IDEA CELLULAR ประกาศผลประกอบการทางการเงินของบริษัทที่ยังไม่ผ่านการสอบบัญชี สำหรับไตรมาสที่สาม (Q3) สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2017

24 มกราคม, 2561

ไฮไลท์ ผลประกอบการ 1กิจการเดี่ยว
รายได้ รูปี 65,097 ล้าน กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 12,233 ล้าน กำไรหลังหักภาษี (PAT) รูปี -13,519 ล้าน
ล้าน รูปี

 

ไตรมาส 3 ปีงบ 2018 ไตรมาส 2 ปีงบ 2018 ไตรมาส 3 ปีงบ 2017 เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา เทียบกับปีที่ผ่านมา
รายได้ - พื้นที่ให้บริการเดิม3 60,660 69,239 80,163 -12.4% -24.3%
รายได้ - พื้นที่ให้บริการใหม่4 4,437 5,415 6,464 -18.1% -31.4%
รายได้รวม 65,097 74,654 86,627 -12.8% -24.9%
EBITDA - พื้นที่ให้บริการเดิม3 14,001 16,482 23,565 -15.1% -40.6%
EBITDA พื้นที่ให้บริการใหม่4 -1,768 -1,465 -1,648 -20.6% -7.3%
EBITDA ทั้งหมด 12,233 15,106 21,917 -18.5% -44.2%
EBITDA % พื้นที่ให้บริการเดิม3 23.1% 23.8% 29.4% -0.7% -6.3%
EBITDA% พื้นที่ให้บริการใหม่4 -39.8% -27.1% -25.5% -12.8% -14.3%
EBITDA% 18.8% 20.1% 25.3% -1.3% -6.5%
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย 21,414 21,413 19,653 1.3% 9.0%
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี -9,181 -6,127 2,265 -49.9% NA
ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ) 11,490 11,829 9,495 -2.9% 21.0%
กำไรก่อนหักภาษี -20,671 -17,956 -7,230 -15.1% -185.9%
กำไรหลังหักภาษี (กิจการเดี่ยว 1) -13,519 -11,760 -4,789 -15.0% -182.3%
กำไรเงินสด 5 (กิจการเดี่ยว) 200 2,884 12,276 -93.1% -98.4%
ส่วนแบ่งกำไรจาก Indus และ ABIPBL 818 843 1,143 -3.0% -28.5%
ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีจากรายได้จาก Indus 145 148 193 -2.4% -25.0%
รายได้รวมอื่น (ภาษีสุทธิ) -11 -12 -17 10.7% 36.0%
รายได้รวมทั้งหมด (รวมกิจการ 2) -12,856 -11,077 -3,856 -16.1% -233.4%

ไตรมาสนี้ได้รับผลกระทบจากการปรับลด IUC ความกดดันจากอัตราคงที่ และอุตสาหกรรมโดยรวม

มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2017 หน่วยงานกำกับกิจการโทรคมนาคมของอินเดีย (The Telecom Regulatory Authority of India (TRAI)) ได้ปรับเปลี่ยนระเบียบข้อบังคับว่าด้วยอัตราค่าบริการการใช้งานเชื่อมต่อภายในประเทศ (Interconnection Usage Charge (IUC)) ทำให้ Mobile Termination Charge (MTC) ลดลงจาก 14 ไปซา (paisa) เหลือ 6 ไปซาต่อนาที ซึ่งสร้างความกดดันด้านการเงินให้กับอุตสาหกรรมเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นผลประกอบการในไตรมาสจึงไม่สามารถนำไปเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าได้ ข้อบังคับกำหนดให้ลดอัตรา IUC ลงถึงร้อยละ57 ซึ่งส่งผลทางลบเป็นอย่างมากต่อรายได้และ EBITDA ของ Idea ในไตรมาสนี้ประมาณ 8,200 ล้านรูปีและประมาณ 2,300 ล้านรูปีตามลำดับ อัตราบริการ MTC ภายในประเทศและระเบียบว่าด้วยอัตราระหว่างประเทศ ‘International mobile termination’ ที่ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2018 โดยให้ลดลงจาก 53 ไปซาเหลือ 30 ไปซาต่อนาทีนั้น ถือเป็นมรสุมลูกใหญ่ต่อภาคธุรกิจและลดทอนเงินลงทุนสำหรับโปรแกรมเร่งด่วนตามนโยบายของภาครัฐ ‘Digital India’ การลดลงของอัตรา IUC ระหว่างประเทศเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการจากต่างประเทศเท่านั้น ประโยชน์ที่ผู้บริโภคในอินเดียได้รับนั้นไม่อาจนำไปเทียบได้ อีกยังส่งผลชัดเจนต่อการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศและการสูญเสียรายได้ของกระทรวงการคลังของอินเดีย

ขณะที่การสวนกระแสยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ผู้ประกอบการมือถือรายย่อยยังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมโดยการรวมตัวกันต่อไปในปีปิทิน 2018 นี้ ส่วน Idea ในระหว่างไตรมาสนี้ ด้วย (ก) ความสำเร็จจากการบริการคงสิทธิเลขหมาย (Mobile Number Portability (MNP)) (ข) การออกแพ็คเกจข้อมูลเสียงแบบไม่จำกัดให้กับตลาดรวม และ (ค) การลงทุนบรอดแบนด์แบบถาวร ช่วยเสริมให้ได้รับผลดี โดยผู้ใช้บริการเดิมได้หวนกลับมาใช้บริการอีกครั้ง โดยมีจำนวน ‘ลูกค้าเพิ่มขึ้นสุทธิ’ เพิ่มขึ้นถึง 7.5 ล้านราย ในการลงทะเบียนตำแหน่งโทรศัพท์ต่างถิ่น (Visitor Location Register (VLR)) ในระหว่างไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2018 ส่งผลให้ ‘ส่วนแบ่งตลาดผู้ลงทะเบียน’ (VLR) เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 19.8 ในเดือนพฤศจิกายน 2017 เทียบกับ 19.4 ในเดือนสิงหาคม 2017 ฐานผู้ใช้งานจริงทั้งหมด (VLR) ของบริษัทเกินกว่าที่คาดหวังที่ 200 ล้านรายแล้ว โดยอยู่ที่ 203 ล้านรายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2017

ในการเปรียบเทียบ ปัจจัยลบคือ (ก) การกำหนดลดอัตรา MTC ที่ดิ่งลง และ (ข) ความกดดันจากอัตราค่าบริการเสียงและข้อมูลที่ไม่ผ่อนปรนโดยผู้ใช้บริการ ARPU ได้หันไปใช้ ‘แผนบริการรวมข้อมูลเสียงแบบไม่จำกัด’ แทน ทำให้รายได้รวมของ Idea ลดลงร้อยละ 12.8 ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2018 เหลือ 65,097 ล้านรูปี (เทียบกับไตรมาสที่ 2ปีงบประมาณ 2018 รายได้อยู่ที่ 74,654 ล้านรูปี) กระแสการแข่งขันรูปแบบใหม่ที่น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจ รวมถึง (ก)ผู้ใช้มัลติซิมปัจจุบันหันไปใช้บริการจากผู้ให้บริการรายเดียว (ข)ลูกค้าผู้ใช้บริการเป็นครั้งคราวเริ่มปรับตัวตอบรับต่อแผนบริการที่ครอบคลุม (ค)ผู้ที่ลงทะเบียนใช้เสียงเพียงอย่างเดียวอัปเกรดโทรศัพท์มือถือเป็นบริการบรอดแบนด์ 4G smartphone/4G และ (ง)ชาวอินเดียเกือบ 300-400 คนที่ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือเลยได้มาถึงจุดเปลี่ยนและเริ่มใช้โทรศัพท์ไร้สาย 2G บทบาทของบริการมือถือต่อการดำเนินชีวิตของชาวอินเดียยังไม่มีความสำคัญมากนัก แต่แสดงถึงโอกาสอันมหาศาลในระยะยาวในอนาคตต่อไป

การเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างการใช้บริการโทรศัพท์มือถือ

ส่วนบริการเสียงจากที่ภาคอุตสาหกรรมประสบภาวะการดิ่งลงจากค่าธรรมเนียม แต่ปริมาณการใช้เสียงและข้อมูลได้เพิ่มขึ้นบางส่วนชดเชยต่ออัตราที่ดิ่งลงได้บ้าง การตอบรับต่อแพ็คเกจบริการข้อมูลเสียงแบบไม่จำกัดทำให้มีปริมาณการใช้เสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยอัตราการใช้เสียงต่อนาทีเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องรายไตรมาสเป็นร้อยละ 10.8 ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2018 (เทียบกับ +1.7 ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2018) ซึ่งสูงสุดในระยะเวลา 30 ไตรมาสที่ผ่านมา ช่วยให้ปริมาณการใช้เสียงในไตรมาสสูงถึง 282.6 พันล้านนาที ‘อัตราการใช้เสียง’ (รวมผลกระทบจากการลดอัตรา IUC) ดิ่งลงถึงร้อยละ 23.6 เหลือ 16.8 ไปซาต่อนาที (จาก 22.0 ไปซาในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018) ซึ่งผลที่ได้ก็คือ ‘การใช้ต่อผู้ลงทะเบียน’ ทะยานขึ้นเป็น 509 นาที ในไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2018

ส่วนบริการข้อมูลมือถือ – ในช่วงระหว่างสองสามเดือนที่ผ่านมา เมล็ดพันธุ์เพื่อการปฏิวัติทางดิจิตอลให้อินเดียก้าวสู่สังคมแห่งดิจิตอลอย่างถาวรได้ถูกหว่านลง วันนี้ เราได้ประจักษ์ถึงการเติบโตอย่างรุ่งโรจน์ของ ‘การใช้ข้อมูลต่อผู้ใช้’ ที่พุ่งทะยานสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 703 MB/เดือน (ไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2017) เป็น 4,742 ต่อเดือนในระหว่างไตรมาสนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การเปิดกระแสการแข่งขันด้วยแพ็คเกจข้อมูลหลายระดับราคาทำให้ Idea มีผู้ลงทะเบียนใช้บรอดแบนด์ไร้สายสูงสุดเป็นประวัติกาล โดยมีผู้รับบริการเพิ่มขึ้น 5.2 ล้านรายในไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2018 ซึ่งช่วยให้ฐานผู้ลงทะเบียนใช้บรอดแบนด์ไร้สาย (EoP) ของบริษัทมีถึง 34.8 ล้านรายจากผู้ใช้ข้อมูลมือถือทั้งหมด 42.6 ล้านราย นอกจากนี้ ปริมาณข้อมูลมือถือ (2G+3G+4G) ยังคงเติบโตต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญที่ร้อยละ 30.2 (สืบเนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องรายไตรมาสที่ 73.5 ในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018 และร้อยละ 99.1 ในไตรมาสที่ 1 ปีงบ 2018) โดยเครือข่ายข้อมูลของ Idea ทั่วประเทศอินเดียรองรับปริมาณข้อมูล 571 พันล้าน MB ในไตรมาสนี้

แพ็คเกจบริการข้อมูลเสียงแบบไม่จำกัดกลายเป็นแหล่งขุมทรัพย์ให้กับผู้บริโภคชาวอินเดีย จากการที่ ‘อัตราการใช้ข้อมูลมือถือ’ ถูกลงจนมาสู่ระดับต่ำสุดของโลกที่ 2.0 ไปซาต่อ MB เป็นการดิ่งลงถึงร้อยละ 27 จาก 2.7 ไปซาต่อ MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018 ระหว่างปีที่ผ่านมา ปริมาณยอดรวมข้อมูลบรอดแบรนด์ไร้สายของ Idea สูงขึ้นทวีคูณประมาณ 6.5 เท่าเป็น 549 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2018 จากเพียง 84 พันล้าน MB เมื่อปีก่อน

การเร่งการลงทุนบรอดแบรนด์เพื่อสนองตอบต่อความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก

ในช่วงสองปีที่ผ่านมา Idea ได้ขยายโครงสร้างบรอดแบรนด์ไร้สายอย่างจริงจังและเพิ่มจุดบริการบรอดแบนด์ (3G+4G) ถึง 96,020 จุด Idea ได้เพิ่มจุดบริการบรอดแบนด์อีกประมาณ 3 เท่าในช่วงสองปีที่ผ่านมาทำให้จุดบริการบรอดแบนด์ทั้งหมดในขณะนี้มีอยู่ 143,565 จุด เครือข่ายบรอดแบรนด์ไร้สายของ Idea (3G+4G) ครอบคลุมประชากรอินเดียกว่า 634 ล้านคน (ร้อยละ 52.4 ของจำนวนประชากรอินเดีย) ในพื้นที่ให้บริการ 22 เขต ครอบคลุมพื้นที่ 154,000 เมืองและหมู่บ้าน ส่วนไตรมาสนี้บริษัทยังคงขยายบรอดแบนด์ต่อไปอีกเกือบ 10,000 จุด

Idea และ Vodafone India เพิ่มเติมจากข้อตกลงการแบ่งปันโครงสร้างพื้นฐานในปัจจุบัน ยังได้ขยาย Intra Circle Roaming (ICR) ให้ครอบคลุมมากขึ้นภายใต้ข้อตกลง 2G ICR และมีการเปิดเจรจาข้อตกลง 4G ICR ในระหว่างไตรมาสเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อนในการใช้และเพื่อให้รายจ่ายฝ่ายทุนนั้นคุ้มค่าที่สุด ส่งผลให้มีการขยายพื้นที่ครอบคลุมทั่ว 12,500 เมืองและหมู่บ้านใกล้เคียง ในที่ๆ ผู้ประกอบการรายหนึ่งไม่ได้เข้าไปลงทุนก่อนหน้านั้น

จากอัตราการตอบรับการใช้ 4G ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยได้รับแรงหนุนจากสมาร์ทโฟนที่มีราคาถูกลงและอัตราค่าบริการที่ต่ำสุดของโลกของ ‘ค่าธรรมเนียมบรอดแบนด์เสียงและไร้สาย’ นั้น การลงทุนในเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นของ Idea เกือบทั้งหมดจึงมุ่งไปที่การขยายเครือข่าย 4G (รวมถึงไฟเบอร์และความสามารถในการรองรับ) Idea จะยังคงเปิดตัว VoLTE – ‘Voice over LTE’ บริการที่สามารถใช้งานโทรออกหรือรับสายด้วยเสียงเป็นตลาดหลัก ตั้งแต่มีนาคม 2018 เป็นต้นไป รายจ่ายฝ่ายทุนสำหรับไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 17.5 พันล้านรูปี

ผลประกอบการไตรมาส 3 ปีงบ 2018 ได้รับผลกระทบจากการลดลงของ IUC

ส่งผลให้รายได้รวมลดลง โดยมีสาเหตุหลักจากการปรับอัตรา MTC ซึ่งทำให้ EBITDA รายไตรมาสลดลงร้อยละ 18.5 มาอยู่ที่ 12,233 ล้านรูปีเปรียบเทียบกับ 15,016 ล้านรูปีในไตรมาส 2 ปีงบ 2018 ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมุ่งเน้นถึงการใช้จ่ายในการดำเนินการที่เหมาะสมที่สุดตามกรอบการลงทุนใหม่ที่ตั้งไว้ หลังจากได้รับผลกระทบจาก IUC ทำให้ EBITDA ลดลงร้อยละ 3.2 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน กำไรขั้นต้น EBITDA สำหรับไตรมาสลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 18.8 (กำไรขั้นต้นปกติอยู่ที่ 19.8) จากร้อยละ 20.1 ในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018

‘ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย’ และ ‘ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายด้านการเงิน (สุทธิ)’ อยู่ที่ 21,414 ล้านรูปี และ 11,490 ล้านรูปีตามลำดับ ส่งผลให้กำไรหลังหักภาษี (PAT) ติดลบที่ 13,519 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2018 (เทียบกับขาดทุน PAT ที่ 11,760 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018) รายได้รวมทั้งสิ้นของกิจการโดยรวม (ซึ่งรวมถึงส่วนจาก Indus และ ABIPBL) ขาดทุนที่ 12,856 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบ 2018 (เทียบกับขาดทุน 11,077 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018)

‘หนี้สินสุทธิ’ ณ 31 ธันวาคม 2017 อยู่ที่ 557,818 ล้านรูปี ซึ่งรวมถึงหนี้สินส่วนใหญ่จาก ‘การประมูลคลื่นความถี่ที่อยู่ระหว่างรอการตัดบัญชี’ ที่ผูกพันกับ DoT จากการประมูลคลื่นความถี่

อัปเดทเรื่องการรวมกิจการ

เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2017 Vodafone Group Plc และ Idea Cellular ได้ประกาศข้อตกลงการรวมกิจการในอินเดีย (ไม่รวมกิจการร้อยละ 42 ของ Vodafone ที่ Indus Towers) เพื่อก่อตั้งกิจการธุรกิจโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ทั้งสองฝ่ายสามารถก้าวเดินไปด้วยกันอย่างสอดคล้องและการรวมตัวกันทำให้สามารถครอบครองหนึ่งในคลื่นความถี่สูงสุด 1,850 MHz จากหลายๆ คลื่นความถี่ โดยการรวมกิจการนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยทั้งนี้ ข้อเสนอการรวมกิจการของบริษัทได้รับการอนุมัติแล้วจาก (ก) Competition Commission of India (CCI) (ข) SEBI และ Stock Exchanges และ (ค) เมื่อเร็วๆ นี้จาก National Company Law Tribunal (NCLT), Bench of Ahmedabad and Mumbai. การควบรวมกิจการระหว่าง Idea และ Vodafone India อยู่ในระยะสุดท้ายของขั้นตอนการอนุมัติ ซึ่งคาดว่าจะผ่านการอนุมัติ และเสร็จสิ้นในช่วงครึ่งปีแรกของปี ค.ศ. 2018

ทั้งสองบริษัท ภายใต้กรอบตามกฎหมาย ได้จัดตั้งคณะบริหารจัดการโครงการเพื่อเตรียมการรวมกิจการและริเริ่มการวางแผนงานในรายละเอียดเพื่อกำหนดรายจ่ายเพื่อการลงทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการร่วมกันแล้ว

เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 Idea และ Vodafone ได้แยกกันประกาศการขายธุรกิจอาคารเดี่ยวในอินเดียให้กับ ATC Telecom Infrastructure Private Limited (“American Tower”) เพื่อการรวมกิจการมูลค่า 78.5 พันล้านรูปีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงบดุลของกิจการที่ควบรวม เมื่อการควบรวมกิจการระหว่าง Idea และ Vodafone India แล้วเสร็จ ผู้ร่วมเช่าประมาณ 6,300 รายในธุรกิจอาคารเดี่ยวแบบรวมจะควบรวมเป็นผู้เช่ารายเดียวภายในระยะเวลาสองปี โดยไม่ต้องชำระค่าปรับ

Idea อยู่ระหว่างการเพิ่มมูลค่าทุนให้เป็น 67.5 พันล้านรูปีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงบดุลรวม

เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2018 คณะกรรมการบริหารอนุมัติการออกหุ้นจำนวนประมาณ 326.6 ล้านหุ้น ที่ราคา 99.50 รูปีต่อหุ้น โดยเป็นหุ้นบุริมสิทธิสำหรับกลุ่มผู้ก่อตั้งที่จำนวน 32.5 ล้านหุ้น คณะกรรมการบริหารของ Idea ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการจากผู้บริหารเพื่อประเมินทิศทางที่เป็นไปได้ในการเพิ่มเงินลงทุนจากส่วนเจ้าของกิจการให้ได้ 35 พันล้านรูปี ซึ่งอาจมาจากการออกหุ้นบุริมสิทธิ การระดมทุนผ่าน Qualified Institutional Placement (QIP) หรือการใช้สิทธิ เป็นต้น การเพิ่มเงินลงทุนตามที่เสนอเป็น 67.5 พันล้านรูปีจะลดหนี้สินสุทธิของ Idea และผลที่ได้ก็คือการช่วยเหลือทางหนี้สินสุทธิของ Vodafone เพื่อการรวมหุ้นก็จะสามารถลดลงได้ในสัดส่วนเดียวกัน ในการนี้ ประกอบกับการขายธุรกิจอาคารเดี่ยวของ Idea และ Vodafone India เมื่อเร็วๆ นี้ที่มูลค่า 78.5 พันล้าน และความเป็นไปได้ในการแปลงมูลค่าทรัพย์สินของ Idea ร้อยละ 11.15 ในอาคาร Indus จะเพิ่มพูนแหล่งเงินทุนระยะยาวให้กับกิจการควบรวมนี้

ในเวลาเดียวกัน Idea จะยังคงความแคล่วคล่อง ยืดหยุ่น ปรับตัวง่าย และเน้นถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานต่อไป บริษัทยังคงยึดมั่นที่จะขยายการครอบคลุมและเพิ่มความสามารถในการรองรับ รักษาสมดุลด้านการใช้จ่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริโภคอย่างยั่งยืน Idea คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการรวมกันของอุตสาหกรรมที่เร็วกว่าที่คาดการณ์ และก่อกำเนิดผู้ให้บริการด้านโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง ทั้งในด้านบริการบรอดแบนด์และเสียงผ่านแพลตฟอร์ม 2G, 3G และ 4G

หมายเหตุ:

  1. IDEA กิจการเดียว หมายถึงบริษัท IDEA และสาขาทั้งหมดร้อยละ 100 การนำปฏิบัติการทั้งหมดมารวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่รวม Indus และ Aditya Birla Idea Payments Bank Limited (ABIPBL) เป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ
  2. Idea รวมกิจการ หมายถึง บริษัท Idea แต่เพียงผู้เดียว และรวมถึงสัดส่วนจาก Indus และ Payments Bank ในระดับ PAT
  3. พื้นที่ให้บริการเดิม หมายถึงพื้นที่ให้บริการ 15 แห่ง ได้แก่ รัฐมหาราษฎระและรัฐกัว รัฐคุชราต รัฐอานธรประเทศ รัฐมัธยประเทศ รัฐฉัตติสครห์ กรุงเดลี รัฐเกรละ รัฐหรยาณา รัฐอุตตรประเทศตะวันตก รัฐอุตรารัณจัล (เปลี่ยนชื่อเป็น รัฐอุตตราขัณฑ์) รัฐอุตตรประเทศตะวันออก รัฐราชสถาน รัฐหิมาจัลประเทศ รัฐปัญจาบ รัฐกรณาฏกะ เมืองมุมไบ และเขตบริการรัฐพิหาร
  4. พื้นที่ให้บริการใหม่คือพื้นที่ให้บริการ 7 แห่งที่รัฐโอริสสา ทมิฬนาฑู จัมมูและแคชเมียร์ กัลกัตตา เวสต์เบงกอล รัฐอัสสัมและนอร์ธ อีสต์
  5. กำไรเงินสดได้รับการคำนวณจาก PAT ซึ่งเป็นผลรวมของกำไรหลังหักภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในบัญชีของ ESOPs และภาษีเงินได้รอตัดบัญชี (ไม่รวม MAT) ตามระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง
  6. ตัวเลขในช่วงที่ผ่านมามีการจัดกลุ่มใหม่ตามที่จำเป็น

 

เกี่ยวกับ Idea Cellular Limited

Idea Cellular เป็นผู้ให้บริการไร้สายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอินเดีย โดยมีส่วนแบ่งรายได้การตลาดที่ร้อยละ 16.2 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2018) บริษัท Idea จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (NSE) และตลาดหลักทรัพย์บอมเบย์ (BSE) ในประเทศอินเดีย บริษัท Idea เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Aditya Birla Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย กลุ่มบริษัท Aditya Birla Group เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการในกว่า 35 ประเทศ กลุ่ม Aditya Birla Group ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี และมีธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การสื่อสารโทรคมนาคม โลหะและเหมืองแร่ ปูนซีเมนต์ คาร์บอนดำ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ ประกันชีวิต และอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน