02 กุมภาพันธ์, 2561
Shareไฮไลท์ ไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018
ผลประกอบการทางการเงิน
(กิจการเดียว – ยังไม่ผ่านการตรวจสอบ)
รายละเอียด | ไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2017 | ไตรมาสที่ 2 ปีงบฯ 2018 | ไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 | 9 เดือน ปีงบฯ 2017 | 9 เดือน ปีงบฯ 2018 |
---|---|---|---|---|---|
รายได้จากการดำเนินการ | 9,915 | 10,308 | 11,023 | 27,636 | 31,738 |
รายรับก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) | |||||
อะลูมิเนียม | 876 | 957 | 940 | 2,555 | 2,772 |
ทองแดง | 330 | 467 | 421 | 960 | 1,210 |
รายได้อื่น ๆ | 199 | 153 | 250 | 734 | 610 |
EBITDA ทั้งหมด | 1,405 | 1,577 | 1,611 | 4,249 | 4,592 |
ค่าเสื่อมราคา | 358 | 380 | 382 | 1,048 | 1,142 |
ต้นทุนทางการเงิน | 588 | 484 | 483 | 1,782 | 1,454 |
รายได้ก่อนรายการพิเศษและภาษี | 459 | 713 | 746 | 1,419 | 1,996 |
รายได้พิเศษ/(รายจ่าย) (สุทธิ) | - | (105) | (115) | 85 | (325) |
กำไรก่อนภาษี | 459 | 608 | 631 | 1,504 | 1671 |
กำไร/(ขาดทุน) หลังภาษี | 320 | 393 | 376 | 1,054 | 1058 |
กำไรต่อหุ้น (EPS) – พื้นฐาน (เป็นรูปี) | 1.56 | 1.76 | 1.69 | 5.14 | 4.75 |
หมายเหตุ: หลังจากการนำภาษีสินค้าและการบริการ GST มาใช้ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2017 จำเป็นต้องมีการเปิดเผยรายได้ GST สุทธิตามเกณฑ์ที่ Ind AS 18 ระบุไว้ใน ‘รายได้’ ซึ่งโดยหลักเกณฑ์นี้ รายได้ของไตรมาสนี้และรอบเก้าเดือน สิ้นสุด ณ 31 ธันวาคม 2017 จึงไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกับช่วงก่อนหน้าได้ |
Hindalco บรรลุรายได้ตามเป้าหมายที่ 110,230 ล้านรูปี สูงขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2017 โดยมีสาเหตุหลักจากปัจจัยเกื้อหนุนระดับมหภาค ปริมาณ และอัตราการทำกำไรจากผลิตภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้น EBITDA (กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) สำหรับไตรมาสอยู่ที่ 16,110 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน สืบเนื่องจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากทั้งสองภาคธุรกิจและเพราะด้วยปัจจัยระดับมหภาค หากแต่ลดหย่อนลงด้วยต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ค่าเสื่อมราคาสูงขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากมีการเพิ่มทุนอย่างต่อเนื่อง รายจ่ายในส่วนดอกเบี้ยของไตรมาสนี้ลดลงร้อยละ 18 เนื่องจากมีการชำระหนี้ล่วงหน้าและการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการชำระหนี้ระยะยาว กำไรสุทธิของไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 อยู่ที่ 3,760 ล้านรูปี เทียบกับ 3,200 ล้านรูปีเมื่อปีก่อน หลังได้รับผลกระทบจากบทบัญญัติเป็นจำนวน 1,150 ล้านรูปี ตามคำตัดสินของศาลสูง Hon’ble ว่าด้วยเรื่องข้อบังคับการทำเหมืองแร่
รายได้จากภาคธุรกิจอะลูมิเนียมในไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 สูงขึ้นเป็น 53,230 ล้านรูปี โดยมีสาเหตุหลักจากยอดขายโลหะอะลูมิเนียมและความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น EBITDA ของไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 สูงขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็น 9,400 ล้านรูปี โดยมีแรงหนุนจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ คือราคาโลหะที่สูงขึ้นและปริมาณที่เพิ่มขึ้น แต่ถูกลดทอนลงบางส่วนด้วยค่าใช้จ่ายต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
การผลิตโลหะอะลูมิเนียมอยู่ที่ 323 กิโลตัน ส่วนออกไซด์ของอะลูมิเนียม (รวมโรงงาน Utkal Alumina) อยู่ที่ 734 กิโลตัน ในไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 การผลิต VAP (รวมเหล็กลวด) อยู่ที่ 123 กิโลตัน สูงขึ้นที่ร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โรงงาน Aditya, Mahan และ Utkal ยังคงดำเนินงานได้ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้
รายได้จากส่วนธุรกิจทองแดงสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 57,010 ล้านรูปี นำโดยความสามารถในการทำกำไรจากผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น EBITDA เมื่อเทียบกับปีก่อนทะยานขึ้นร้อยละ 28 เป็น 4,210 ล้านรูปี สืบเนื่องจากปริมาณยอดขายทองแดงที่เพิ่มสูงขึ้น ความสามารถในการทำกำไรจากผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นและปัจจัยเสริมระดับมหภาค
สำหรับไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 การผลิตแคโทดของบริษัทอยู่ที่ 101 กิโลตัน สูงขึ้นร้อยละ 8 ส่วนก้าน CC rod อยู่ที่ 38 กิโลตัน
EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 ทะยานขึ้นถึงร้อยละ 73 เป็น 2,470 ล้านรูปีเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงชึ้นอันเกิดจากราคาอะลูมิเนียมในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น กำไรหลังภาษีสำหรับสำหรับไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 อยู่ที่ 1,180 ล้านรูปีเทียบกับขาดทุนที่ 550 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2017
UAIL ยังคงเป็นหนึ่งในโรงงานที่มีค่าใช้จ่ายต่ำสุดในระดับโลก ในระหว่างไตรมาส UAIL ผลิตออกไซด์ของอะลูมิเนียมได้ 376 กิโลตัน
ยอดขายสุทธิสูงขึ้นถึงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 3,085 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งทั้งนี้ได้รับแรงหนุนจากการจัดส่งสินค้ารายไตรมาสจำนวนมากที่ 796 กิโลตัน การจัดส่งสินค้าในไตรมาสสูงขึ้นร้อยละ 6 ซึ่งรวมถึงการจัดส่งผลิตภัณฑ์สำหรับยานยนต์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 12
Adjusted EBITDA (ไม่รวมการลดลงของราคาโลหะ) อยู่ที่ 305 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ สูงขึ้นร้อยละ 20 จากปีก่อน ความสามารถในการทำกำไรนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยการมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจด้านยานยนต์ การเพิ่มปริมาณ การนำกลับมาใช้ใหม่ และประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ซึ่งผลที่ได้ก็คือ Adjusted EBITDA ต่อตันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติกาลที่ 383 ดอลล่าร์สหรัฐฯ
รายได้สุทธิอยู่ที่ 121 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2018 เปรียบเทียบกับ 63 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีก่อน
Novelis ได้ประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ถึงแผนในการขยายการผลิตในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีงบประมาณการลงทุนราว 300 ล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐเพื่อผลิตส่วนประกอบยานยนต์ในรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา Novelis ยังได้ตกลงที่จะจัดหาโรงงานและจัดสรรทรัพย์สินเพื่อการผลิตมูลค่า 200 ล้านยูโรที่เมือง Sierre สวิสเซอร์แลนด์ ที่เคยผ่านสัญญาเช่ามาแล้ว
ผลประกอบการจากธุรกิจต่างๆ ยังคงความแข็งแกร่ง การดำเนินการที่มั่นคงและปัจจัยเกื้อหนุนระดับมหภาคยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักสำคัญ Novelis ยังคงความเป็นผู้นำในตลาดกระป๋อง ส่วนประกอบยานยนต์ รวมไปถึงการผลิตเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ด้วย การก้าวเดินไปข้างหน้า การกลับมาของความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในทุกภาคธุรกิจในอินเดีย ล้วนเป็นนิมิตหมายที่ดีต่อการดำเนินงานในประเทศอินเดีย โดยจากมุมมองของผู้บริหาร ความเสี่ยงหลักยังคงมาจากราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดภายในประเทศ ด้วยโมเดลธุรกิจแบบผสมผสาน การมุ่งเน้นทำความเข้าใจลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ประสิทธิภาพในการเพิ่มมูลค่าให้สูงขึ้น Hindalco อยู่ในสถานะที่เหมาะสมต่อการรองรับความต้องการที่กลับมาอีกครั้ง หลังการพลิกกลับขึ้นมาครั้งนี้ ขณะนี้ Hindalco ได้มุ่งเน้นมากขึ้นที่การขยายกำลังการผลิตที่โรงงาน Utkal Alumina, Copper Rod Mill และที่ Novelis Auto
เนื้อหาใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ ที่กล่าวถึง วัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ของบริษัท ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด