การเติบโตและปรับตัวได้ท่ามกลางโควิดระลอก 2

13 สิงหาคม, 2564

  • ผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 โดย PAT แบบรวมกิจการสูงขึ้นถึงเกือบ 6 เท่าจากปีก่อน
  • EBITDA แบบรวมกิจการสูงขึ้นถึง 86% จากปีก่อน โดยอยู่ที่ 47,360 ล้านรูปี
  • ธุรกิจวัสดุขั้นสูง (อีพ็อกซี) แสดงผลประกอบการที่ทำลายสถิติ
  • ธุรกิจ VSF บรรลุเป้าหมายการปฏิบัติตาม EU Best Available Technology (“EU BAT”) ที่โรงงาน Vilayat

ผลประกอบการทางการเงินรายไตรมาส*

(หน่วยเป็นสิบล้านรูปี)
เฉพาะกิจการ   รวมกิจการ
ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2022 ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021 เปลี่ยน %
(เทียบกับปีก่อน)
  ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2022 ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021 เปลี่ยน %
(เทียบกับปีก่อน)
3,763 1,336 182% รายได้ 19,919 13,044 53%
805 (126) - EBITDA 4,736 2,545 86%
482 (283) - PAT** 1,667 234 612%
* ไม่รวมรายได้และ EBITDA ของการดำเนินงานที่ไม่ต่อเนื่องของธุรกิจปุ๋ย
* หลังรายการพิเศษ

รายได้แบบรวมกิจการสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 สูงขึ้น 53% จากปีก่อน โดยอยู่ที่ 199,190 ล้านรูปี EBITDA สูงขึ้น 86% จากปีก่อนเป็น 47,360 ล้านรูปี ส่วน PAT* อยู่ที่ 16,670 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นถึง 612% จากปีก่อน

รายได้เฉพาะกิจการเดียวสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 37,630 ล้านรูปี EBITDA อยู่ที่ 8,050 ล้านรูปี ส่วน PAT อยู่ที่ 4,820 ล้านรูปี สูงขึ้นอย่างโดดเด่นเพื่อเทียบแบบรายปี

รายได้และ EBITDA จากการดำเนินงานที่ไม่ต่อเนื่อง (ธุรกิจปุ๋ย) สำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 6,870 ล้านรูปี และ 560 ล้านรูปี (ไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021: 6,050 ล้านรูปี และ 720 ล้านรูปี) ตามลำดับ ขั้นตอนการถอนการลงทุนในธุรกิจปุ๋ยคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2022

โควิด 19 ระลอกที่ 2 ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งมีการฟื้นตัวกลับอย่างรวดเร็ว แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการเร่งการฉีดวัคซีนของภาครัฐและผลกระทบที่ถดถอยจากโควิดระลอก 2 ทำให้มีการฟื้นตัวกลับคืนมาอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน

ธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์

ทั่วโลก ผลกระทบจากโควิดระลอกที่ 2 ต่อความต้องการสิ่งทอไม่ได้เลวร้ายเท่ากับระลอกที่ 1 แต่อย่างใด อินเดียมีการจำกัดกิจกรรมทางธุรกิจบางอย่างในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 ซึ่งส่งผลต่อยอดขายผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ซึ่งทำให้เกิดการสะสมของสินค้าคงคลังในห่วงโซ่อุปทาน

ผลที่ตามมาก็คือ ปริมาณการขายบันทึกการเติบโตที่ลดลงตามลำดับในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 เพื่อลดผลกระทบจากการชะลอตัวในภาคส่วนอุตสาหกรรมสิ่งทอภายในประเทศ บริษัทจึงเพิ่มสัดส่วนการส่งออกในเชิงรุกเป็น 31% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 จาก 11% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2021 ส่วนแบ่งผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในส่วนผสมการขายโดยรวมยังปรับปรุงดีขึ้นเป็น 26% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 จากโดยเฉลี่ยที่ 22% ในปีงบประมาณ 2021 เนื่องจากปริมาณภายในประเทศตกลงอันเนื่องมาจากการล็อคดาวน์ บริษัทจึงทำการปิดซ่อมบำรุงโรงงาน Harihar ล่วงหน้าในเดือนพฤษภาคม 2021 ปริมาณ VFY ก็ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากความต้องการที่ลดลงด้วยเช่นกัน ความต้องการเส้นใยภายในประเทศกลับมาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วภายหลังการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ ซึ่ง ณ ขณะนี้ได้กลับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด

ราคา VSF ในประเทศจีนปรับระดับลงจากระดับที่สูงอยู่หลายปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021 และทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบันที่ประมาณ 13,000 RMB สินค้าคงคลัง VSF ของจีนที่โรงงงานเพิ่มขึ้นเป็น 24 วันในเดือนมิถุนายน 2021 จาก 13 วัน (มีนาคม 2021) ซึ่งนำไปสู่การปรับเปลี่ยนอัตราการผลิตโดยผู้ประกอบการ VSF ของจีนที่ต้องดูแลการสร้างคลังสินค้าและทำให้ราคาทรงตัว ซึ่งผลที่ได้ก็คือ OR ในจีนตกลง 69% เมื่อสิ้นเดือนมิถุนายน

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

โควิดระลอก 2 ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมีภัณฑ์เล็กน้อย

ราคาโซดาไฟระหว่างประเทศยังทะยานขึ้นต่อไปในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการขาดแคลนสินค้าอันเนื่องมาจากการปิดปรับปรุงและความต้องการที่ปรับตัวดีขึ้น ราคาโซดาไฟภายในประเทศที่สูงขึ้นถูกลดทอนไปบางส่วนจากความต้องการในสิ่งทอ เคมีภัณฑ์ออร์แกนิกที่อ่อนตัวลง และสถานการณ์อุปทานส่วนเกิน การใช้ประโยชน์จากความสามารถในการผลิตโซดาไฟอยู่ที่ 85% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอุตสาหกรรม

ส่วนธุรกิจวัสดุขั้นสูงรายงานผลประกอบการที่ดีที่สุดเป็นประวัติกาลในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากสถานกาณ์ความต้องการที่แข็งแกร่งและสภาวะด้านราคาที่ดีขึ้นทั่วโลกและในอินเดีย โดยความต้องการนั้นยังนำโดยส่วนธุรกิจพลังงานลมและยานยนต์ ต้นทุนวัตถุดิบหลัก ๆ อย่าง ECH and BPA พบกับการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในระหว่างไตรมาส ประกอบกับยังเผชิญข้อจำกัดด้านอุปทานด้วยเช่นกัน

ธุรกิจสี

ธุรกิจสีนั้นมีความคืบหน้าอย่างสอดคล้องไปตามแผนที่วางไว้ การจัดหาที่ดินเพื่อจัดตั้งโรงงานในหลาย ๆ รัฐอยู่ระหว่างขั้นตอน โดยมีความคืบหน้าในการวางแผนวิศวกรรมโครงการไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

แผนรายจ่ายฝ่ายทุน CAPEX

การทดสอบการดำเนินงานจากการขยายสายการผลิต VSF (2 สายที่กำลังการผลิต 300 ในแต่ละสาย) ที่ Vilayat เป็นไปตามกำหนดการ โดยสายการผลิต 1 คาดว่าจะเริ่มทดสอบการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ส่วนสายที่ 2 ในไตรมาสที่ 3 ของปีประมาณปัจจุบัน ในส่วนของธุรกิจคลออัลคาไรด์ การทดสอบการดำเนินงานโรงงาน Rehla ที่ 91KTPA และโรงงาน CMS ที่ 54.8KTPA คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2022, การทดสอบการดำเนินงานโรงงาน BB Puram (เฟส 1) ที่ 73KTPA และโรงงาน Vilayat (เฟส 1) ที่ 73KTPA คาดว่าจะดำเนินงานได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2022 ซึ่งแผนรายจ่ายฝ่ายทุน (CAPEX) โดยรวม (ที่จะจ่าย) สำหรับปีงบประมาณ 2022 อยู่ที่ 26,040 ล้านรูปี (ไม่รวมธุรกิจสีและปุ๋ย)

ความยั่งยืน

ธุรกิจ VSF บรรลุเป้าหมายการปฏิบัติตาม EU BAT ที่โรงงาน Vilayat และประสบความสำเร็จจากการทดสอบการดำเนินงานโรงงาน Carbon-disulphide Adsorption Plant (CAP) และบรรลุเกณฑ์ที่เข้มงวดในการปล่อยซัลเฟอร์สู่อากาศที่มีการกำหนดเงื่อนไขไว้ในการอ้างอิง EU BAT (EU Best Available Technologies BREFs) สำหรับกระบวนการผลิตวิสคอส

Aditya Birla Renewable Energy Ltd. (ABREL) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ถือครองโดยบริษัทแต่เพียงผู้เดียวจะเริ่มทดสอบกำลังการผลิตใหม่ที่ 38MW ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2022 กำลังการผลิตใหม่โดยรวมที่ 343MW จะเริ่มมีการทดสอบการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2022 และ 2023 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตทั้งหมดรวมกันเป็น 845MW

โควิด 19

บริษัทยังคงให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของพนักงานและชุมชนท้องถิ่นในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิดในระลอกที่ 2 โดยบริษัทได้ริเริ่มโปรแกรมการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานและผู้ที่อยู่ในการปกครองของพนักงานทั้งหลายที่โรงงานและที่ตั้งสำนักงานหลายแห่ง ซึ่งมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี

เครือซีเมนต์ - UltraTech Cement Limited

รายได้แบบรวมกิจการของ UltraTech อยู่ที่ 118,300 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นที่ 54% โดย EBITDA อยู่ที่ 35,120 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นที่ 49% ส่วน PAT อยู่ที่ 17,030 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นถึง 114% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 ปริมาณการขายแบบรวมกิจการอยู่ที่ประมาณ 21.53 MTPA ซึ่งสูงขึ้น 47% จากปีก่อน

UltraTech ประสบกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน อันเนื่องจากราคาพลังงาน วัตถุดิบ และต้นทุนด้านโลจิสติกส์นั้นสูงขึ้นในระหว่างไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022

โครงการขยายกำลังการผลิต 19.5 MTPA ของ UltraTech ผ่านการขยายแบบผสมทั้งที่โรงงงานแห่งใหม่และโรงงานแห่งเดิมเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในสิ้นปีงบประมาณ 2023 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 136.25 MTPA

เครือธุรกิจบริการทางการเงิน – Aditya Birla Capital Limited (ABCL)

รายได้แบบรวมกิจการของ ABCL เติบโตขึ้นที่ 7% จากปีก่อนเป็น 42,990 ล้านรูปี ส่วนกำไรหลังภาษีแบบรวมกิจการ (หลังหักดอกเบี้ยส่วนน้อย) เติบโตขึ้นที่ 52% จากปีก่อนเป็น 3,020 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 ซึ่งเป็นกำไรรายไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติกาล การมุ่งเน้นของ ABCL ในการสร้างการเติบโตให้กับฐานการค้าปลีกและสร้างความมั่นคงให้กับความสามารถในการทำกำไรนั้นให้ผลเป็นที่พอใจ โดยยุทธศาสตร์ในการสร้างการรับรู้ส่งผลให้ฐานลูกค้าที่ใช้บริการอยู่เติบโตขึ้นเป็นประมาณ 25 ล้านราย ซึ่งเป็นการเติบโตที่ 30% จากปีก่อน

บัญชีเงินกู้ใน NBFC และสินเชื่อเพื่อการเคหะอยู่ที่ 571,820 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 การชำระเงินโดยรวมอยู่ที่ 25,530 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2022 โดยการชำระเงินของเดือนมิถุนายน 2021 อยู่ที่ 12,760 ล้านรูปี ซึ่งเกือบเป็นระดับเดียวกับก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (รวมรายได้จากค่าธรรมเนียม) สำหรับธุรกิจ NBFC สูงขึ้น 131 bps จากปีก่อนเป็น 6.14% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022

ในส่วนของการบริหารจัดการสินทรัพย์ AAUM ภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2,754,540 ล้านรูปี (ไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022) สูงขึ้น 28% จากปีก่อน PBT/ AAUM เพิ่มขึ้นจาก 24 bps ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2021 เป็น 30 bps ในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022

ในส่วนของการประกันชีวิต เบี้ยประกันรับปีแรกรายบุคคล (FYP) สำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 เติบโตขึ้นที่ 5% จากปีก่อนเป็น 3,250 ล้านรูปี เบี้ยประกันต่ออายุเติบโตขึ้นถึง 41% จากปีก่อนเป็น 10,920 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 ซึ่งในจำนวนนี้ 69% เป็นการเก็บเงินผ่านทางระบบดิจิทัล

สำหรับธุรกิจประกันสุขภาพ เบี้ยประกันภัยรับรวมสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2022 เพิ่มขึ้นเป็น 3,680 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นที่ 50% จากปีก่อน โดยในจำนวนผู้ที่ได้รับความคุ้มครอง 14.4 ล้านชีวิต มี 10 ล้านชีวิตที่ได้รับการคุ้มครองผ่านทางผลิตภัณฑ์แบบขนาดเล็กและขนาดย่อม

เกี่ยวกับ Grasim Industries Limited

Grasim Industries Limited เป็นบริษัทแถวหน้าของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ซึ่งจัดอยู่ในอันดับท็อปของบริษัทที่ขึ้นทะเบียนมหาชนในอินเดีย เมื่อก่อตั้งในปี 1947 บริษัทเริ่มประกอบกิจการโดยเป็นผู้ผลิตสิ่งทอในอินเดีย จนในปัจจุบันนี้ บริษัทค่อย ๆ พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในหลากหลายภาคส่วนธุรกิจ โดยเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตเส้นใยเรยอน ผู้ประกอบการด้านคลอร์อัลคาไล ลินิน และฉนวนรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และด้วยผ่านทางบริษัทในเครือคือ UltraTech Cement และ Aditya Birla Capital บริษัทยังมีสถานะเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และเป็นผู้ประกอบการชั้นนำด้านการบริการทางการเงินที่มีความหลากหลาย ที่ Grasim มีความพยายามที่จะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับพนักงานกว่า 23,500 คน, ผู้ถือหุ้นกว่า 222,000 คน, สังคม และลูกค้า บริษัทรายงานรายได้สุทธิแบบรวมกิจการที่ 763,980 ล้านรูปี และ EBITDA ที่ 157,660 ล้านรูปี ในปีงบประมาณ 2021

GRASIM INDUSTRIES LIMITED
Aditya Birla Centre, 'A’ Wing, 2nd Floor, S. K. Ahire Marg, Worli, Mumbai – 400 030
สำนักงานจดทะเบียน: Birlagram, Nagda - 456 331 (M.P.)
โทร: (07366) 246760-66, แฟกซ์: (07366) 244114, 246024, CIN: L17124MP1947PLC000410
www.grasim.com และ www.adityabirla.com
twitter: www.twitter.com/adityabirlagrp ; Twitter handle: @GrasimInd / @AdityaBirlaGrp

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” ฉบับนี้ อธิบายถึงวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ การประมาณการ ความคาดหมายหรือคาดคะเนของบริษัท โดยอาจจัดว่าเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่น ๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด