Grasim รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 4 ปี 2013-14

02 พฤษภาคม, 2557

คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้

หน่วยเป็นสิบล้านรูปี
รายได้สุทธิรวม 8,419 (สูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์)
กำไรหลังหักภาษี (PAT) 679 (สูงขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์)

โครงการที่เริ่มในปีดังกล่าว:

  • โซดาไฟ (183 กิโลตันต่อปี) และอีพ็อกซี่ - อนุพันธ์คลอรีน (52 กิโลตันต่อปี) ที่วิลายาท
  • เม็ดปูน (3.3 ล้าน ตันต่อปี) ที่มัลเค็ด
  • เม็ดปูน (3.1 ล้าน ตันต่อปี) ที่มัลเค็ดและจฮ์าร์ซูกูดา

โครงการภายใต้การว่าจ้าง:

  • วัตถุดิบเส้นใย (120 ตันต่อปี) ที่วิลายาท - ช่วงทดลองโครงการเริ่ม

ผลการดำเนินงานด้านการเงินรวม

วันนี้ Ultratech Cement Limited ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม Aditya Birla เผยผลประกอบการก่อนสอบบัญชีสอบทางการเงินไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2014

 ในช่วงไตรมาสที่ 4 มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ที่ 8,419 สิบล้านรูปี (7,674 สิบล้าน) กำไรสุทธิหลังผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (ก่อนรายการพิเศษ) ขึ้น 11 เซ็นต์ต่อไป 679 สิบล้านรูปี (613 สิบล้านรูปี) และตามลำดับโดยร้อยละ 105 จาก 332 สิบล้านรูปี มีกำไรพิเศษของ 204 สิบล้านรูปีจากการขายหุ้น Grasim ในซานเดรียคาร์บอนแบล็คและไทยคาร์บอนแบล็คในไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาเป็น

 แม้จะมีการชะลอตัวของเศรษฐกิจในขณะนั้นในระหว่างปี ปริมาณการผลิตก็เพิ่มขึ้นในทุกส่วนธุรกิจ ได้แก่ เส้นใยเรยอน, เคมีและปูนซีเมนต์ซึ่งขับเคลื่อนโดยกำลังการผลิตจากแหล่งผลิตใหม่ๆ ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 5 ที่มาอยู่ที่ 29,324 สิบล้านรูปี (27,909 สิบล้านรูปี) กำไรสุทธิสำหรับปีดังกล่าวเป็น 2,072 สิบล้านรูปี เมื่อเทียบกับ 2,500 สิบล้านรูปี (ก่อนรายการพิเศษ) ในปีที่ผ่านมา กำลังการผลิตที่ล้นในธุรกิจเส้นใยเรยอนทั่วโลกและธุรกิจปูนซิเมนต์ในอินเดียมีผลกระทบต่อการจัดเก้บรายได้และความสามารถในการทำกำไร

เงินปันผล
คณะกรรมการบริหารของ Grasim ลงมติจ่ายเงินปันผลในราคา 21 รูปีต่อหุ้น ยอดรวมจากการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 200 สิบล้านรูปี (รวมภาษีบรรษัทจากการจ่ายเงินปันผล)

 เส้นใยสังเคราะห์เรยอน
 ปริมาณการผลิตเส้นใยสังเคราะห์เรยอนยังคงสูงขึ้น สำหรับไตรมาสนี้ ปริมาณการผลิตเพิ่มถึง 99 กิโลตัน เติบโตขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา กิจกรรมเพื่อพัฒนาการตลาดในตลาดท้องถิ่นทำให้เกิดการพัฒนาในแง่ของความต้องการในตลาด โดยได้รับการสนับสนุนจากการผลิตที่สูงขึ้นในฮาริฮาร์

ความไม่สมดุลของอุปสงค์อุปทานและความไม่คล่องตัวของตลาดในจีนส่งผลกระทบต่อราคาเส้นใยเรยอนในตลาดโลก บริษัทยังคงสามารถรักษาการจัดเก็บรายได้ อันเป้นผลมาจากการอ่อนค่าเงินรูปี อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินรูปีทำให้ต้นทุนการผลิตเยื่อกระดาษสูงขึ้น ทั้งนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อการทำกำไรอีกด้วย

 ธุรกิจเคมีภัณฑ์
 ธุรกิจเคมีภัณฑ์เติบโตขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ในแง่ของยอดขายในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ทั้งนี้เป้นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากส่วนการผลิตใน วิลายาท กำไรก่อนหักภาษี ค่าเสื่อราคาและค่าตัดจำหน่าย (PBIDT) เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 มาอยู่ที่ 55 สิบล้านรูปี เมื่อเทียบกับ 51 สิบล้านรูปปี ในช่วงไตรมาสที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เป็นผลมาจากปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นและการจัดเก็บรายได้จากตลาดยุโรป ผลประโยชน์เต็มของโรงงานอีพ็อกซี่และน้ำยากัดกร่อนในโรงผลิตอัลคาไลในวิลายาทที่ได้เริมขึ้นก่อนหน้านี้จะเพิ่ทกำลังการผลิตในปีงบ 2014 -15

 โครงการใหม่ในวิลายาท รัฐคุชราต
การทดลองในส่วนการผลิตเส้นใยสังเคราะห์เรยอนใหม่ๆ ในวิลายาท เริ่มในไลน์ 1 ในเดือนเมษายน 2014 และไลน์ที่ 2 จะเริ่มตามๆ กันมา ทั้งสองไลน์การผลิตให้กำลังการผลิตอยู่ที่ 77กิโลตันต่อปี จากกำลังการผลิตทั้งหมด 120 กิโลตันต่อปีที่ได้ตั้งเป้าไว้ ไลน์การผลิตทั้ง 2 ไลน์ที่เหลือเน้นผลิตเส้นใยพิเศษ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มกำลังการผลิตในไตรมาสที่ 2 ของปีปัจจุบัน

 สาขาปูนซิเมนต์ (บริษัท UltraTech Cement)
 ยอดขายปูนซีเมนต์และปูนเม็ดสำหรับไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 13 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ซึ่งดีกว่ากำลังการผลิตในภาคการผลิตทั้งหมด ในไตรมาสดังกล่าวยังมีความกดดันในแง่ของต้นทุนการผลิตด้านการขนส่งและวัตถุดิบ โดยเป้นผลให้ราคาน้ำในดีเซลและค่าขนส่งทางรถไฟสูงขึ้นไปด้วย รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสปัจจุบันอยู่ที่ 6,316 สิบล้านรูปี (5,821 สิบล้านรูปี) กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 มาอยู่ที่ 865 สิบล้านรูปี เมื่อเทียบกับ 753 สิบล้านรูปีในช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ตามภาพการณ์แล้ว กำไรสุทธิสูงขึ้นร้อยละ 119 จาก 395

ค่าใช้จ่ายฝ่ายทุนในการผลิตซีเมนต์
 จากการดำเนินการผลิตตามกำลังการผลิต 1.45 ล้าน ตันต่อปี) ที่มัลเคฮ์ด กรรณาฏักในช่วงไตรมาสดังกล่าว กำลังการผลิตปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นถึง 57 ล้าน ตันต่อปี

มีการอนุมัติที่จำเป็นรวมถึงการอนุมัติจากศาลสูงและคณะกรรมการการแข่งขันทางธุรกิจอินเดียเมื่อมีการควบซื้อส่วนการผลิตซีเมนต์ในรัฐคุชราต ของบริษัท Jaypee Cement Corp. (4.8 ล้าน เมตริกตัน) โครงการขณะนี้อยู่ภายใต้การอนุมัติของ SEBI คาดว่าการทำธุรกรรมครั้งนี้จะเสร็จสมบูรณ์ในไตรมาส 1 ปีงบ 2014-15

 ในการเริ่มการผลิตของโครงการเดิมในปัจจุบันภายใต้การดำเนินงานและการซื้อกิจการ กำลังการผลิตปูนซีเมนต์โดยรวมของบริษัทจะสูงขึ้นจาก 57 ล้าน ตันต่อปีมาอยู่ที่ 70 ล้าน ตันต่อปีและปูนเม็ดจาก 46.1 ล้าน ตันต่อปีมาอยู่ที่ 51.8 ล้าน ตันต่อปี

ภาพการณ์ในอนาคต
 ในภาคการผลิตเส้นใยเรยอน กำไรยังคงได้รับความกดดันในระยะสั้นเนื่องจากกำลังการผลิตที่มากเกินไปในจีน การชะลอตัวของกำลังการผลิตใหม่ๆ ในประเทศจีนจะช่วยให้การใช้งานต่างๆ ในอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้น กำลังการผลิตที่สูงขึ้นยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง บริษัทยังคงเดินหน้าสร้างโพซิชั่นความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม

ในธุรกิจปูนซีเมนต์ การเติบโตในความต้องการของตลาดในอุตสาหกรรมน่าจะปรับตัวดีขึ้นทีละนิดมาอยู่ที่ร้อยละ 8 จากการปรับตัวดีขึ้นในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ

หมายเหตุ
 บทความนี้เป็น "ข่าวประชาสัมพันธ์" อธิบายถึงวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ การคาดคะเน ความคาดหวังหรือการทำนายของบริษัท ซึ่งอาจเป็น "ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคต" ภายใต้นิยามความหมายในข้อกำหนดและกฏหมายตลาดหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากบรรดาด่วนหรือโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับการดำเนินงานของบริษัทได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้า ความคล่องตัวของสินค้าในการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาในตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฏหมายของรัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและประเทศต่างๆ ภายในประเทษที่เราทำธุรกิจด้วยและปัจจัยอื่นๆ เช่น กฏหมายและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัท เป็นผู้รับผิดชอบที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงหรือแก้ไขแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลใด ๆ ที่ตามมาการพัฒนาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม