงได้รับผลกระทบต่อเนื่องรายไตรมาสโดยมีจำนวนผู้ใช้ข้อมูลมือถือลดลง 6.4 ล้านราย ซึ่งมีจำนวนที่ลดลงแล้ว 5.5 ล้านรายในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017 (เทียบกับไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017) ดังนั้นจึงยังคงมีฐานลูกค้าผู้ใช้ข้อมูลมือถืออยู่ที่ 42.2 ล้านราย (เทียบกับ 48.6 ล้านราย ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) ความยืดหยุ่นของปริมาณข้อมูลมือถือถูกลบล้างด้วยอัตราข้อมูลมือถือที่ลดลงขนานใหญ่ถึงร้อยละ 27.6 ถึงแม้ว่าปริมาณข้อมูลมือถือโดยรวมจะสูงขึ้นร้อยละ 16.7 ก็ตาม (เทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) เป็น 127 พันล้านเมกะไบต์ (2G+3G+4G) ขณะที่ปริมาณการใช้ต่อผู้ใช้รายบุคคลสูงขึ้นร้อยละ 36.2 เป็น 957 เมกะไบต์ จาก 703 เมกะไบต์ ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017 หากแต่ข้อมูล ARPU ต่อผู้ใช้ข้อมูล (2G+3G+4G) ยังคงเดิมในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 ที่ 110 รูปี เทียบกับ 111 รูปี (ไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) ‘รายได้ที่ไม่ได้มาจากเสียง’ (รวมถึงข้อมูลมือถือ) ทำให้ ‘รายได้จากการบริการทั้งหมด’ ลดลงร้อยละ 24.9 เนื่องจากรายได้ที่มาจากข้อมูลมือถือลดลงไปร้อยละ 18.3 (เทียบกับร้อยละ 20.2 ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงคาดว่าจะมีอัตราผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และรายได้จากข้อมูลในปีงบประมาณ 2018 ก็จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากบรอดแบรนด์ไร้สายจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกลงซึ่งทำให้ประชากรอินเดียสามารถเข้าถึงได้ไม่ว่าเศรษฐกิจของชุมชนนั้นจะเป็นเช่นไรและไม่ว่าจะตั้งอยู่ในภูมิภาคใดก็ตาม
เมื่อพิจารณาจำนวนที่เพิ่มขึ้นของผู้ลงทะเบียนใช้เสียง ถึง Idea จะถูกรุกจากผู้ประกอบการรายใหม่ แต่ทั้งนี้ทำให้มีลูกค้ารายใหม่ (สำหรับ VLR) เพิ่มขึ้นถึง 6.2 ล้านรายในระหว่างไตรมาส (เพิ่มขึ้นแล้ว 5.6 ล้านรายในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) ทำให้ฐานข้อมูลผู้ใช้บริการ EoP (VLR) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเป็น 198.3 ล้านราย ณ 31 มีนาคม 2017 ด้วยฐานการให้บริการลูกค้าเกือบ 200 ล้านราย ทำให้ Idea มีรากฐานที่แข็งแกร่งอันจะทำให้บริการด้านเสียง บรอดแบรนด์ไร้สาย บริการดิจิทัล บริการธนาคารออนไลน์ผ่านมือถือ เติบโตต่อไปได้ภายหลังข้ามผ่านภาวะที่ถดถอยนี้ ในเชิงการแข่งขัน Idea ยังคงความแข็งแกร่ง โดยถือครองส่วนแบ่งทางการตลาด (Revenue Market Share (RMS)) เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19.0 (ในปี ค.ศ. 2016) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เมื่อเทียบกับปี ค.ศ. 2015 ขณะที่ยังคงส่วนแบ่งการตลาดด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ (VLR) ที่ร้อยละ 19.4 (กุมภาพันธ์ 2017)
แม้ประสบภาวะท้าทายในระยะสั้นๆ นี้ Idea ยังคงมุ่งมั่นต่อกระบวนการสร้างบริการบรอดแบรนด์มือถือระดับโลก ด้วยการเปิดตัวบริการ 4G ที่เมืองมุมไบช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2017 จะทำให้บริษัทสามารถเสนอให้บริการบรอดแบรนด์ (3G และ/หรือ 4G) ด้วยคลื่นความถี่ของตนเองในพื้นที่ให้บริการทั้งหมด 22 เขต ในระหว่างไตรมาสนี้ Idea ได้เปิดตัวบริการ 4G ในพื้นที่ให้บริการ 8 เขตที่รัฐคุชราต รัฐอุตตรประเทศ (UPW) รัฐ UPE รัฐราชสถาน รัฐพิหาร เบงกอลตะวันตก อัสสัม จามูลและแคชเมียร์ (J&;K) ทำให้เป็นการขยายบริการบรอดแบรนด์ 4G สู่เขตโทรคมนาคมได้ถึง 19 เขตแล้ว ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 บริษัทยังเปิดบริการ 3G ในเขตบริการที่รัฐพิหารและรัฐราชสถาน ซึ่งเป็นการขยายบริการ 3G ด้วยคลื่นความถี่ของตัวเองไปยัง 15 พื้นที่ให้บริการ (อีกยังเปิดให้บริการ 3G ในเขตอื่นๆ ที่เหลือด้วย 3G ICR นอกจากที่รัฐโอริศา)
ตามเกณฑ์ปีงบระมาณ ตั้งแต่มีการเสนอขายหุ้น IPO นับเป็นครั้งแรกที่ Idea มีรายงานรายได้ที่ลดลงที่อัตราร้อยละ 1 อยู่ที่ 355,757 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2017 (359,494 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2016) โดยทั้งนี้ บริษัทยังคงคาดการณ์ในเชิงบวกจากประวัติการเติบโตของอินเดีย และจะยังคงมุ่งมั่นขยายกิจการ แต่ช่วงเวลาอันสับสนนี้ก็ได้ฉุดรั้งให้ EBITDA ของปีงบประมาณปัจจุบันลดลงมาที่ร้อยละ 14.1 อยู่ที่ 102,763 ล้านรูปี (เทียบกับ 119,674 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2016) นอกจากนี้ การลงทุนที่สูงในระยะสองปีให้หลังจากคลื่นความถี่และวัสดุอุปกรณ์ ได้ทำให้ ‘ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย’ กลายเป็น 78,272 ล้านรูปี ส่วน ‘ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ)’ อยู่ที่ 37,341 ล้านรูปี ซึ่งทำให้รายงานกำไรหลังหักภาษี (PAT) ของ Idea มีการขาดทุนอยู่ที่ 4,075 ล้านรูปี ในปีงบประมาณ 2017 สำหรับกิจการเดี่ยว – นับเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปีตั้งแต่การเสนอขายหุ้น IPO ในปี ค.ศ. 2007
หนี้สินสุทธิ ณ 31 มีนาคม 2017 อยู่ที่ 500.7 ล้านรูปี รวมถึงหนี้สินส่วนใหญ่จาก ‘การประมูลคลื่นความถี่ที่อยู่ระหว่างรอการตัดบัญชี’ ที่ผูกพันกับ DoT จากการประมูลคลื่นความถี่ และด้วยการนำมาตรฐานการบัญชี Ind AS มาใช้ การเงินของ Indus (กิจการร่วมทุน) และ ABIPBL (กิจการในเครือ) จึงพิจารณาได้ในระดับ PAT เท่านั้น ดังนั้น รายได้แบบรวมกิจการทั้งหมด (รวมถึงหุ้นจาก Indus และ ABIPBL) จึงขาดทุนอยู่ที่ 4,040 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2017 จากที่เคยอยู่ที่ 27,142 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2016
ระหว่างปีงบประมาณ 2017 Idea ได้เชื่อมโยงเครือข่ายโทรคมนาคมขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยนับได้ 50,004 แห่ง (2G+3G+4G) เป็นการขยายเครือข่าย GSM (2G), HSPA (3G) และ LTE (4G) สู่ EoP ทั้งหมด 241,540 แห่ง ซึ่งรวมถึงมีการเพิ่มจุดบริการบรอดแบรนด์ไร้สาย (3G+4G) ร้อยละ 70 จากเดิม 64,703 จุดเมื่อ 31 มีนาคม 2016 และ 110,054 จุดเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2017 โดยขณะนี้บรอดแบรนด์ไร้สายครอบคลุมประชากรชาวอินเดียมากขึ้นกว่า 500 ล้านคนใน 21 เขตให้บริการ โดยเป็นคลื่นความถี่บรอดแบรนด์ของ Idea เอง บริษัทยังคงขยายเครือข่ายไฟเบอร์ไปอีกร้อยละ 25 จากเดิมที่ระยะทาง 115,500 กม. (31 มีนาคม 2016) เป็น 144,600 กม. ณ วันที่ 31 มีนาคม 2017 รายจ่ายฝ่ายทุนตลอดปีทั้งหมดอยู่ที่ 78.5 พันล้านรูปี ซึ่งทุนส่วนใหญ่มาจากกำไรเงินสดจากปีงบประมาณ 2017 ที่ 69.4 พันล้านรูปี การลงทุนของบริษัทในสินทรัพย์ถาวรขณะนี้ได้เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ กว่า 1,185 พันล้านรูปี โดยเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 198 พันล้านรูปีในช่วง 12 เดือนหลัง การลงทุนมหาศาลในคลื่นความถี่และวัสดุอุปกรณ์เพื่อเป็นฐานการสร้างรายได้นี้ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากภาคธุรกิจดิจิทัลในอินเดียนี้อยู่ระหว่างการผลักดัน คลื่นความถี่ทั้งหมดของ Idea คือ 891.2 MHz บน 900, 1800, 2100, 2300 และ 2500 MHz ประกอบกับความสามารถของเครือข่ายบรอดแบรนด์ ทำให้สามารถรองรับการจราจรข้อมูลได้เร็วขึ้นกว่าปัจจุบันถึง 15-20 เท่า ข้อแนะนำด้านรายจ่ายเพื่อการลงทุนสำหรับปีงบประมาณ 2018 อยู่ที่ 60 พันล้านรูปี ซึ่งเพียงพอต่อการขยายบรอดแบรนด์ให้ครอบคลุมพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพข้อมูลไร้สาย โดยมีแผนการเปิดตัวเครือข่ายคลื่นความถี่ 2300 MHz (คลื่นความถี่ 2500 MHz จะเปิดตัวภายหลังในปีงบประมาณ 2019) และให้การแนะนำบริการเสียง LTE
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2017 บริษัท Vodafone Group Plc และ Idea Cellular ได้ประกาศถึงข้อตกลงในการควบรวมกิจการในอินเดีย (ไม่รวมสินทรัพย์ของ Vodafone ร้อยละ 42 ในอาคาร Indus Tower) เพื่อเป็นการสร้างธุรกิจคมนาคมขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดีย การรวมตัวกันของ Idea และ Vodafone เกิดขึ้นตามฉันทามติ โดยมีสาระเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้มีส่วนร่วมทั้งหลาย เพิ่มทางเลือกที่แข็งแกร่งให้กับผู้บริโภคชาวอินเดีย 1.3 ล้านราย อีกเพื่อตอบสนองต่อวิสัยทัศน์ของนายกรัฐมนตรีแห่งอินเดียในด้านดิจิตอล และผสานกับเป้าหมายทางการเงิน บริษัทที่ร่วมกิจการเข้าด้วยกันนี้จะกลายเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารชั้นนำในอินเดีย ที่ซึ่งมีลูกค้าราว 400 ล้านราย ครองส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 35 และครองส่วนแบ่งรายได้ที่ร้อยละ 41 (ตาม TRAI ที่ประกาศในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017) การดำเนินการเพื่อการควบรวมกิจการนี้ ยังต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานผู้รับผิดชอบทั้งหลายและจากผู้ถือหุ้นของ Idea ต่อไป Vodafone และ Idea ได้เริ่มดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญต่างๆ เพื่อการอนุมัติตามข้อบังคับทางกฎหมายแล้ว มีการรับคำร้องขอพิจารณาการควบรวมกิจการแล้วโดย ‘Competition Commission of India’ (CCI) ส่วนหลักการเตรียมการณ์อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติจาก SEBI และตลาดหลักทรัพย์
ขณะเดียวกัน Idea จะยังคงความแคล่วคล่อง ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย และเน้นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่อไป บริษัทยังคงมั่นใจต่อการลงทุนเพื่อโอกาสในธุรกิจบริการด้านเสียงสำหรับมือถือ เนื้อหาดิจิตอล การธนาคารผ่านมือถือ และธุรกิจข้อมูลไร้สาย เนื่องจากตลาดด้านโทรคมนาคมยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปสู่ผู้ประกอบการรายใหญ่อีก 5 ราย
Idea Cellular เป็นผู้ให้บริการไร้สายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอินเดีย ซึ่งมีส่วนแบ่งรายได้การตลาดที่ร้อยละ 18.7 (ไตรมาสที่ 3ปีงบประมาณ 2017) บริษัท Idea จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (NSE) และตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์ (BSE) ในประเทศอินเดีย บริษัท Idea เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Aditya Birla Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย กลุ่มบริษัท Aditya Birla Group เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศ กลุ่มบริษัท Aditya Birla ก่อตั้งมายาวนานกว่า 50 ปี และมีส่วนธุรกิจมากมาย เช่น โทรคมนาคมโทรศัพท์มือถือ โลหะและเหมืองแร่ ซีเมนต์ เขม่าดำ เสื้อผ้า สิ่งทอ เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย ประกันชีวิตและอุตสาหกรรมบริการด้านการเงิน
Idea Cellular Limited - CIN L32100GJ1996PLC030976สำนักงานใหญ่: Suman Tower, Plot No. 18, Sector 11, Gandhinagar 382011,Gujarat, India
โทร: 91 79 6671 4000แฟ็กซ์: 91 79 2323 2251.
เว็บไซต์: www.ideacellular.com
อีเมล: info@ideacellular.com