Grasim ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017: การสร้าง การรวมกิจการ การเติบโต

30 มกราคม, 2560

คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์

คลิกที่นี่เพื่อดูงานนำเสนอ

ไตรมาส 3: EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 กำไรสุทธิสูงขึ้นร้อยละ 14

ผลประกอบการรวมกิจการ

สิ้นสุดรอบ 9 เดือน   สิ้นสุดไตรมาส
31.12.2016 31.12.2015 31.12.2016 31.12.2015
26,073 25,033 รายได้
(สุทธิจากภาษีสรรพสามิต)
8,601 8,520
6,190 5,015 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) 1,878 1,762
2,404 1,711 กำไรสุทธิ 728 640

Grasim ประกาศผลกำไรที่สูงขึ้นในไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2016 รายได้รวมสำหรับไตรมาสอยู่ที่ 86,010 ล้านรูปี EBITDA อยู่ที่ 18,780 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 7 ซึ่งนำโดยผลการดำเนินการธุริจเส้นใยเรยอน (VSF) และซีเมนต์ กำไรสุทธิในไตรมาสสูงขึ้นร้อยละ 14 เป็น 7,280 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 6,400 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน

EBITDA ของกิจการรวมในช่วงเก้าเดือนสูงขึ้นถึงร้อยละ 23 ที่ 61,900 ล้านรูปี ส่วนกำไรสุทธิสูงขึ้นร้อยละ 41 เป็น 24,040 ล้านรูปีเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

หลักเกณฑ์การเตรียมการควบรวมกิจการ

กระบวนการเพื่อให้ผ่านการอนุมัติตามหลักการเพื่อการควบรวมกิจการ Aditya Birla Nuvo เข้ากับ Grasim และการรวบรวมรายการในธุรกิจบริการด้านการเงินนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยทั้งนี้ ได้รับการอนุมัติในหลักการแล้วจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องในตลาดหลักทรัพย์และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าแห่งอินเดีย (Competition Commission of India) แล้ว และได้รับการพิจารณารับเรื่องกฏหมายบริษัทแห่งชาติ (National Company Law Tribunal) แล้ว ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2018

ผลการดำเนินงาน

เส้นใยเรยอน (Viscose Staple Fibre (VSF))

ธุรกิจเส้นใยเรยอน ยังคงมีผลประกอบการที่น่าประทับใจ รายได้เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 10 เป็น 17,620 ล้านรูปี EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 31 เป็น 4,020 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 3,080 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน ซึ่งนำโดยการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพประกอบกับปริมาณการใช้ที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทยังคงสามารถรักษาปริมาณได้โดยยังผูกขาดส่วนแบ่งการตลาดยอดขายในประเทศ ถึงแม้ความต้องการในส่วนธุรกิจสิ่งทอได้ลดลงไปบ้างชั่วคราว

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ในระหว่างไตรมาส เกิดผลกระทบต่อความต้องการการใช้คลอรีนที่ทำให้จำนวนผู้ใช้ลดลง อันสืบเนื่องจากความเข้มงวดต่ออุตสาหกรรมการผลิตโซดาไฟ ซึ่งทั้งนี้ ส่งผลให้ปริมาณลดลงไปร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยอยู่ที่ 193,000 ตัน การใช้ ECU เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากราคาโซดาไฟสูงขึ้นเพราะมีปริมาณสินค้าที่ลดลง EBITDA ของธุรกิจเคมีภัณฑ์สูงขึ้นร้อยละ 5 เป็น 1,860 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 1,770 ล้านรูปีเมื่อปีก่อน

สำหรับการขยายธุรกิจใหม่ที่ Vilayat นั้น ได้รับการรับรองด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โดยคาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในเร็วๆ นี้

บริษัทในเครือปูนซีเมนต์ (UltraTech Cement)

รายได้ของ UltraTech (สรรพสามิตสุทธิ) อยู่ที่ 59,980 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 60,930 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ของปีก่อน EBITDA อยู่ที่ 12,800 ล้านรูปี จาก 12,740 ล้านรูปี เมื่อเปรียบเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน กำไรหลังหักภาษี (PAT) สูงขึ้นร้อยละ 5 จาก 5,660 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2016 เป็น 5,950 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2017

UltraTech ได้ประกาศแผนการจัดตั้งโรงงานซีเมนต์ขนาด 3.5 ล้าน TPA ที่ Dhar ในรัฐมัธยประเทศ ที่มีค่าใช้จ่ายราว 26,000 ล้านรูปี ซึ่งคาดว่าโรงงานจะเริ่มการผลิตเพื่อการพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2019

แนวโน้ม

ธุรกิจเส้นใยเรยอนจะยังคงมุ่งหน้าสู่ตลาดเรยอนในอินเดียโดยร่วมมือกับภาคธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งจะสามารถเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านทาง Brand Liva และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ผสมผสานใยสังเคราะห์พิเศษ ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มมากขึ้น บริษัทอยู่ระหว่างการกำจัดปัญหาคอขวดในขบวนการผลิต ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น

ความต้องการด้านสารละลายในอินเดียคาดว่าจะยังเติบโตสูงขึ้นต่อไปเนื่องจากมีความต้องการสูงขึ้นจากผู้บริโภคปลายทาง การเริ่มดำเนินงานตามแนวปฏิบัติใหม่นี้อาจส่งผลให้มีการเพิ่มผลผลิตในระยะกลาง บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มความสามารถในการผลิตสารละลายจาก 208K TPA เป็น 1,048K TPA ผ่านการขยายโรงงานที่สร้างเสร็จแล้วที่ Vilayat (รัฐคุชราต) ประกอบกับแก้ไขปัญหาการผลิตที่โรงงานอื่นๆ ด้วย

การใช้จ่ายอย่างต่อเนื่องของภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เมืองอัจฉริยะ การลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่อยู่อาศัย ล้วนเป็นปัจจัยหลักที่จะเพิ่มปริมาณความต้องการซีเมนต์ UltraTech จะได้ประโยชน์จากการนี้ทั่วประเทศเพื่อให้สอดรับกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นตามที่คาดการณ์นี้

Grasim อยู่ในสถานะที่พร้อมเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการลงทุนจากแผนการเติบโตทางธุรกิจที่ดำเนินเคียงข้างไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” นี้ เป็นการให้ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด