21 มกราคม, 2559
Shareไฮไลท์ - ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2016 | |||
ไอเดีย – เฉพาะกิจการเดียว1 | รายได้ รูปี 90,089 ล้าน | กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รูปี 28,513 ล้าน | กำไรหลังหักภาษี รูปี 6,614 ล้าน |
ไอเดีย – งบรวม 2 | รายได้ รูปี 90,097 ล้าน | กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) รูปี 31,285 ล้าน | กำไรหลังหักภาษี รูปี 7,642 ล้าน |
ไอเดีย – เฉพาะกิจการเดียว 1 | ไอเดีย – งบรวม 2 | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ไตรมาส 3 ปีงบ 2016 | ไตรมาส 2 ปีงบ 2016 | นับจากต้นปีจนถึงวันที่ปัจจุบัน ไตรมาส 3 ปีงบ 2016 | นับจากต้นปีจนถึงวันที่ปัจจุบัน ไตรมาส 3 ปีงบ 2015 | ไตรมาส 3 ปีงบ 2016 | ไตรมาส 2 ปีงบ 2016 |
นับจากต้นปีจนถึงวันที่ปัจจุบัน ไตรมาส 3 ปีงบ 16 |
นับจากต้นปีจนถึงวันที่ปัจจุบัน ไตรมาส 3 ปีงบ 15 | |
รายได้ – จากการให้บริการเดิม 3 | 84,063 | 81,045 | 2,47,625 | 2,18,526 | ||||
รายได้ – จากการให้บริการเพิ่มเติม 4 | 6,026 | 5,754 | 17,228 | 12,857 | ||||
รายได้รวม | 90,089 | 86,799 | 2,64,853 | 2,31,383 | 90,097 | 86,891 | 2,64,971 | 2,31,484 |
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) - จากการให้บริการเดิม3 | 30,295 | 29,548 | 91,153 | 75,258 | ||||
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) - จากการให้บริการเพิ่มเติม 4 | (1,782) | (1,775) | (5,254) | (5,407) | ||||
EBITDA รวม | 28,513 | 27,773 | 85,899 | 69,851 | 31,285 | 30,570 | 94,139 | 77,473 |
EBITDA % - จากการให้บริการเดิม 3 | 36.0% | 36.5% | 36.8% | 34.4% | ||||
EBITDA % - จากการให้บริการเพิ่มเติม 4 | -29.6% | -30.9% | -30.5% | -42.1% | ||||
EBITDA% รวม | 31.6% | 32.0% | 32.4% | 30.2% | 34.7% | 35.2% | 35.5% | 33.5% |
ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย | 15,206 | 14,327 | 43,660 | 35,152 | 16,231 | 15,381 | 46,771 | 38,159 |
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี | 13,307 | 13,446 | 42,239 | 34,699 | 15,054 | 15,190 | 47,369 | 39,314 |
ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ) | 3,175 | 2,516 | 8,251 | 3,901 | 3,349 | 2,726 | 8,867 | 4,703 |
เงินปันผลจากบริษัทอินดัส | - | - | - | 4,648 | - | - | - | - |
กำไรก่อนหักภาษี | 10,132 | 10,930 | 33,988 | 35,446 | 11,705 | 12,464 | 38,501 | 34,611 |
กำไรหลังหักภาษี | 6,614 | 7,102 | 22,116 | 24,695 | 7,642 | 8,093 | 25,043 | 22,512 |
กำไรเงินสด5 | 23,493 | 25,318 | 74,342 | 58,671 | 25,512 | 27,360 | 80,309 | 59,560 |
ความพึงพอใจของผู้บริโภคต่อแบรนด์ไอเดียได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้เพิ่มสมาชิก (VLR) อีก 29.7 ล้านรายในปี 2015 ทำให้ขณะนี้มีสมาชิกผู้ใช้บริการอยู่ 182 ล้านราย ทำให้ไอเดียกลายเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งเดียวในการพัฒนาเสียงโทรศัพท์มือถือ บรอดแบนด์ไร้สาย เนื้อหาดิจิตอล และบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือในอนาคต จำนวนสมาชิกของบริษัท (VLR) ได้ครองส่วนแบ่งทางตลาดร้อยละ 19.1 (ตุลาคม 2015 รายงานจาก TRAI (Telecom Regulatory Authority of India)) และมีรายได้ส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 18.5 สำหรับไตรมาสที่ 2 ในปีงบประมาณ 2016 ซึ่งมีอัตราส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 (VLR และ RMS) ในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา
ตรงข้ามกับจำนวนสมาชิกที่มากขึ้นตามขนาดของตลาด การเติบโตของรายได้อุตสาหกรรมโดยประมาณในรอบเก้าเดือนแรกอยู่ที่เพียงร้อยละ 5.5 – 6.5 เปรียบเทียบกับร้อยละ 10.9 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตของรายได้ที่ลดลงมีปัจจัยหลักมาจากอัตราการใช้งานด้านเสียงที่ลดลง เนื่องจาก TRAI ได้ปรับลดอัตรา IUC (Interconnection Usage Charge) จาก 20p เหลือ 14p/นาที ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มีนาคม 2015 ซึ่งส่งแรงกดดันในด้านอัตราข้อมูลมือถือเนื่องจากทำให้อัตราความต้องการบรอดแบรนด์ไร้สายของผู้บริโภคช้าลงเมื่อเทียบกับปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองเทคโนโลยี 3G/4G
ในเชิงเปรียบเทียบ แนวโน้มระยะยาวของธุรกิจไอเดียจะยังคงยืนหยัดอยู่อย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้เฉพาะจากไอเดียแต่เพียงผู้เดียวในไตรมาสได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 (ร้อยละ 16.4 ก่อนการปรับ IUC) เป็น 90,089 ล้านรูปีจากเดิม 80,148 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2015 ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของรายได้คือปริมาณการใช้เสียง/นาทีที่เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบระหว่างช่วงเดียวกันของปีนี้กับปีก่อนหน้า ที่ร้อยละ 16.7 คือ 199.2 พันล้านนาที และข้อมูลมือถือ (2G+3G+4G) ที่ร้อยละ 75.8 หรือ 81 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบระหว่างช่วงเดียวกันของปีนี้กับปีก่อนหน้า อัตราการใช้เสียงที่ลดลงร้อยละ 10.6 (รวมผลกระทบจาก IUC) และอัตราการใช้ข้อมูลมือถือที่ร้อยละ 17.2 เป็นแรงกดดันต่อการเติบโตของรายได้สุทธิโดยรวม
ระหว่างปีปฏิทิน 2015 ไอเดียได้ให้ความสำคัญต่อความคาดหวังของผู้บริโภคโดยได้นำเซลล์ไซต์ (cell site) จำนวนมากที่สุดในประวัติการณ์ถึง 32,285 เซลล์ไซต์มารวมเข้าด้วยกัน (2G+3G+4G) โดยได้ขยายขอบเขตการให้บริการ 2G ไปยังผู้ใช้ชาวอินเดีย 974 ล้านราย และขยายการให้บริการบรอดแรนด์ไร้สาย 3G และ 4G เพื่อให้เข้าถึงประชากร 340 ล้านคน ขณะที่เครือข่ายไฟเบอร์ได้ขยายไปไกลกว่า 105,000 กม. เพื่อให้บริษัทสามารถรองรับคลื่นลูกใหม่แห่งการปฏิวัติการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ค่าใช้จ่ายในการลงทุนในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 จำนวน 23,135 ล้านรูปีได้รับการจัดสรรจากกำไรเงินสด 23,493 ล้านรูปีของไตรมาสนั้น
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคา ภาษีและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ของกิจการเดียวในไตรมาสจำนวน 28,513 ล้านรูปีคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 14.7 ต่อปี (24,860 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2015) อัตรากำไรขั้นต้น (margin) อยู่ที่ร้อยละ 31.6 ซึ่งดีขึ้นร้อยละ 0.6 จากไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2015
ระหว่างเดินธันวาคม 2015 การสิ้นอายุของคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิร์ตซ์ (ได้รับอนุญาตระหว่างปี 1995-2015) ถูกแทนที่ด้วยคลื่นความถี่เสรี 900 เมกะเฮิร์ตซ์ที่ได้รับชัยชนะจากการประมูลคลื่นความถี่ในเดือนมีนาคม 2015 (คลื่นความถี่ที่เหลือในเขตบริการ 2 เขตคือ รัฐกรณาฏกะและรัฐปัญจาบจะถูกแทนที่ด้วยคลื่นความถี่เสรี 900 เมกะเฮิร์ตซ์ในเดือนเมษายน 2016) ในเดือนธันวาคม ไอเดียได้เปิดตัวบริการ 3G ของตนเองที่วงเวียนหมายเลข 13 ที่สถานีบริการรถไฟโกลกาตา เป็นการขยายการครอบคลุมคลื่นความถี่ 3 G ของตนเองเป็นร้อยละ 79 ของฐานรายได้ของไอเดีย และในเดือนเดียวกันนั้นเอง บริษัทยังได้เปิดตัวบริการ 4G ในเขตบริการโทรคมนาคมทางใต้อีก 4 แห่ง ผลที่ได้ก็คือ มี ‘ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย’ 15,206 ล้านรูปี และมี‘ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ)’ 3,175 ล้านรูปี ซึ่งรวมถึงค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ใหม่ตั้งแต่มีการเปิดตัว
สำหรับกิจการไอเดียแห่งเดียว ‘กำไรหลังหักภาษี’ อยู่ที่ 6,614 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 6,783 ล้านรูปีในไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2015 หนี้สินสุทธิ ณ ปัจจุบันคือ 376.9 พันล้านรูปี ทั้งนี้รวมถึงหนี้สินที่อยู่ระหว่างรอการตัดบัญชีจากการประมูลคลื่นความถี่ รวมทั้งการประมูลเมื่อเดือนมีนาคม 2015 หนี้สินสุทธิเมื่อปรับตัวเลขให้เต็มปี ไตรมาส 3 ปีงบประมาณ 2016 EBITDA อยู่ที่ 3.30
ฐานลูกค้าผู้ใช้ข้อมูลมือถือสุทธิ (2G+3G+4G) ยังคงระดับ 41.4 ล้าน (41.3 ล้านในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016) เนื่องจากบริษัทได้ทำรายงานสมาชิกผู้ใช้ข้อมูลให้รัดกุมขึ้น ปริมาณการใช้ข้อมูลมือถือต่อผู้ใช้ข้อมูลรายบุคคลสูงขึ้น ที่ 653 MB (470 MB ในไตรมาสที่ 3 ในปีงบประมาณ 2015) ซึ่งช่วยให้ข้อมูลมือถือแบบผสมผสาน ARPU เพิ่มเป็น 145 รูปี ในไตรมาสที่ 3 ในปีงบประมาณ 2016 (เปรียบเทียบกับ 126 รูปีในไตรมาสที่ 3 ในปีงบประมาณ 2015) รายได้ที่ไม่ได้มาจากการใช้บริการเสียงเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.1 ในไตรมาสนี้เปรียบเทียบกับร้อยละ 23.1 ในปีก่อน
ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ฐานสมาชิกผู้ใช้ข้อมูล 3G ของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 8.2 ล้านเป็น 21.2 ล้านในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 ซึ่งยังครองส่วนแบ่งตลาดในระดับต่ำคือร้อยละ 12.3 จากจำนวนสมาชิก EoP เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวน 55.5 ล้าน (เพิ่มขึ้นปีละ 27.3 ล้าน) จากจำนวนสมาชิก 172 ล้านรายของไอเดียที่ได้อัพเกรดโทรศัพท์มือถือเป็นสมาร์ทโฟน/อุปกรณ์ 3G/4G ข้อมูล ARPU ของลูกค้าผู้ใช้ข้อมูลอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งคือ 196 รูปีในช่วงไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 นอกเหนือจากลูกค้าผู้ใช้บริการด้านเสียงและผู้ที่ไม่ใช้บริการข้อมูล VAS
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2015 บริษัทได้ประกาศก้าวย่างที่สำคัญเป็นประวัติกาลของกิจการโทรคมนาคมของไอเดีย ด้วยการเปิดตัวเครือข่ายความเร็วสูง 4G ในเขตบริการทางตอนใต้ 4 เขตคือ รัฐอานธรประเทศ (รวมรัฐเตลังกานา) รัฐกรณาฏกะ รัฐเกรละ และรัฐทมิฬนาฑู ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2016 ไอเดียได้ขยายบริการ 4G ไปยังเขตบริการโทรคมนาคมในรัฐมัธยประเทศและรัฐฉัตติสครห์ รัฐปัญจาบและรัฐหรยาณา ทำให้ครอบคลุม 183 เมืองผ่านบริการ LTE ความเร็วสูง 7 เขตบริการ ขณะนื้ไอเดียได้ถือครองคลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ 4G ในเขตบริการ 10 เขต ซึ่งครอบคลุมสัดส่วนการตลาดด้านโทรคมนาคมของอินเดียถึงร้อยละ 50 และกว่าร้อยละ 60 ของรายได้ของไอเดีย บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเปิดตัวบริการ 4G ในเขตโทรคมนาคม 3 เขตที่เหลือ คือ รัฐมหาราษฎระและรัฐกัว รัฐโอริสา และในเขตตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนมีนาคม 2016 และมีแผนที่จะขยาย 4G ไปยัง 750 เมืองในเดือนมิถุนายน 2016 คลื่นความถี่บรอดแบรนด์ไร้สาย 3G และ/หรือ 4G ของไอเดียได้ครอบคลุมรายได้ร้อยละ 87 ของฐานรายได้
นอกจากนี้ ไอเดียยังได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับบริษัทวิดีโอคอน เทเลคอมมูนิเคชั่น จำกัด (Videocon Telecommunications Limited) ในการถ่ายโอน ‘สิทธิในการใช้’ คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิร์ตซ์ในเขตที่ไอเดียเป็นผู้นำในด้านโทรคมนาคมคือ รัฐคุชราต และรัฐอุตตรประเทศ (ตะวันตก) ภายหลังสิ้นสุดการดำเนินการดังกล่าวนี้ การบริการ 4G จะขยายไปยัง 12 เขตบริการ ครอบคลุมฐานรายได้ร้อยละ 75 ของไอเดีย เพื่อเพิ่มพูนการใช้บริการข้อมูลมือถือ บริษัทจึงได้เปิดตัวบริการเนื้อหาดิจิตอลของไอเดีย(Idea Digital Content) เมื่อไม่นานมานี้ โดยได้กำหนดแผนสมาชิกที่น่าสนใจร่วมกับผู้ให้บริการเนื้อหาดิจิตอลชั้นนำ ซึ่งครอบคลุมเนื้อหาใหม่ๆ และหลากหลายเช่น ดนตรี ภาพยนตร์ และเกม เป็นต้น
สำหรับงบการเงินที่รวมกับเงินอุดหนุนจากอินดัสร้อยละ 16 แล้วนั้น รายได้สุทธิในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 เมื่อเปรียบเทียบระหว่างช่วงเดียวกันของปีนี้กับปีก่อนหน้า 90,097 ล้าน EBITDA ที่ 31,285 ล้านรูปี เติบโตร้อยละ 13.7 อัตรากำไรขั้นต้น EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 เป็นร้อยละ 34.7 โดยกำไรหลังหักภาษีของไตรมาสนี้อยู่ที่ 7,642 ล้านรูปี
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคและความพึงพอใจต่อแบรนด์ การขยายโครงสร้างพื้นฐานไร้สายที่รวดเร็ว และความคล่องตัวของกระแสเงินสดของบริษัท ทำให้มั่นใจได้ว่าไอเดียจะสามารถดำเนินการได้อย่างมั่นคง ต่อเนื่อง ด้วยความรับผิดชอบ และมีผลกำไรที่เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยเป็นแบรนด์ที่มีประวัติการเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่เติบโตเร็วที่สุดในรอบแปดปีที่ผ่านมา ทำให้ไอเดียพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง การพัฒนาที่ซับซ้อนและคลุมเครือ ซึ่งทำให้ไอเดียแข็งแกร่งขึ้นในการตลาดทั้ง 2 กลุ่มคือ เสียงโทรศัพท์มือถือและตลาดข้อมูล
(Idea Cellular Limited) เป็นผู้ให้บริการไร้สายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในอินเดีย ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 18.5 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016) บริษัทไอเดียได้รับการ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (NSE) และตลาดหลักทรัพย์นครบอมเบย์ (BSE) ในอินเดีย บริษัทไอเดียเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทอดิตยา เบอร์ลา (Aditya Birla Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย กลุ่มบริษัทอดิตยา เบอร์ลา เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศ กลุ่มอดิตยา เบอร์ลา ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี และมีธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การสื่อสารโทรคมนาคม โลหะและเหมืองแร่ ปูนซีเมนต์ คาร์บอนดำ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ ประกันชีวิต และอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน