28 ตุลาคม, 2559
Shareการสร้าง การรวมกิจการ การเติบโต มีกำไรสูงขึ้นอย่างโดดเด่นในทุกภาคธุรกิจ
EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 กำไรสุทธิสูงขึ้นถึงร้อยละ 50
ผลประกอบการรวมกิจการ
สิ้นสุดช่วงครึ่งปี | สิ้นสุดไตรมาส | |||
---|---|---|---|---|
30.09.2016 | 30.09.2015 | 30.09.2016 | 30.09.2015 | |
17,476 | 16,532 | รายได้(สุทธิจากภาษีสรรพสามิต) | 8,387 | 8,166 |
4,312 | 3,254 | กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) | 2,098 | 1,626 |
1,676 | 1,070 | กำไรสุทธิ | 846 | 562 |
Grasim ประกาศผลรายได้รวมที่ 83,870 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2017 EBITDA อยู่ที่ 20,980 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 29 ซึ่งนำโดยผลการดำเนินการที่ดีเยี่ยมในทุกภาคธุรกิจ กำไรสุทธิในไตรมาสสูงขึ้นถึงร้อยละ 50 เป็น 8,460 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 5,620 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ในปีก่อน ซึ่งนำโดยการดำเนินการที่เพิ่มสูงขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง EBITDA ของกิจการรวมในระยะครึ่งปีสูงขึ้นถึงร้อยละ 33 ที่ 43,120 ล้านรูปี ส่วนกำไรสทธิสูงขึ้นร้อยละ 57 เป็น 16,760 ล้านรูปีเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
คณะกรรมการบริหารได้อนุมัตินโยบายการจ่ายเงินปันผลสำหรับบริษัทตามข้อบังคับ SEBI (Listing Obligations and Disclosure Requirements) 2015 ในวันนี้ โดยวัตถุประสงค์ของนโยบายนี้คือ เพื่อกำหนดขอบเขตการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้เกี่ยวข้องของบริษัท
ในระหว่างไตรมาส มีการวัดเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในหุ้นของบริษัท ดังนี้:
หลักเกณฑ์การเตรียมการควบรวมกิจการ
กระบวนการเพื่อให้ผ่านการอนุมัติตามหลักการในการควบรวมกิจการ Aditya Birla Nuvo เข้ากับ Grasim และการแยกกิจการและรวบรวมรายการในธุรกิจบริการด้านการเงินในภายหลังนั้น อยู่ระหว่างการดำเนินการ การดำเนินการนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2017 ถึงไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2018
ผลประกอบการทางธุรกิจ _ เส้นใยเรยอน (Viscose Staple Fibre (VSF))
สำหรับส่วนธุรกิจเส้นใยเรยอนนี้ ยังคงมีความต้องการในตลาดโลกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับการนำไปใช้ประโยชน์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูง และปริมาณสินค้าคงคลังต่ำ ส่งผลให้ราคา VSF สูงขึ้นในตลาดโลก
ยอดขายโดยรวมสูงขึ้นในอัตราร้อยละ 9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนำโดยการเติบโตร้อยละ 19 จากตลาดภายในประเทศ ด้วยปริมาณและอัตราการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้จึงทะยานขึ้นร้อยละ 21 เป็น 17,400 ล้านรูปี EBITDA อยู่ที่ 3,710 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 2,110 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน ซึ่งสูงขึ้นถึงร้อยละ 75 นอกเหนือจากปริมาณและอัตราการใช้ที่เพิ่มสูงขึ้นแล้ว ส่วนผสมในการขายและประสิทธิภาพในการดำเนินงานยังเป็นปัจจัยเสริมที่ช่วยเพิ่มผลกำไรให้บริษัท
ในภาคส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์ ยอดขายสูงขึ้นที่ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากปริมาณที่เพิ่มสูงขึ้นจากโรงงาน Ganjam ที่ตกเป็นของบริษัเมื่อเดือนกันยายน 2015 EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 26 เป็น 2,130 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 1,690 ล้านรูปีเมื่อปีก่อน อันส่งผลให้ยอดสูงขึ้นและมีผลประกอบการที่ดีขึ้น
รายได้ของ UltraTech (สรรพสามิตสุทธิ) อยู่ที่ 57,720 ล้านรูปี เปรียบเทียบกับ 59,190 ล้านรูปีในไตรมาสที่ 2 ของปีก่อน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินที่ลดลงเป็นผลจากค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและการขนส่งที่ลดลง ซึ่งทำให้มีผลกำไรที่เพิ่มขึ้น EBITDA อยู่ที่ 13,780 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 16 เมื่อเปรียบเทียบกับ 11,860 ล้านรูปีในช่วงเดียวกันของปีก่อน
แนวโน้มของธุรกิจเส้นใยเรยอนคาดว่าจะยังคงที่ ธุรกิจนี้จะยังคงเน้นการขยายตลาด VSF ในอินเดียโดยร่วมมือกับภาคธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งจะขยายความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่าน Brand Liva และเพิ่มมูลค่าให้ส่วนประสมของผลิตภัณฑ์โดยขยายสัดส่วนการผลิตภัณฑ์ใยสังเคราะห์พิเศษ บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดคอขวดในขบวนการผลิต ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
ความต้องการด้านสารละลายในอินเดียคาดว่าจะยังเติบโตสูงขึ้นต่อไปเนื่องจากมีความต้องการสูงขึ้นจากผู้บริโภคปลายทาง การเริ่มดำเนินงานตามแนวปฏิบัติใหม่อาจส่งผลให้มีการเพิ่มผลผลิตในช่วงกลางภาค แผนของเราก็คือ เพิ่มความสามารถในการผลิตสารละลายจาก 208K TPA เป็น 1,048K TPA ผ่านการขยายโรงงานที่สร้างเสร็จและมีรายได้แล้วที่ Vilayat (รัฐคุชราต) และเพิ่มประสิทธิภาพแก้ไขปัญหาการผลิตที่โรงงานอื่นๆ
แรงผลักดันจากรัฐบาลจากการใช้จ่ายในการพัฒนาสาธารณูปโภค จากการที่ภาคเกษตรกรรมมีความสามารถในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ส่งผลให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในเขตTier I และ Tier II ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีต่ออุตสาหกรรมซีเมนต์ อัตราความก้าวหน้าของการเพิ่มกำลังการผลิตที่ชะลอตัวลง จะส่งผลให้มีการใช้ประโยชน์ในทางอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น UltraTech จะได้ประโยชน์จากการนี้จากทั่วประเทศเพื่อให้สอดรับกับปริมาณความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น
Grasim อยู่ในสถานะที่พร้อมเก็บเกี่ยวประโยชน์จากการลงทุนจากแผนการเติบโตทางธุรกิจที่ดำเนินเคียงข้างไปกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย
แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” นี้ เป็นการให้ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด