Grasim รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2013-14

คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์ที่ได้

30 ตุลาคม 2013

งบการเงินรวมผลการดำเนินงาน Grasim อุตสาหกรรม จำกัด , บริษัท Aditya Birla กลุ่มได้รายงานรายได้จากการ 6,849 ล้านรูปีและกำไรสุทธิของ 450 ิบล้านรูปีในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2014 เมื่อเทียบกับ 6,615 สิบล้านรูปี และ 620 สิบล้านรูปี ตามลำดับในไตรมาสที่สองของปีงบประมาณ 2013

เส้นใยเรยอนสังเคราะห์ (VSF) ธุรกิจเส้นใยเรยอนสังเคราะห์มีการบันทึกผลการดำเนินงานที่น่าพอใจให้สภาวะตลาดที่ท้าทาย สนับสนุนโดยขยายกำลังการผลิตที่ Harihar การผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ในช่วงปีที่ผ่านมา

ปริมาณขายที่ 93,025 ตันเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 นำโดยการส่งออกที่สูงขึ้น แม้ว่าความต้องการเส้นใยเรยอนสังเคราะห์มีการเติบโตทั่วโลกล้นเกินในประเทศจีนสร้างขึ้นในเวลาของบูมเส้นใยเรยอนสังเคราะห์ได้สร้างแรงกดดันต่อการรับรู้ในตลาดโลก ค่าเสื่อมราคารูปีเพิ่มขึ้นนำไปสู่

ค่าใช้จ่ายในการผลิตเยื่อกระดาษได้รับการชดเชยด้วยการลดลงของราคาโซดาไฟและกำมะถัน แต่ก่อให้เกิดผลในการลดลงชะลอตัวลงเล็กน้อยในการทำกำไรในธุรกิจแบบสแตนด์อโลน ตามลำดับ บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ที่มีปริมาณสูงขึ้นเช่นเดียวกับการก่อให้เกิดดีกว่า กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ่าเสื่อมราคาและภาษีรวมของธุรกิจยังมีการปรับปรุงตามลำดับโดยร้อยละ 68 จาก 161 สิบล้านรูปีมาอยุ่ที่ 269 สิบล้านรูปีโดยการสนับสนุนจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากหน่วยผลิตเยื่อกระดาษ

บริษัทในเครือปูนซิเมนต์ (Ultratech Cement) ปูนซีเมนต์และปูนเม็ดรวมปริมาณการขายที่เป็น 10,030,000 ตัน รายได้สุทธิอยู่ที่ 4,870 สิบล้านรูปี (4,972 สิบล้านรูปี) กำไรหลังหักภาษีอยู่ที่ 280 สิบล้านรูปี (553 สิบล้านรูปี)

ประสิทธิภาพการทำงานได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ในบัญชีของราคาขายที่ลดลงเช่นเดียวกับความต้องการที่อ่อนเนื่องจากได้รับผลกระทบมรสุมและค่าใช้จ่ายต่ำจากภาคโครงสร้างพื้นฐานและที่อยู่อาศัย

ประโยชน์ของการชะลอตัวลงของราคาถ่านหินที่นำเข้าถูกทำให้ไร้ผลส่วนใหญ่โดยการลดค่าของเงินรูปี

การเพิ่มประสิทธิภาพของการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงที่ช่วยในการใช้พลังงานและลดค่าใช้จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง

ส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์
ส่วนธุรกิจเคมีภัณฑ์อยู่ที่ 25% สูงขึ้นในส่วนของการผลิตและ 20% ยอดขายเติบโตโดยมีการผลิตที่ต่อเนื่องในส่วนของนักดา [Nagda] และเริ่มกำลังการผลิตในส่วนของโซดาไฟในวิลายาท (ในรัฐคุชราช) ในไตรมาสแรก ปริมาณการผลิตจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิต การจัดเก็บรายได้ในตลาดยุโรปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น เห้นได้ในช่วงปี 2013 และสูงขึ้น 4% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสเดียวกันในปีที่ผ่านมา

รายจ่ายฝ่ายทุนด้านเคมีภัณฑ์และเส้นใยเรยอน
โครงการเส้นใยเรยอน (120,000 ตันต่อปี) ในวิลายาทในรัฐกุจราชคาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตในช่วงปรกในไตรมาส 4 และโครงการจำลอง (51,000 ตันต่อปี) ในไตรมาส 3 คำสั่งในการผลิตได้เลื่อนออกไปเนื่องจากอุทกภัยในรัฐวิลายาท ทำให้โรงงานไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ได้รับความเสียหาย  

รายจ่ายฝ่ายทุนในการผลิตปูนซีเมนต์
หลังจากให้มีการสั่งการผลิตในโรงโม่ (1.6 ล้านตันต่อปี) ในจาร์สุกุดา [Jharsuguda] ในรัฐโอดิสา [Odisha] ในเดือนตุลาคมปี 2013 กำลังการผลิตปูนซีมเนต์อยู่ที่ 55.5 ล้านตันต่อปี เมื่อการว่าจ้างของโครงการทั้งหมดอยู่ภายใต้การดำเนินงานและการซื้อกิจการของหน่วยซีเมนต์คุชราตของ Jaypee Cement Corporation  กำลังการผลิตซีเมนต์ Ultratech จะเพิ่มขึ้นถึง 70 ล้านตัน ต่อปี

แนวโน้มอุตสาหกรรม
อุตสาหกรรมเส้นใจเรยอนยังคงเผชิญแรงกดดันด้านราคาในระยะทันทีที่ได้รับกำลังการผลิตส่วนเกินในประเทศจีน นอกจากนี้กำลังการผลิตในประเทศจีนคาดว่าจะชะลอตัวลงเนื่องจากผลตอบแทนที่ต่ำกว่าปกติในอุตสาหกรรมขณะนี้ ในปูนซีเมนต์ความต้องการที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 5 ในปี 2014 เนื่องจากการชะลอตัวของอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพี แต่คาดว่าจะฟื้นตัวมากกว่าร้อยละ 8 มีการปรับปรุงในสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ

การขยายกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมเส้นใยเรยอนและซีเมนต์จะให้ปริมาณเพิ่มขึ้นผลักดันการเติบโตและเพิ่มเติมรวมเป็นผู้นำของ บริษัท นี้จะช่วยให้ บริษัท ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วกับการกู้คืนในตลาด

หมายเหตุ
"ข่าวประชาสัมพันธ์" ถึงวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ประมาณการประมาณการคาดหวังหรือคาดการณ์อาจจะ "ที่คาดการณ์ข้างหน้า" ในความหมายของกฎหมายหลักทรัพย์และข้อบังคับ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากบรรดาด่วนหรือโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างในการดำเนินงานของ บริษัท มีเงื่อนไขทั่วโลกและอินเดียอุปสงค์อุปทานเสร็จราคาสินค้ามีวัตถุดิบและราคาที่ความต้องการของวัฏจักรและการกำหนดราคาในตลาดหลักของ บริษัท ในการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบของรัฐบาลที่แฝงเร้นภาษีภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศอินเดีย และประเทศภายในที่ บริษัท ดำเนินธุรกิจและปัจจัยอื่น ๆ เช่นการดำเนินคดีและการเจรจาแรงงาน บริษัท เป็นผู้รับผิดชอบที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงหรือแก้ไขแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลใด ๆ ที่ตามมาการพัฒนาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม