Grasim ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2018

14 สิงหาคม, 2560

คลิกที่นี่เพื่อดูผลลัพธ์

คลิกที่นี่เพื่อดูงานนำเสนอ

ผลประกอบการรวมกิจการ

ไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 18: รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 8; EBITDA สูงขึ้นร้อยละ 9; กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 7

หน่วยเป็นล้านรูปี
  สิ้นสุดไตรมาส
30.06.2017 30.06.2016
รายได้สุทธิ 9,846 9,085
EBITDA 2,419 2,214
กำไรสุทธิ 890 830

Grasim รายงานการเติบโตโดยรวมทั้งรายได้ EBITDA และกำไรสุทธิ สำหรับไตรมาสสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2017 รายได้แบบรวมกิจการอยู่ที่ 98,460 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 8 EBITDA อยู่ที่ 24,190 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 9 โดยมีปัจจัยหลักจากกำไรที่เพิ่มสูงขึ้นจากทุกภาคธุรกิจ กำไรสุทธิในไตรมาสสูงขึ้นร้อยละ 7 เป็น 8,900 ล้านรูปี

เส้นใยเรยอน (Viscose Staple Fibre (VSF))

ราคาเส้นใยเรยอนในตลาดโลกอ่อนตัวลงในระหว่างไตรมาส เนื่องจากมีความต้องการใช้ลดลงอันเป็นผลมาจากผู้ประกอบการในจีน ราคามีการปรับตัวดีขึ้นจนถึงสิ้นสุดไตรมาสซึ่งทำให้ทิศทางการตลาดปรับสู่แนวโน้มที่ดี

การตลาดภายในประเทศมีการเก็บสต็อคลดลงสืบเนื่องจากการประกาศใช้ภาษี GST ยอดขายสุทธิของบริษัทฯ ยังคงระดับอยู่ที่ 121K ตัน EBITDA สำหรับไตรมาสอยู่ที่ 3,490 ล้านรูปี สูงขึ้นร้อยละ 8 โดยมีสาเหตุหลักจากส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดีขึ้น

การดำเนินงานของโรงงานเยื่อที่ Harihar ปรับตัวดีขึ้นตลอดจนสิ้นสุดเดือนมิถุนายนเนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูมรสุม

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ราคาโซดาไฟภายในประเทศยังคงมีระดับเดิม ซึ่งสอดรับกับราคาในตลาดสากล ปริมาณคลอรีนที่ล้นตลาดอันเกิดจากการกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นในปีก่อนยังคงส่งผลกระทบต่อราคาคลอรีนในตลาดภายในประเทศ

สำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบฯ 2018 ยอดขายสุทธิของเราเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 4 ที่ 199K ตัน การทำกำไรจาก ECU เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 2 สืบเนื่องจากราคาสารละลายที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ได้รับแรงกดดันส่วนหนึ่งจากปริมาณการใช้คลอรีนที่ลดต่ำลง โดยธุรกิจยังคงเน้นให้ความสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้ที่ต้องอาศัยคลอรีนเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม EBITDA ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยที่ 2,440 ล้านรูปี ซึ่งสูงขึ้นร้อยละ 5 อันสืบเนื่องจากปริมาณการใช้ ECU ที่เพิ่มขึ้นและยอดขายผลิตภัณฑ์เรซินสังเคราะห์ที่เพิ่มขึ้น

การขยายธุรกิจใหม่ของบริษัทที่ Vilayat อยู่ระหว่างการดำเนินงานตามแผน โดยคาดว่าโรงงานจะเริ่มดำเนินกิจการได้ในไตรมาสที่ 4 ปีงบฯ 2018 ด้วยการแก้ปัญหาการผลิตที่โรงงานอื่นๆ ประกอบกับความสามารถในการผลิตของ Aditya Birla Nuvo Limited (ABNL) ที่รวมเข้ากับ Grasim (มีผล 1 กรกฎาคม 2017) ก็จะสามารถทำให้กำลังการผลิตโซดาไฟเพิ่มขึ้นจาก 840K TPA เป็น 1,139K TPA ได้

บริษัทในเครือปูนซีเมนต์ - UltraTech

รายงานรายได้แบบรวมกิจการของ UltraTech อยู่ที่ 70,350 ล้านรูปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 EBITDA เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 11 เป็น 17,980 ล้านรูปี ในด้านราคา ปิโตรเลียมโค้กและพลังงานมีราคาสูงขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและโลจิสติกสูงขึ้น แต่ลดทอนลงด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่ปรับปรุงดีขึ้นส่วนหนึ่ง

ในระหว่างไตรมาส UltraTech ได้ดำเนินการจัดหาโรงงานซีเมนต์ Jaiprakash Associated Limited และ Jaypee Cement Corporations Limited ที่มีกำลังการผลิตรวม 21.2 ล้าน ตันต่อปี การจัดหามานี้ทำให้กำลังการผลิตรวมของ UltraTech เพิ่มเป็น 93 ล้าน ตันต่อปี อันทำให้กลายเป็นฐานสำคัญในภูมิภาคอินเดียกลาง

หลักเกณฑ์การเตรียมการควบรวมกิจการของ Aditya Birla Nuvo Ltd.

การอนุมัติของ NCLT ในหลักเกณฑ์การควบรวมกิจการ ABNL เข้าเป็น Grasim และการแยกส่วนกิจการบริการด้านการเงินนั้น ทำให้ABNL ได้ควบรวมเข้ากับ Grasim เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2017 ส่วนการแยกส่วนธุรกิจบริการด้านการเงินมีผลบังคับใช้ตามมาเมื่อ 4 กรกฎาคม 2017 การจัดสรรและขึ้นทะเบียนหุ้นทุนของ Aditya Birla Capital Limited (เดิมคือ Aditya Birla Financial Services Limited) อยู่ระหว่างการดำเนินการ

ด้วยการควบรวมกิจการ ABNL มีผลบังคับใช้เมื่อ 1 กรกฎาคม 2017 ผลประกอบการทางการเงินจึงไม่รวมอยู่ในผลประกอบการของบริษัทฯ ผลประกอบการของ ABNL เดิมจะได้รับการนำไปผนวกรวมกับผลประกอบการทางการเงินของบริษัทฯ นับตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ปีงบฯ 2018 เป็นต้นไป สำหรับไตรมาสปัจจุบัน EBITDA รวมของ ABNL เดิมอยู่ที่ 4,480 ล้านรูปี ส่วน PAT อยู่ที่ 790 ล้านรูปี

แนวโน้ม

ธุรกิจเส้นใยเรยอนจะยังคงมุ่งเน้นการขยายตลาดเส้นใยเรยอนในอินเดียโดยร่วมมือกับภาคธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งจะสามารถเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านทาง Brand Liva และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ด้วยการผสมผสาน เพิ่มพูนส่วนแบ่งการตลาดด้านใยสังเคราะห์พิเศษให้มากขึ้น บริษัทฯ อยู่ระหว่างวางแผนการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิต นอกเหนือจากการแก้ปัญหาคอขวดของโรงงาน ทั้งนี้เพื่อให้สามารถสนองตอบต่อความต้องการบริโภคที่มากขึ้น

ความต้องการโซดาไฟในอินเดียคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากมีอัตราการบริโภคเพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจออกไซด์ของอะลูมิเนียมและสิ่งทอ อย่างไรก็ตาม การที่มีอุปทานเพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากกำลังการผลิตใหม่ในอุตสาหกรรมนั้น อาจส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานเป็นการชั่วคราว โดยคลอรีนยังคงมีปริมาณล้นตลาดอยู่

สำหรับซีเมนต์ คาดว่าความต้องการจะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำโดยการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่อยู่อาศัยราคาประหยัด และการฟื้นฟูบ้านในชนบทตามสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย ซึ่งบริษัทอยู่ในสถานะที่เหมาะสมต่อการรองรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นจากทั่วประเทศได้

ด้วยบริษัทฯ เป็นผู้นำของภาคธุรกิจ และการควบรวมกิจการ ABNL ก็เอื้อต่อการก้าวเข้าสู่ยุคแห่งการเติบโตครั้งใหม่ ด้วยการผสานกำลังภาคส่วนที่มีอัตราการเติบโตสูงเข้ากับกระแสเงินสดที่มั่นคงที่ได้รับแรงหนุนจากงบดุลที่แข็งแกร่ง

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” นี้ เป็นการให้ข้อมูลด้านวัตถุประสงค์ การวางแผน การประมานการ ความคาดหวังหรือคาดการณ์ ซึ่งอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่างๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่นๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด