Idea Cellular ประกาศผลประกอบการทางการเงินของบริษัทที่ยังไม่ผ่านการสอบบัญชีแล้วสำหรับไตรมาสที่สอง (Q2) และผลประกอบการรายครึ่งปีสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2016

ผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาส (ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2017) ครึ่งปีแรกของปี 2017 และครึ่งปีแรกของปี 2016 (ปรับปรุงแล้ว) ตามมาตรฐาน Ind AS ผลประกอบการทางการเงินของครึ่งปีแรกในปี 2017 ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2016 ได้ เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2016-17 นั้นได้รวม

• ผลกระทบจากการประมูลคลื่นความถี่ของ Idea ในเดือนมีนาคม 2015 (มีการลงทุน 301.4 พันล้านรูปี) และกุมภาพันธ์ 2014 (มีการลงทุน 104.2 พันล้านรูปี) เพื่อต่ออายุคลื่นความถี่ในเขตบริการ 9 แห่งที่หมดอายุระหว่างธันวาคม 2015 ถึงเมษายน 2016 และการจัดหาคลื่นความถี่ใหม่สำหรับการให้บริการ 3G และ 4G ในอีกหลายเขต และ
• ผลจากการเลื่อนเวลาเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2017 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการขยายเวลาออกไปสำหรับข้อมูลที่ยังไม่ได้ใช้ในดาต้าแพ็ค

Idea อยู่ในช่วงสร้างฐานการให้บริหารบรอดแบนด์สำหรับมือถือในระดับโลก บริษัทได้เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในภาคส่วนดิจิตอลของอินเดีย – อันเป็นหนึ่งในโปรแกรมเพื่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ Idea กำลังเดินหน้าเพื่อ ‘ขยายการเข้าถึงบรอดแบนด์ไร้สายเพื่อชาวอินเดียกว่าพันล้านคน’ ในช่วงเวลาที่สั้นทีสุดที่เป็นไปได้คือ 3-4 ปี (รอบปี ค.ศ. 2018-2019) บริษัทได้บรรลุความสำเร็จในการจัดหาคลื่นความถี่ใหม่แล้ว ทำให้ได้มาซึ่งคลื่นความถี่ 823.4 MHz (ทุกคลื่นความถี่ 890.6 MHz) ผ่านความถี่ 900, 1800, 2100, 2300 และ 2500 MHz จากการประมูลระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง 2016 โดยได้จัดสรรการลงทุนจำนวน 617 พันล้านรูปี (รวม 128 พันล้านรูปีในการประมูลเมื่อเดือนตุลาคม 2016) โดยคาดหมายว่าจะให้บริการบรอดแบรนด์ไร้สายทั่วทั้งอินเดีย (3G และ/หรือ 4G) จากที่มีเขตให้บริการ ณ ปัจจุบัน 17 เขตในเดือนมีนาคม 2017 บริการ 4G จะขยายบริการไปสู่ 20 เขตให้บริการจาก 11 เขตในปัจจุบัน (เขตบริการ 4G ใหม่ในรัฐคุชราต รัฐอุตตรประเทศ (ตะวันตก) รัฐอุตตรประเทศ (ตะวันออก) รัฐพิหารและฌารขัณฑ์ รัฐราชสถาน เมืองมุมไบ เบงกอลตะวันตก รัฐอัสสัม และรัฐชัมมูและกัศมีร์) และบริการ 3G ขยายเป็น 15 เขตจากเดิม 13 เขตในปัจจุบัน (2 เขตให้บริการใหม่ในรัฐพิหารและรัฐราชสถาน)

ในช่วง 24 เดือนหลังที่ผ่านมานี้ Idea ได้ขยายจุดบริการเครือข่ายไปถึงร้อยละ 63 ซึ่งทำให้มีจุดบริการเครือข่ายเพิ่มเติม 83,276 จุด (2G+3G+4G) ซึ่งรวมถึงการเพิ่มขึ้นในเกือบ 3.5 เท่าตัวในเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สาย (3G+4G) จาก 25,164 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2015) เป็น 85,412 (ไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2017) อันเป็นการขยายการบริการครอบคลุมผู้ใช้บริการบรอดแบนด์ไร้สายเป็น 430 ล้านคนใน 17 พื้นที่ให้บริการ ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัทได้เพิ่มเครือข่าย OFC อีกถึงเกือบร้อยละ 45 จาก 87,600 กม. (ไตรมาส 2 ปีงบ 2015) เป็น 126,000 กม. ในไตรมาส 2 ปีงบ 2017 การจัดสรรมาซึ่งคลื่นความถี่ใหม่นี้ทำให้ยอดการลงทุนสุทธิในทรัพย์สินถาวรของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1,105 พันล้านรูปี (ไม่รวมการประมูลคลื่นความถี่ในเดือนตุลาคม 2016) ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 450 พันล้านรูปีในช่วงระยะเวลา 24 เดือนที่ผ่านมา

การสร้างรายได้นี้จำเป็นต้องใช้ปัจจัยในการลงทุนสูงซึ่งไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ การประมูลคลื่นความถี่ตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2016 เป็นต้นไปจะทำให้ Idea มีศักยภาพในการเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่ายให้มีความเร็วสูงขึ้นถึง15-20 เท่า

นาย Kumar Mangalum Birla ประธานของ Idea Cellular กล่าวว่า “ABG มีความเชื่อมั่นในการเติบโตของอินเดียอย่างยิ่ง และ Idea ก็ให้คำมั่นว่าจะเข้าไปมีส่วนร่วมในภารกิจดิจิตอลของอินเดียในสมัยนายกฯ Shri Narendra Modi Idea ได้ทำกำไรเงินสด 44,616 ล้านรูปีในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2017 โดยได้นำพาตนเองเข้าสู่กระแสผู้ใช้เครือข่ายมือถือโดยได้ขยายบรอดแบนด์ไร้สายครอบคลุมชาวอินเดียกว่าพันล้านคนและเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วให้สูงขึ้นถึง 15-20 เท่าจากการใช้คลื่นความถี่ที่มีอยู่และคลื่นความถี่ใหม่ ”

ผลประกอบการทางการเงินที่เคลื่อนไหวต่อเนื่อง

ด้วยสัดส่วนผู้ลงทะเบียนตามแถบชนบทที่เพิ่มสูงขึ้น ช่วงฤดูกาลที่ถดถอยในไตรมาสที่สองยังคงซ้ำรอยเดิมทำให้มีการลดลงของการใช้เสียงตามรายไตรมาสในอัตราร้อยละ 1.9 เหลือ 195.5 พันล้านเทียบกับ 199.3 พันล้านในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2017 อันส่งผลให้รายได้ของ Idea เพียงกิจการเดียวอยู่ที่ 93,002 ล้านรูปี ซึ่งลดลงร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบตามรายไตรมาสต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยส่วนหนึ่งจากการลดลงของปริมาณการใช้เสียง และอัตราการใช้บริการเสียงและส่วนบริการข้อมูลที่ลดลง

สืบเนื่องจากความกดดันจากการแข่งขันในธุรกิจบริการด้านเสียง รายได้จากบริการด้านเสียงของ Idea ได้ลดลงร้อยละ 5.3 เนื่องจาก

• การลดลงของการใช้เสียง โดยลดลงร้อยละ 3.4 จาก 34.3p ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2017 เหลือ 33.1p ต่อนาทีในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017
• การใช้เสียงต่อนาทีที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ในเชิงบวก มีผู้สมัครเข้ารับบริการใหม่เพิ่มขึ้น 3.2 ล้านราย (VLR เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017) ซึ่งส่งผลให้ Idea มีฐานลูกค้าถึง 186.4 ล้านรายแล้ว การแข่งขันอย่างดุเดือดในธุรกิจนี้ทำให้แนวโน้มการเติบโตของรายได้ชะลอตัวลง โดยการเติบโตของรายได้รายไตรมาสของ Idea เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ในอัตราต่ำสุดที่ร้อยละ 7.2

ในเชิงการแข่งขัน Idea ได้เข้าครองส่วนแบ่งทางการตลาด (Revenue Market Share (RMS)) อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19.3 (ไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2017) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.6 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีงบประมาณ 2016 ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการ (VLR) มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มที่ร้อยละ 20.1 (กรกฎาคม 2016) ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากช่วงหนึ่งปีก่อน

สำหรับส่วนธุรกิจข้อมูลมือถือที่มีการลงทุนสูงและยังอยู่ในช่วงที่ได้รับประโยชน์ต่ำนั้น Idea ได้ดำเนินตามแผนกลยุทธ์เพื่อการเติบโตของปริมาณ อันส่งผลให้เมื่อเปรียบเทียบตามไตรมาสแล้ว

• มีผู้ใช้ข้อมูลมือถือเพิ่มขึ้น 5 ล้านรายทำให้มียอดผู้ลงทะเบียนบริการข้อมูล EoP ถึง 54 ล้านราย (ร้อยละ 30 ของฐานข้อมูลผู้ลงทะเบียน EoP)
• มีการเติบโตของปริมาณข้อมูลมือถือรายไตรมาสอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 15.4 เป็น 107.4 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 (เทียบกับ 93.1 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2017) แต่
• อัตราการใช้ข้อมูลทั้งหมด (ARMB) ลดลงร้อยละ 11.2 จาก 21.1p ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2017 เป็น 18.7p ต่อ MB ทำให้การเติบโตของรายได้จากข้อมูลมือถือจำกัดอยู่ที่ร้อยละ 2.5 เท่านั้น

บริการข้อมูลมือถือแบบผสมผผสาน ARPU (2G+3G+4G) อยู่ที่ 130 รูปี (เทียบกับ 144 รูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016) แต่อย่างไรก็ตามมีอัตราการใช้ข้อมูลต่อผู้ลงทะเบียนสูงขึ้นเป็น 694 MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 (เทียบกับ 615 MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016) สัดส่วนรายได้จากข้อมูลมือถือขณะนี้อยู่ที่ร้อยละ 21.9 จาก ‘รายได้จากบริการ’ ในขณะที่ ‘รายได้อันไม่เกี่ยวเนื่องกับเสียง’ ทั้งหมด (รวมถึงข้อมูล) มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 29.6 (เทียบกับร้อยละ 27.9 ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016)

การใช้บริการบรอดแบนด์มือถือของ Idea (3G+4G) มีปริมาณสูงขึ้นอย่างมั่นคงโดย _

• ลูกค้า Idea จำนวน 9 ล้านรายทำการอัพเกรดมือถือ 2G เป็น 3G และ/หรือสมาร์ทโฟน 4 G (5.1 ล้านรายอัพเกรดเป็น 4G) ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติกาล ทำให้มีจำนวนสมาร์ทโฟนทั้งหมด 70.4 ล้านเครื่องแล้ว (เกือบร้อยละ 40 ของผู้ลงทะเบียน EoP ของ Idea)
• ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 ผู้ใช้สมาร์ทโฟน 3.7 ล้านรายเริ่มใช้บริการบรอดแบนด์มือถือและฐานลูกค้าผู้ใช้บรอดแบนด์ทั้งหมดก็ได้เพิ่มเป็น 30.7 ล้านราย
• ปริมาณข้อมูลบรอดแบนด์มือถือ (3G+4G) เติบโตแบบทวีคูณถึงร้อยละ 85.5 จาก 43.1 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016 เป็น 79.9 พันล้าน MB ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 และ
• ลูกค้า 3.1 ล้านรายจากฐานผู้ใช้อุปกรณ์ 4G ของ Idea ทั้งหมดจำนวน 19.3 ล้านราย มีการใช้บริการ 4G ของ Idea อย่างสม่ำเสมอ

บริษัทยังคงมุ่งมั่นต่อโปรแกรมเพื่อขยายเครือข่ายบรอดแบนด์อย่างต่อเนื่องต่อไป Idea ได้เพิ่มจุดบริการ 4G อีก 5,006 จุดในไตรมาส ทำให้มีจุดบริการ 4G แล้ว 24,945 จุด ซึ่งขณะนี้ครอบคลุมชาวอินเดีย 171 ล้านคนในเกือบ 2,400 เมืองและ 7,500 หมู่บ้านใน 10 พื้นที่ให้บริการ นอกจากนี้ บริษัทยังขยายเครือข่าย 3G อีก 9,236 จุด ซึ่งทำให้มีจุดให้บริการ 3G แล้ว 60,467 จุด ครอบคลุมชาวอินเดีย 377 ล้านคนในเกือบ 4,100 เมืองและ 73,000 หมู่บ้านใน 13 พื้นที่ให้บริการ จำนวนที่ปรากฎนี้เป็นหลักฐานประจักษ์ถึงความสามารถของ Idea ที่ได้สร้างและดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อการตลาดบรอดแบนด์มือถือที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

จากการประมูลคลื่นความถี่ในเดือนตุลาคม 2016 ที่ผ่านมานี้ Idea สามารถประมูลคลื่นความถี่ 349.2 MHz ได้ โดยรวมถึงคลื่นความถี่ 149.2 MHz (2x74.6 MHz FDD) จากคลื่น 1800 MHz และ 2100 MHz อันเป็นการขยายขอบเขตครอบคลุมบรอดแบนด์มือถือของ Idea ไปทั่วอินเดียและอีกยังมีคลื่นความถี่ 200 MHz (TDD) ภายใต้ความถี่ 2300 MHz และ 2500 MHz เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตอีกด้วย จากการประมูลนี้ Idea ได้ขยายคลื่นความถี่ไปอีกกว่าร้อยละ 64 Idea ขณะนี้มีความพร้อมให้บริการ 4G ด้วยคลื่นความถี่ของตนเองในพื้นที่ให้บริการ 20 เขต ซึ่งครอบคลุมรายได้ถึงร้อยละ 94 และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ขณะนี้ Idea เป็นเจ้าของสื่อโทรคมนาคมสองแห่งที่ถือครองคลื่นความถี่สำคัญ 1800 MHz ในเขตพื้นที่บริการหลัก 7 เขตใน 8 เขต (อย่าง รัฐอานธรประเทศ) และสื่อโทรคมนาคมอีก 1-3 แห่งที่มีคลื่นความถี่ที่มีศักยภาพ อันบ่งชี้ว่า Idea จะสามารถสร้างกำไรและรายได้จากตลาดได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

สำหรับคลื่นความถี่ 3G Idea มีความรอบคอบและได้จัดหาคลื่นความถี่ 2100 MHz สำหรับ 3G เป็นการเฉพาะในพื้นที่บริการที่มีจำนวนประชากรสูงในรัฐพิหารและรัฐราชสถาน ซึ่งเป็นการขยายศักยภาพการบริการ 3G ของ Idea ด้วยคลื่นความถี่ของตนเองไปยัง 15 เขตพื้นที่ให้บริการ โดยรวมแล้ว ขณะนี้ Idea มีสื่อบรอดแบนด์ 64 แห่ง (47 – 4G และ 17 – 3G) และอยู่ในสถานะที่แกนนำที่จะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการเติบโตในภาคส่วนข้อมูลมือถือได้ การประมูลคลื่นความถี่ในเดือนตุลาคม 2016 บรรลุข้อตกลงที่ 128 พันล้านรูปี ซึ่งน้อยกว่าร้อยละ 1 ของค่าบริการขั้นต่ำของ DoT (Department of Communications) Idea ได้เลือกปฏิบัติตามเงื่อนไขการชำระเงินที่มีกำหนดระยะเวลา และในวันที่ 20 ตุลาคม 2016 ก็ได้ชำระเงินล่วงหน้าแล้วที่ 64 พันล้านรูปี

DoT จำเป็นต้องกำหนดความถี่ที่จำเป็นต่อการดำเนินการโดยต้องกำหนดความถี่สูงสุดก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีคลื่นความถี่เพื่อการโทรคมนาคมพร้อมให้บริการอยู่ จากนั้นจึงกำหนดคลื่นความถี่ทั้งหมดที่มีสำหรับการประมูลของ DoT และประสานการป้องกันการเข้าสู่คลื่นความถี่ที่ไม่ต่อเนื่องทั้งหมดเป็นการป้องกันการเข้าสู่คลื่นความถี่ต่อเนื่องก่อนการประมูล และที่สำคัญที่สุดก็คือ ความเร็วของการดำเนินการประสานคลื่นความถี่ก่อนที่การประมูลเมื่อเร็วๆ นี้จะได้รับการยกเว้น ซึ่งการดำเนินการนี้จำต้องใช้ระยะเวลาหนึ่งเพื่อการใช้คลื่นความถี่ในประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

ในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 Idea มีรายจ่ายฝ่ายทุนที่ 20 พันล้านรูปี ซึ่งจัดสรรมาจากกำไรเงินสดจำนวน 19.4 พันล้านรูปี บริษัทกำลังมุ่งหน้าเพื่อการขยายการครอบคลุมเครือข่ายบรอดแบนด์ไร้สายด้วยคลื่อนความถี่ที่ชนะการประมูลเมื่อเร็วๆ นี้ และวางแผนที่จะลงทุนในอุปกรณ์เพิ่มเติมอีก 1 หมื่นล้านรูปีในปีงบประมาณ 2017 และด้วยเหตุนี้ แนวโน้มรายจ่ายฝ่ายทุนจึงปรับจากเดิม 65-70 พันล้านรูปี เป็น 75-80 พันล้านรูปี เครือข่ายของ Idea ขณะนี้ขยายไปกว่า 2,16,000 จุด (1,30,633 จุดสำหรับ 2G 60,467 จุดสำหรับ 3G และ 24,945 จุดสำหรับ 4G) และขยายระยะทาง 126,000 กม. สำหรับไฟเบอร์ ครอบคลุมชาวอินเดียกว่า 1 พันล้านคนสำหรับบริการ GSM ในเกือบ 400,000 เมืองและหมู่บ้าน ส่วนบริการบรอดแบนด์มือถือได้ครอบคลุมชาวอินเดียถึง 430 คนใน 17 เขตพื้นที่ให้บริการในกว่า 80,000 เมืองและหมู่บ้าน

ค่าใช้จ่ายเพื่อการดำเนินการด้านเครือข่ายนั้นสูงขึ้นเนื่องจากมีการขยายอย่างเร่งรีบ มีการพยายามเพิ่มจำนวนผู้ลงทะเบียนและค่าใช้จ่ายด้านบริการ และความกดดันจากเงินเฟ้อ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสูงขึ้น ซึ่งทำให้ EBITDA ของไตรมาสที่ 2 ปีงบ 2017 เติบโตขึ้นเพียงร้อยละ 1.8 เท่านั้น (เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยอยู่ที่ 28,401 ล้านรูปี มีกำไรขั้นต้น EBITDA ที่ร้อยละ 30.5 ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016 มีกำไรขั้นต้น EBITDA ที่ร้อยละ 32.2

‘ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย’ ที่ 19,543 ล้านรูปี และ ‘ดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายทางการเงิน (สุทธิ)’ ที่ 8,753 ล้านรูปี สำหรับไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 สะท้อนให้เห็นถึงค่าธรรมเนียมบริการที่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016 เนื่องจาก

• การต่ออายุใบอนุญาต 9 ฉบับและคลื่นความถี่เชื่อมโยง และการจัดหาคลื่นความถี่ใหม่สำหรับ 3G และ 4G
• เปิดตัวบริการ 4 G ใน 10 เขตให้บริการ
• การแนะนำ 3G เป็นสื่อโทรคมนาคมอันดับ 2 บนความถี่ 900 MHx ในรัฐมหาราษฎระและรัฐมัธยประเทศ (MP)
• เปิดตัวบริการ 3G ในเขตเมืองของโกลกาตาระหว่างไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 ดังนั้น ถึงแม้จะมีการเติบโตของ EBITDA แต่ ‘กำไรหลังหักภาษี’ (PAT) ของ Idea กิจการเดียวสำหรับไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 อยู่ที่ 43 ล้านรูปีเทียบกับ 6,759 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016

หนี้สินสุทธิ ณ 30 กันยายน 2016 อยู่ที่ 364 พันล้านรูปี รวมถึงหนี้สินทั้งหมดจากการประมูลคลื่นความถี่ที่อยู่ระหว่างรอการตัดบัญชี (ไม่รวม มูลค่าที่ทำการตกลงในการประมูลเมื่อตุลาคม 2016) ‘หนี้สินสุทธิ’ เมื่อ ‘ปรับตัวเลขให้เต็มปี ไตรมาส 2 ปีงบประมาณ 2017 EBITDA’ อยู่ที่ 3.2 เท่า ด้วยการนำมาตรฐานการบัญชี Ind AS มาใช้ การเงินของ Indus (กิจการร่วมทุน) และ ABIPBL (กิจการในเครือ) จึงพิจารณาได้ในระดับ PAT เท่านั้น และด้วยเหตุนี้ รายได้รวมกิจการโดยรวมทั้งหมด (รวมหุ้นร้อยละ 16 ใน Indus และร้อยละ 49 ใน ABIPBL) จึงอยู่ที่ 900 ล้านรูปี จาก 7,579 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2016

งานเตรียมการเบื้องต้นสำหรับบริการเนื้อหาดิจิตอลของแบรนด์ Idea กำลังเดินหน้าเต็มอัตรา Idea คาดการณ์ว่าจะเปิดตัวบริการเกมของตนเองในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017 และ ‘บริการภาพยนตร์ Idea และดนตรี Idea’ และแอปสนทนาในไตรมาสถัดไป

Idea ที่มีประวัติการเติบโตอย่างแข็งแกร่งมาตลอดระยะเวลา 8 ปี จะยังคงความคล่องตัวและคงความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับภาวะการตลาดสมัยใหม่อย่างลงตัว แบรนด์จะยังคงยืนหยัดเพื่อการเข้าถึง ความสัมพันธ์ และความยืดหยุ่น Idea ดำเนินการได้อย่างสอดคล้องกับภารกิจที่ตั้งไว้ เพื่อการแข่งขันและการเติบโตของกำไร ด้วยการขยายคลื่นความถี่อย่างแข็งแกร่ง การเร่งขยายโครงสร้างพื้นฐานสู่ทั่วทั้งภูมิภาคอินเดียยังคงมั่นใจได้ว่าจะสามารถเอื้อมถึงโอกาสในตลาดเปิดใหม่สำหรับธุรกิจบริการด้านเสียงตามแถบชนบทและธุรกิจบรอดแบนด์

หมายเหตุ:

1. Idea กิจการเดี่ยว หมายถึงบริษัท Idea และสาขาทั้งหมด การนำปฏิบัติการทั้งหมดมารวมเข้าไว้ด้วยกัน โดยไม่รวมบริษัทร่วมทุน Indus Towers (Indus) และ Aditya Birla Idea Payments Bank Limited (ABIPBL) เป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ
2. Idea ร่วมกิจการ หมายถึง บริษัท Idea แต่เพียงผู้เดียวประกอบกับการควบรวมส่วนธุรกิจ Indus ในอัตราส่วนร้อยละ 16 และ Payments Bank ร้อยละ 49 ในระดับ PAT
3. พื้นที่ให้บริการเดิม หมายถึงพื้นที่ให้บริการ 15 แห่ง ได้แก่ รัฐมหาราษฎระและรัฐกัว รัฐคุชราต รัฐอานธรประเทศ รัฐมัธยประเทศ รัฐฉัตติสครห์ กรุงเดลี รัฐเกรละ รัฐหรยาณา รัฐอุตตรประเทศตะวันตก รัฐอุตรารัณจัล (เปลี่ยนชื่อเป็น รัฐอุตตราขัณฑ์) รัฐอุตตรประเทศตะวันออก รัฐราชสถาน รัฐหิมาจัลประเทศ รัฐปัญจาบ รัฐกรณาฏกะ เมืองมุมไบ และเขตบริการรัฐพิหาร
4. พื้นที่ให้บริการใหม่ หมายถึงพื้นที่ให้บริการ 7 แห่งในรัฐโอริสสา ทมิฬนาฑู จามูลและแคชเมียร์ โกลกาตา เบงกอลตะวันตก อัสสัม และเขตตะวันออกเฉียงเหนือ
5. กำไรเงินสดคำนวณจากผลรวมของกำไรหลังหักภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ค่าใช้จ่ายในบัญชีของ ESOPs และภาษีเงินได้รอตัดบัญชีตามระยะเวลาที่เกี่ยวข้อง
6. ตัวเลขในช่วงที่ผ่านมามีการจัดกลุ่มใหม่ตามที่จำเป็น

เกี่ยวกับ Idea Cellular จำกัด

Idea Cellular เป็นผู้ให้บริการไร้สายที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอินเดีย ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดที่ร้อยละ 19.3 (ไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2017) บริษัท Idea จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งชาติ (NSE) และตลาดหลักทรัพยบอมเบย์ (BSE) ในประเทศอินเดีย บริษัท Idea เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม Aditya Birla Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย กลุ่มบริษัท Aditya Birla Group เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการในกว่า 30 ประเทศ กลุ่ม Aditya Birla Group ดำเนินธุรกิจมานานกว่า 50 ปี และมีธุรกิจในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ การสื่อสารโทรคมนาคม โลหะและเหมืองแร่ ปูนซีเมนต์ คาร์บอนดำ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม เคมีภัณฑ์ ประกันชีวิต และอุตสาหกรรมบริการทางการเงิน