EBITDA ไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2021 พุ่งขึ้น 2 เท่าจากปีก่อน

24 พฤษภาคม, 2564

  • ผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งจากทั่วทุกภาคธุรกิจในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021
  • EBITDA และ PBT แบบรวมกิจการของไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2021 สูงขึ้น 62% และ 133% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อน
  • EBITDA และ PBT แบบกิจการเดียวของไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2021 สูงขึ้น 121% และ 399% ตามลำดับเมื่อเทียบกับปีก่อน
  • ธุรกิจ VSF แสดงบันทึก EBITDA ที่ 5,480 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021
  • ธุรกิจเคมีภัณฑ์บันทึกผลประกอบการที่ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อนอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากส่วนเกินที่เพิ่มมากขึ้นของธุรกิจอีพ็อกซี่

ผลประกอบการทางการเงินรายไตรมาส

(หน่วยเป็นสิบล้านรูปี)
เฉพาะกิจการ   รวมกิจการ
ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2020 % เปลี่ยนแปลง
(Y-o-Y)
  ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2020 % เปลี่ยนแปลง
(Y-o-Y)
4,394 3,712 18% รายได้ 24,399 19,350 26%
880 399 121% EBITDA 5,142 3,180 62%
612 123 399% กำไรก่อนภาษี (PBT) 3,726 1,596 133%
ไม่รวมรายได้และ EBITDA ของการดำเนินงานที่ไม่ต่อเนื่องในส่วนธุรกิจปุ๋ย (Indo Gulf Fertilisers-IGF) ซึ่งเป็นผลมาจากการอนุมัติของคณะกรรมการบริหารสำหรับการเลิกกิจการ

PAT แบบรวมกิจการ (หลังรายการพิเศษ) สำหรับไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 17,150 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้น 14% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2020 PAT สำหรับกิจการเดียว (หลังรายการพิเศษ) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 4,800 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้น 36% จากไตรมาส 4 ปีงบประมาณ 2020 ในปีก่อน PAT (หลังจากรายการพิเศษ) รวมถึงการกลับรายการหนี้สินภาษีเงินได้รอตัดบัญชี

รายได้แบบรวมกิจการสำหรับไตรมาสที่ 4 สูงขึ้นที่ 26% โดยอยู่ที่ 243,990 ล้านรูปี EBITDA สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2021 ทะยานขึ้นถึง 62% จากปีก่อนเป็น 51,420 ล้านรูปี PBT อยู่ที่ 3,726 ล้านรูปี สูงขึ้น 133% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

รายได้แบบรวมกิจการ, EBITDA และ PBT สำหรับปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 763,980 ล้านรูปี, 157,660 ล้านรูปี และ 101,130 ล้านรูปีตามลำดับ ส่วนรายได้แบบกิจการเดียว, EBITDA และ PBT สำหรับปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 123,860 ล้านรูปี, 20,780 ล้านรูปี และ 10,140 ล้านรูปีตามลำดับ

รายได้และ EBITDA จากการดำเนินงานที่ไม่ต่อเนื่อง (ธุรกิจปุ๋ย) สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 5,609.60 ล้านรูปีและ 331.60 ล้านรูปี (ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2020: 6,227.30 ล้านรูปี และ 681.10 ล้านรูปี) ตามลำดับ โดยไม่รวมในผลประกอบการทางการเงินข้างต้น ขั้นตอนการเลิกกิจการธุรกิจปุ๋ยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2022 หลังจากได้รับการอนุมัติจาก NCLT สำหรับหลักการในการเตรียมการและการอนุมัติอื่น ๆ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

ในขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเด่นชัดขึ้นในระหว่างไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 ผลกระทบจากโควิด 19 ระลอกที่ 2 ต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ต้องได้รับการประเมินเช่นกัน

ธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์

ความต้องการเส้นใยสิ่งทอทั่วโลกฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็วในระหว่างครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2021 ด้วยมีความต้องการจากผู้บริโภคอย่างล้นหลามและการเติมสต็อกสำหรับการส่งผ่านสินค้า ผู้บริโภคมีความพอใจที่เพิ่มมากขึ้นต่อเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เป็นแบบลำลองและสมราคา ซึ่งทำให้ความต้องการเส้นใยเซลลูโลสและ VSF เป็นไปอย่างล้นหลาม

การลอยตัวของความต้องการในประเทศสะท้อนให้เห็นจากการเติบโตที่ 9% ในยอดขายภายในประเทศเมื่อเทียบกับปีก่อน ผลิตภัณฑ์ VAP รายงานการเติบโตที่ 17% ในระหว่างไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 เมื่อเทียบกับปีก่อน ส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในส่วนผสมการขายทั้งหมดส่งผลให้ปรับปรุงดีขึ้นเป็น 26% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 เทียบกับ 22% ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2021

ราคา VSF ในประเทศจีนทะยานพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 โดยเป็นราคาสูงสุดในรอบหลายปี ราคา VSF ในประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากประมาณ 12,800 RMB ในเดือนมกราคม 2021 เป็นประมาณ 15,800 RMB ในเดือนมีนาคม 2021 ซึ่งมีสาเหตุมาจากความต้องการที่ล้นหลามของผู้บริโภค การเติมสต็อก และการเพิ่มขึ้นของราคาฝ้ายในระหว่าง 12 เดือนที่ผ่านมา การเก็บสินค้า VSF ที่โรงงานของประเทศจีนลดลงอย่างเด่นชัดจาก 45 วัน (เมษายน 2020) เป็น 13 วัน (มีนาคม 2021)

รายได้สุทธิสำหรับส่วนวิสคอส (รวมถึง VFY) อยู่ที่ 25,830 ล้านรูปี และ EBITDA อยู่ที่ 6,250 ล้านรูปี ซึ่งขับเคลื่อนโดยปริมาณการขายที่เพิ่มสูงขึ้น, การผสมผสานผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น, การประหยัดต้นทุนที่ชัดเจน และความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มสูงขึ้น โดยในระหว่างไตรมาส ราคาเยื่อไม้และต้นทุนวัตถุดิบนั้นเริ่มทรงตัวไปพร้อมกับสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ธุรกิจโซดาไฟภายในประเทศและธุรกิจวัสดุขั้นสูงรายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในระหว่างไตรมาส โดยการใช้ประโยชน์จากความสามารถในการผลิตโซดาไฟปรับปรุงดีขึ้นเป็น 94% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 จาก 89% ในไตรมาสที่ 3 ปีงบฯ 2021 ราคาโซดาไฟระหว่างประเทศปรับปรุงดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งนำโดยการหยุดชะงักของอุปทานชั่วคราวในช่วงท้ายของไตรมาส

การเติบโตของปริมาณการขายวัสดุขั้นสูง (อีพ็อกซี่) ขับเคลื่อนโดยความต้องการทั่วทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจพลังงานลมและยานยนต์ ส่วนธุรกิจนี้พบกับอุปสงค์ที่มากเกินกว่าอุปทาน เนื่องจากเกิดข้อจำกัดด้านวัตถุดิบ ประกอบกับการหยุดชะงักของผู้ผลิตทั่วโลก

รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 14,720 ล้านรูปี ส่วน EBITDA อยู่ที่ 1,850 ล้านรูปี

ธุรกิจสี

ธุริกิจสีมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วโดยเป็นไปตามแผน โดยบริษัทอยู่ในขั้นตอนการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญระดับอาวุโสและผู้ชำนาญการเฉพาะทางสำหรับธุรกิจ นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างทำรายชื่อตัวเลือก/จัดซื้อที่ดินสำหรับเป็นที่ตั้งโรงงาน และมีความก้าวหน้าในการวางแผนทางวิศวกรรมสำหรับโครงการ

แผนรายจ่ายฝ่ายทุน CAPEX

การใช้จ่ายสำหรับรายจ่ายฝ่ายทุนโดยรวมสำหรับปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 15,080 ล้านรูปี โดยแผนรายจ่ายฝ่ายทุนสำหรับปีงบประมาณ 2022 (ไม่รวมธุรกิจสีและปุ๋ย) คือ 26,040 ล้านรูปี ซึ่งรวมถึงโครงการขยาย VSF ที่ Vilayat สายงานที่ 1 ที่มีกำหนดการเริ่มทดสอบการผลิตในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2022 และสายงานที่ 2 ในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2022 รายจ่ายฝ่ายทุนอื่น ๆ รวมถึงแผนของ Grasim ในการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้กับธุรกิจวัสดุขั้นสูง (อีพ็อกซี่) ให้เป็นประมาณ 125 KTPA ผ่านการขยายโรงงานเดิมที่มีอยู่ที่ Vilayat รัฐคุชราต ซึ่งจะครอบคลุมผลิตภัณฑ์อีพ็อกซี่แบบมาตรฐานและแบบพิเศษจำเพาะ พร้อมไปกับสารช่วยทำให้เกิดการแข็งตัว ด้วยเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรม Grasim จะยังคงมีบทบาทในเชิงรุกในการสร้างการเติบโตและสนับสนุนการเติบโตของความต้องการต่อไป

สำหรับส่วนธุรกิจคลอร์อัลคาไล Grasim ได้วางแผนที่จะขยายโรงงานสารกัดกร่อนแห่งเดิมที่ Vilayat รัฐคุชราตอีกประมาณ 200 TPD ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 1,400 TPD ที่ Vilayat และจะสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นส่วนใหญ่ในภูมิภาคตะวันตกของประเทศ การขยายครั้งนี้จะเริ่มทดสอบการผลิตใน 24 เดือนหลังจากได้รับการอนุญาต/อนุมัติตามกฎหมาย

ความยั่งยืน

ธุรกิจ VSF ได้รับเกียรติจาก “รางวัลนวัตกรรมและห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน (Innovative and Sustainable Supply Chain Award)” โดย United Nations Global Compact Network India โดยธุรกิจนี้ได้รับรางวัลการบุกเบิกนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรีไซเคิลและเส้นใยหมุนเวียนที่ผลิตจากขยะสิ่งทอก่อนการบริโภค ซึ่งมาจากเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นเองเป็นการภายใน (ไฟเบอร์ยุคอนาคต) และแพลตฟอร์มบล็อคเชนอันเป็นเอกลักษณ์ GreenTrack™ ที่ทำให้สามารถสืบรอยห่วงโซ่อุปทานแบบ “ต้นจรดปลาย” ให้กับอุตสาหกรรม/แบรนด์สิ่งทอได้

ธุรกิจเยื่อไม้และไฟเบอร์เผยรายงานด้านความยั่งยืนฉบับที่ 2 โดยให้การมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลเชิงลึกในการผสานรวมความยั่งยืนลงในยุทธศาสตร์ของธุรกิจและอัปเดตเกี่ยวกับวิธีการและความก้าวหน้าที่บริษัทดำเนินการที่ขอบเขตหลักต่าง ๆ

ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ทดแทนเริ่มทดสอบการดำเนินงานกำลังการผลิตใหม่ที่ 182 MW ในปีงบประมาณ 2021 ซึ่งทำให้กำลังการผลิตโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 502 MW

เงินปันผล

คณะกรรมการบริหารของ Grasim ได้เสนอเงินปันผลที่ 5 รูปีต่อหุ้นทุนและเงินปันผลพิเศษที่ 4 รูปีต่อหุ้นทุนสำหรับปี สิ้นสุด 31 มีนาคม 2021 ซึ่งทำให้เงินปันผลเป็น 9 รูปีต่อหุ้นทุน ทำให้การไหลออกโดยรวมอันเนื่องมาจากเงินปันผลอยู่ที่ 5,920 ล้านรูปี ภายใต้บทบัญญัติของพระราชบัญญัติทางการเงินปี 2020 เงินปันผลจะถูกหักภาษีจากผู้ถือหุ้นตามอัตราภาษีที่กำหนด และบริษัทจะหักภาษี ณ ที่จ่ายที่ต้นทางตามความเหมาะสม

โควิด 19

ทางบริษัทยังคงให้ความสำคัญสูงสุดเป็นอันดับแรกต่อการรักษาความปลอดภัยและสวัสดิภาพของพนักงานและชุมชนท้องถิ่นเมื่อเกิดโควิด 19 ระลอกที่ 2 บริษัทได้ปฏิบัติใช้ขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเป็นระบบเพื่อให้การบรรเทาในระหว่างช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้ ซึ่งรวมถึง: การตั้งศูนย์เยียวยาโควิด, การทำเครื่องหมายเตียงคนไข้ในโรงพยาบาลทั่วประเทศ และการระดมท่อออกซิเจนและเครื่องผลิตออกซิเจนทั่วทุกตำแหน่งที่ตั้ง อีกยังมีการตั้งโรงงานออกซิเจนที่ Veraval โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนแบบครบวงจรด้วย

นอกจากนี้บริษัทยังพยายามเร่งผลักดันการฉีดวัตซีนให้กับพนักงานและคนงานทั่วประเทศอินเดีย โดยดำเนินการให้วัคซีนแล้วเสร็จที่ 13,000 ครั้ง นอกจากนี้ บริษัทยังได้แจกจ่ายหน้ากากอนามัยคุณภาพสูงแบบ 3 ชั้น (ประมาณ 50,000 ชิ้น) ทั่วตำแหน่งที่ตั้งของหน่วยการผลิต

บริษัทยังใช้วิธีการเพิ่มเติม อาทิ การครอบคลุมทางการแพทย์เพิ่มเติมเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาลสำหรับพนักงานและครอบครัว และมีการประกาศถึงสิทธิประโยชน์สำหรับสินไหมกรุณาเพื่อให้การสนับสนุนแก่ครอบครัวของพนักงานผู้ติดเชื้อ (รวมถึงตามสัญญา) โดยสิทธิประโยชน์เหล่านี้ครอบคลุมถึงที่อยู่อาศัย, การแพทย์, โรงเรียน และการสนับสนุนทางการเงินอื่น ๆ ให้กับครอบครัว

เครือซีเมนต์ - UltraTech Cement Ltd.

รายได้แบบรวมกิจการของ UltraTech อยู่ที่ 447,260 ล้านรูปี, EBITDA อยู่ที่ 123,020 ล้านรูปี ส่วน PAT อยู่ที่ 54,630 ล้านรูปี สำหรับ ปีงบประมาณ 2021 ปริมาณการขายแบบรวมกิจการอยู่ที่ประมาณ 86.42 MTPA

สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 UltraTech รายงานรายได้แบบรวมกิจการที่ 144,060 ล้านรูปี, EBITDA อยู่ที่ 37,510 ล้านรูปี ส่วน PAT อยู่ที่ 17,750 ล้านรูปี และปริมาณการขายแบบรวมกิจการอยู่ที่ประมาณ 27.78 MTPA

UltraTech ประสบความสำเร็จในการระดมทุนที่ 400 ล้านดอลล่าร์สหรัฐจากการออกพันธบัตรสกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐแบบไม่มีเงื่อนไข ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน (ในรูปแบบ “ตราสารหนี้ส่งเสริมความยั่งยืน”) ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2031 ที่ 2.80% ต่อปี

หนี้สินสุทธิของ UltraTech ลดลงเหลือ 67,170 ล้านรูปี (มีนาคม 2021) ซึ่งลดลงไป 102,640 ล้านรูปีตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 หนี้สินสุทธิ/LTM EBITDA ที่ระดับรวมกิจการอยู่ที่ 0.55x (มีนาคม 2021) ซึ่งลดลงอย่างเด่นชัดจาก 1.72x (มีนาคม 2020)

คณะกรรมการบริหารของ UltraTech อนุมัติ (ธันวาคม 2020) การขยายกำลังการผลิต 19.5 MTPA ผ่านการขยายแบบผสมผสานทั้งที่หน่วยการผลิตแห่งใหม่และที่เดิม ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้วเสร็จทั้งสองรอบของการขยาย กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็นที่ 136.25 MTPA

เครือธุรกิจบริการทางการเงิน – Aditya Birla Capital Limited (ABCL)

รายได้แบบรวมกิจการของ ABCL เติบโตขึ้นที่ 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 192,480 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2021 ด้วยผ่านทางบริษัทในเครือ ABCL จึงยังคงสามารถแสดงผลประกอบการที่มั่นคงต่อเนื่องสำหรับผลประกอบการผ่านทางการตลาดและวงจรเศรษฐศาสตร์จุลภาคด้วยมีโมเดลทางธุรกิจที่หลากหลาย กำไรหลังภาษีแบบรวมกิจการ (หลังดอกเบี้ยส่วนน้อย) เติบโตขึ้นที่ 22% จากปีก่อนเป็น 11,270 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2021

รายได้แบบรวมกิจการเติบโตขึ้น 16% จากปีก่อนเป็น 55,870 ล้านรูปี ส่วนกำไรหลังภาษี (หลังดอกเบี้ยส่วนน้อย) เพิ่มขึ้น 2.6 เท่าเป็น 3,750 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021

NBFC และบัญชีเงินกู้สินเชื่อเพื่อการเคหะอยู่ที่ 605,570 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 การเบิกจ่ายขั้นต้นโดยรวมเติบโตขึ้น 2 เท่าจากปีก่อนเป็น 77,010 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (รวมรายได้จากค่าธรรมเนียม) สำหรับส่วนธุรกิจ NBFC สูงขึ้น 98 bps จากปีก่อนเป็น 5.98% ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021

สำหรับการจัดการสินทรัพย์นั้น AAUM ภายในประเทศโดยรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,594,220 ล้านรูปี (ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2021) ซึ่งสูงขึ้น 28% จากปีก่อน PBT/ AAUM เพิ่มขึ้นจาก 26 bps ในปีงบประมาณ 2020 เป็น 28 bps ในปีงบประมาณ 2021

ในส่วนธุรกิจการประกันชีวิต เบี้ยประกันรับปีแรก (FYP) รายบุคคล สำหรับปีงบประมาณ 2021 เติบโตขึ้น 14% เมื่อเทียบกับปีก่อนเป็น 19,380 ล้านรูปี เบี้ยประกันแบบต่ออายุเติบโตขึ้น 20% จากปีก่อนเป็น 52,120 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2021 ซึ่ง 65% มาจากการเก็บเงินผ่านทางดิจิทัล

ในส่วนของธุรกิจประกันสุขภาพ เบี้ยประกันภัยรับรวมของปีงบประมาณ 2021 เพิ่มขึ้นเป็น 13,010 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นถึง 49% จากปีก่อน

เกี่ยวกับ Grasim Industries Ltd.

Grasim Industries Limited เป็นบริษัทแถวหน้าของกลุ่มบริษัท Aditya Birla Group ที่ได้รับการจัดอันดับเป็นระดับท็อปสำหรับบริษัทที่ขึ้นทะเบียนบริษัทมหาชนในอินเดีย เมื่อก่อตั้งในปี 1947 บริษัทเริ่มประกอบกิจการโดยเป็นผู้ผลิตสิ่งทอในอินเดีย จนในปัจจุบันนี้ บริษัทค่อย ๆ พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นผู้ประกอบการชั้นนำในหลากหลายภาคส่วนธุรกิจ โดยเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตเส้นใยเรยอน ผู้ประกอบการด้านคลอร์อัลคาไล ลินิน และฉนวนรายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และด้วยผ่านทางบริษัทในเครือคือ UltraTech Cement และ Aditya Birla Capital บริษัทยังมีสถานะเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในอินเดีย และเป็นผู้ประกอบการชั้นนำด้านการบริการทางการเงินที่มีความหลากหลาย โดยที่ Grasim นี้ มีความพยายามเพื่อสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนเพื่อมอบให้กับพนักงานกว่า 24,000 คน ให้กับผู้ถือหุ้นกว่า 230,000 คน และให้กับสังคมและลูกค้า บริษัทรายงานรายได้สุทธิแบบรวมกิจการที่กว่า 763,980 ล้านรูปี ส่วน EBITDA ที่กว่า 157,660 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2021

GRASIM INDUSTRIES LIMITED

Aditya Birla Centre, 'A’ Wing, 2nd Floor, S. K. Ahire Marg, Worli, Mumbai - 400 030
สำนักงานจดทะเบียน: Birlagram, Nagda - 456 331 (M.P.)
โทร: (07366) 246760-66, แฟกซ์: (07366) 244114, 246024, CIN: L17124MP1947PLC000410
www.grasim.com และ www.adityabirla.com
Twitter: www.twitter.com/adityabirlagrp ; Twitter handle: @GrasimInd / @AdityaBirlaGrp

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” ฉบับนี้ อธิบายถึงวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ การประมาณการ ความคาดหมายหรือคาดคะเนของบริษัท โดยอาจจัดว่าเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่น ๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด