Grasim รายงานผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบ 16 นำโดยการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญทั่วธุรกิจ

07 สิงหาคม, 2558

คลิกที่นี่เพื่อดูผลประกอบการ

คลิกที่นี่เพื่อดูงานนำเสนอ

ผลการปฏิบัติงานด้านการเงินในรวมกิจการ

หน่วยเป็นสิบล้านรูปี
  ไตรมาสสิ้นสุด
30.06.2015 31.06.2014  
รายได้สุทธิ 8,599 8,045 7%
กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและภาษี (PBIDT) 1,531 1,488 3%
กำไรหลังหักภาษี 485 487  

บริษัท Grasim รายงานผลประกอบการที่ดีขึ้นสำหรับไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2015 ท่ามกลางความท้าทายจากสภาพการตลาด รายได้รวมของบริษัทเติบโตร้อยละ 7 อยู่ที่ 8,599 สิบล้านรูปี และมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มาอยู่ที่ 1,531 สิบล้านรูปี

เส้นใยเรยอง (VSF)

รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ทั้งนี้เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 103 กิโลตันและสูงขึ้นร้อยละ 19 กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBIDTA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 72 มาอยู่ที่ 139 สิบล้านรูปี ด้วยปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น และจำนวนการผลิตที่ลดลงของเยื่อกระดาษและต้นทุนการผลิตในส่วนของวัตถุดิบอื่น ๆ กำลังการผลิตในส่วนการผลิต Vilayat ที่เพิ่งเริ่มดำเนินการได้เพิ่มกำลังการผลิต โดยประสบความสำเร็จในแง่ของการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ร้อยละ 82 โดยประมาณ การเติบโตในปริมาณการผลิตจะสูงขึ้นอีก ถึงแม้ว่าจะมีการหยุดชะงักในส่วนของการผลิตใน Nagda เป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจากขาดน้ำ ส่วนการผลิตใน Nagda เริ่มกำลังการผลิตในสัปดาห์ที่ผ่านมาในเดือนมิถุนายน 2015

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ในส่วนของธุรกิจเคมีภัณฑ์ รายได้เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 17 เนื่องจากปริมาณอีพ็อกซี่สูงขึ้นเกือบสองเท่า ด้วยกำลังการผลิตที่สูงขึ้น ยอดขายโซดาไฟยังรักษาระดับอยู่ที่ 98 กิโลตัน กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 มาอยู่ที่ 94 สิบล้านรูปี แผนการควบรวมกิจการของ Aditya Birla Chemicals India (ABCIL) กับ บริษัทได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นและเจ้าหนี้ของทั้งสองบริษัท หลังการควบรวมกิจการโพสต์ กำลังการผลิตโซดาไฟของบริษัทจะเพิ่มขึ้นจาก 452 กิโลตันต่อปีมาอยู่ที่ 804 กิโลตันต่อปี แผนการดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2015 เมื่อได้รับการอนุมัติตามระเบียบข้อบังคับจากคณะกรรมการการแข่งขันของประเทศอินเดีย และศาลสูง โดยคาดว่าก่อนไตรมาสที่ 3 ปีงบ 16 ดังนั้น ผลประกอบการของบริษัท ฯ จะยังไม่รวมกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) มูลค่า 78 สิบล้านรูปี และกำไรหลังหักดอกเบี้ย (PAT) ที่มีมูลค่า 20 สิบล้านรูปี จากรายงานของ ABCIL สำหรับไตรมาสปัจจุบัน

บริษัทย่อยซีเมนต์ (UltraTech Cement)

ท่ามกลางความต้องการของตลาดในภาคปูนซีเมนต์ที่ลดลง เนื่องจากการชะลอตัวในธุรกิจก่อสร้าง บริษัท UltraTech Cement มีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น รายได้ของบริษัทในไตรมาสนี้อยู่ที่ 6,432 สิบล้านรูปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับ 6,032 สิบล้านรูปีในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ยอดขายปูนซีเมนต์และปูนเม็ดรวมกันได้ 13.0 ล้านตัน เมื่อเทียบกับ 12.4 ล้านตันในปีที่ผ่านมา กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อยู่ที่ 1,282 สิบล้านรูปี (1,296 สิบล้านรูปี) และกำไรสุทธิอยู่ที่ 591 สิบล้านรูปี (627 สิบล้านรูปี) และด้วยการลดลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและการบริโภคเพ็คโค้กที่สูงขึ้น ต้นทุนด้านพลังงานจึงลดลงร้อยละ 7 ผลประโยชน์ที่มีขึ้นบางส่วนเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าขนส่งสินค้าทางรถไฟ ราคานำเข้ายังคงมีเสถียรภาพ ยกเว้น ค่าลิขสิทธิ์หินปูนที่เพิ่มขึ้นและการจัดเก็บภาษีภายใต้กฏหมายเหมืองแร่และแร่ (พัฒนาและระเบียบ) แก้ไขเพิ่มเติม 2015

ภาพรวมเศรษฐกิจ

ในธุรกิจเส้นใยเรยอน ราคามีแนวโน้มที่จะได้รับอิทธิพลจากการพัฒนาในอุตสาหกรรมในประเทศจีน ท่ามกลางการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้านำเข้าและการเริ่มดำเนินกิจการใหม่บางส่วนของกิจการที่ได้ปิดไป ส่วนการผลิตใหม่ใน Vilayat ของบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในสินค้าพิเศษที่สูงขึ้นจะปรับปรุงการผสมผสานผลิตภัณฑ์และจัดเก็บรายได้ที่ดีขึ้น แบรนด์ 'Liva' ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าและผู้ค้าในเครือ บริษัททำธุรกิจใกล้ชิดกับแบรนด์ นักออกแบบและร้านค้าปลีกที่ขยายตลาดในประเทศ

ในธุรกิจเคมีภัณฑ์ ขนาดการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังควบรวมกิจการของ ABCIL กับบริษัทแล้ว

ในธุรกิจปูนซิเมนต์ คาดการณ์กันว่า ความต้องการในตลาดจะสูงขึ้น ด้วยการที่รัฐบาลเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภาคอสังหาริมทรัพย์ สมาร์ทซิตี้ เป็นต้น และปรับอัตราดอกเบี้ยให้ลดลง บริษัทมี

บริษัทอยู่ในตำแหน่งผู้นำในภาคธุรกิจทั้งหมด ได้แก่: ปูนซิเมนต์, เส้นใยเรยองและเคมีภัณฑ์ ซึ่งสร้างความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง โดยสร้างการลงทุนมูลค่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงห้าปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการลงทุนด้วยการเพิ่มกำลังการผลิต และผลตอบแทนทางธุรกิจที่คาดการณ์เอาไว้ในวงการธุรกิจ ที่นำโดยการเติบโตที่ดีขึ้นในเศรษฐกิจ

หมายเหตุ

บทความนี้เป็น "ข่าวประชาสัมพันธ์" อธิบายถึงวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ การคาดคะเน ความคาดหวังหรือการทำนายของบริษัท ซึ่งอาจเป็น "ข้อความที่เป็นการคาดการณ์ในอนาคต" ภายใต้นิยามความหมายในข้อกำหนดและกฏหมายตลาดหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างอย่างมากจากบรรดาด่วนหรือโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับการดำเนินงานของบริษัทได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้า ความคล่องตัวของสินค้าในการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาในตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฏหมายของรัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและประเทศต่างๆ ภายในประเทษที่เราทำธุรกิจด้วยและปัจจัยอื่นๆ เช่น กฏหมายและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัท เป็นผู้รับผิดชอบที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงหรือแก้ไขแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลใด ๆ ที่ตามมาการพัฒนาหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ก็ตาม