Grasim Industries Limited ประกาศผลประกอบการทางการเงินสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2020

13 สิงหาคม, 2563

ผลประกอบการทางการเงินแบบรวมกิจการ

สิบล้านรูปี
  ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2020
รายได้ 13,621 20,103
EBITDA 2,613 4,461
กำไรหลังภาษี (PAT)
(ก่อนรายการพิเศษ)*
352 1,294
*หุ้นของเจ้าของ    

ผลประกอบการควรถูกมองในแง่ของการเกิดการหยุดชะงักอย่าวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากการล็อคดาวน์จากการระบาดของ Covid-19 ในตลาดหลัก ๆ ทั้งหมดในระหว่างไตรมาส ซึ่งส่งผลให้เกิดการชะงักงันของห่วงโซ่อุปสงค์และอุปาทาน

ธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์

ในไตรมาสนี้ สุขภาพและอนามัยเป็นสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจ เป็นอันดับแรกในช่วงที่มีการระบาดของโรคอย่างในปัจจุบัน แบรนด์ Liva ของ Grasim มีการเปิดตัวเส้นใยต้านจุลชีพ โดยเส้นใยผ้าได้รับการผลิตโดยใช้เส้นใยพิเศษชนิดนี้ที่มีคุณสมบัติในตัวด้านการต้านจุลชีพซึ่งจะช่วยยับยั้งการเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรียและไวรัส) บนเครื่องแต่งกายและสิ่งทอที่ใช้ภายในครัวเรือนได้โดยกำจัดจุลินทรีย์ได้ถึง 99%+ ซึ่งทำให้เครื่องแต่งกายและสิ่งทอที่ใช้ภายในครัวเรือนมีความปลอดภัยโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพและความเป็นแฟชั่นลงแต่อย่างใด อีกเรายังให้การตอบรับต่อโอกาสทางภาคธุรกิจสุขอนามัยโดยเริ่มทำการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอในสายงานที่มีอยู่เดิม

ผลการดำเนินงานและผลประกอบการทางการเงินของส่วนธุรกิจเส้นใยสังเคราะห์นั้นอ่อนตัวลงในช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2020 เนื่องจากมีการล็อคดาวน์ แต่มีการปรับปรุงดีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2020 และหลังจากนั้น โดยมีการยกระดับการใช้ประโยชน์ในความสามารถในการผลิตทั้งหลายทั่วทั้งโรงงานถึงประมาณ 79% ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมสิ่งทอภายในครัวเรือนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการขยายเวลาการล็อคดาวน์ในศูนย์การผลิตหลัก ๆ และจำนวนแรงงานที่มีที่ลดลง ซึ่งคาดว่าจะบรรเทาลงเมื่อภาครัฐผ่อนคลายความเข้มงวดลง

รายได้สุทธิสำหรับภาคธุรกิจเส้นใย (รวมถึง VFY) อยู่ที่ 5,580 ล้านรูปี โดยมีปริมาณการขายที่ลดลงทั้งในส่วนของ VSF และ VFY ส่วนแบ่งของผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มในปริมาณการขายทั้งหมดปรับตัวดีขึ้นที่ 30% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 ซึ่งสูงขึ้นที่ 6% ตามลำดับ ส่วนแบ่งการส่งออกผลิตภัณฑ์เติบโตขึ้น 26% เพื่อใช้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของความต้องการที่ค่อนช้างเร็วขึ้นในส่วนตลาดระหว่างประเทศ ผลกระทบในเชิงลบสำหรับ EBITDA ได้รับการบรรเทาส่วนหนึ่งโดยการเริ่มลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของกิจการอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งรวมถึงการประหยัดต้นทุนคงที่ที่ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายได้ถึง 1,860 ล้านรูปีในระหว่างไตรมาส เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยรายไตรมาสในปีงบประมาณ 2020

ราคา VSF ในตลาดโลกยังคงอ่อนตัวในระหว่างไตรมาส โดยได้รับแรงกดดันจากราคา VSF สีเทาภายในประเทศ

ธุรกิจเคมีภัณฑ์

ในส่วนของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ความต้องการในผลิตภัณฑ์ที่แตกออกมาจากคลอรีนยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยความต้องการในผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคและผลิตภัณฑ์ด้านสุขอนามัย

การผลิตโซดาไฟอยู่ในช่วงของการฟื้นตัวของปริมาณที่แข็งแกร่งในระหว่างไตรมาส การใช้ประโยชน์จากความสามารถในการผลิตปรับปรุงดีขึ้นที่ 70% ในเดือนมิถุนายน หลังจากที่ในเดือนเมษายนมีการใช้ความสามารถในการผลิตในระดับต่ำที่ 23% สำหรับไตรมาส การผลิตและการขายได้รับผลกระทบจากการล็อคดาวน์อันเป็นผลสืบเนื่องจาก COVID-19

ราคาโซดาไฟในตลาดโลกยังมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อไปและลงไปแตะที่ระดับ $300 ซึ่งต่ำสุดในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 7,040 ล้านรูปี ส่วน EBITDA อยู่ที่ 410 ล้านรูปี โดยผลประกอบการ EBITDA ได้รับแรงหนุนจากยอดขายผลิตภัณฑ์ที่แตกออกมาจากคลอรีน

ปุ๋ย

ความต้องการในส่วนอุตสาหกรรมสำหรับยูเรียปรับตัวดีขึ้นในระหว่างไตรมาส โดยมีการทำการเกษตรเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ รายได้สุทธิสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 6,050 ล้านรูปี ส่วน EBITDA อยู่ที่ 720 ล้านรูปี การปรับตัวดีขึ้นของ EBITDA เมื่อเทียบกับปีก่อนนั้นขับเคลื่อนโดยต้นทุนคงที่ที่ลดลง ยอดขายผลิตภัณฑ์บำรุงดินที่เพิ่มขึ้น และมีการชำระเงินคืนค่าระวางเก่าโดยรัฐบาลแห่งอินเดีย

ความยั่งยืน

ธุรกิจ VSF ได้ประสานการทำงานร่วมกันกับผู้ประกอบการเส้นใยสังเคราะห์ระดับโลกรายอื่นตามแนวทางของ ZDHC Man-Made Cellulosic (MMCF) ซึ่งครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความรับผิดชอบและมาตรฐานการปล่อยน้ำเสีย/อากาศเสีย โดยเราให้การยืนหยัดต่อการนำมาตรฐาน ZDHC MMCF มาใช้ที่หน่วยงานการผลิตเส้นใยทั้งหลายของเรา

แผนรายจ่ายฝ่ายทุน CAPEX

สำหรับปีปัจจุบัน คณะกรรมการบริหารให้การอนุมัติแผนรายจ่ายฝ่ายทุนที่ 16,150 ล้านรูปี โดยคำนึงถึงการชะงักงันชั่วคราวของรายได้ของบริษัท แผนรายจ่ายนี้ครอบคลุมถึงการเพิ่มศักยภาพด้าน VSF ในปีงบประมาณ 2022 นอกเหนือจากรายจ่ายในการสร้างความทันสมัยให้กับโรงงานหลายแห่งที่อยู่ระหว่างดำเนินการ

เครือซีเมนต์ - UltraTech Cement Ltd.

รายได้แบบรวมกิจการของ UltraTech อยู่ที่ 76,340 ล้านรูปี EBITDA อยู่ที่ 23,530 ล้านรูปี ส่วน PAT อยู่ที่ 7,970 ล้านรูปีสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 ปริมาณการขายแบบรวมกิจการอยู่ที่ประมาณ 14.65 MTPA โดยมีการใช้ความสามารถในการผลิตที่ 60% ทั่วทั้งเครือข่ายโรงงาน 54 แห่งทั่วประเทศ

การชะงักงันทั่วไปอันเป็นผลมาจากการล็อคดาวน์ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของธุรกิจ รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นได้กำหนดมาตรการเพื่อมุ่งหน้าสู่การเปิดเศรษฐกิจ ตามที่เห็นแนวโน้มที่เป็นการส่งเสริมบางอย่างในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2020 ซึ่งมีปัจจัยหลักจากการที่มีการใช้ซีเมนต์ในอัตราที่ดีขึ้นมากเกินความคาดหมายในตลาดท้องถิ่น

ความมุ่งมั่นในการรักษาเงินสดยังดำเนินต่อไปโดยไม่ลดน้อยลง ‘โปรแกรมควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ’ ที่ริเริ่มโดยฝ่ายบริหารเพื่อตัดต้นทุนคงที่ลงที่ 21% จากปีก่อน การจัดการต้นทุนในการทำงานอย่างรอบคอบและการควบคุมกระแสเงินสดส่งผลให้เกิดการลดลงของหนี้สินสุทธิที่ 22,090 ล้านรูปี เป็น 146,510 ล้านรูปี หนี้สินสุทธิ/ EBITDA สำหรับการดำเนินงานในอินเดียอยู่ที่ 1.44x (มิ.ย. 20)

UltraTech Nathdwara Cement Limited เข้าสู่ข้อตกลงที่มีผลผูกพันสำหรับการปลดเปลื้องการถือหุ้นทั้งหมด 92.5% ของตนใน Krishna Holdings Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีฐานอยู่ในสิงคโปร์ โดยสิ้นสุดมูลค่ากิจการที่ประมาณ 120+/- ล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยอยู่ระหว่างการปิดการปรับค่าเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขการปิดตามธรรมเนียมและการอนุมัติตามข้อกำหนดเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายท้องถิ่น

โรงงานที่เข้าซื้อกิจการมาจาก Century ในระหว่างปีงบประมาณก่อนมีความก้าวหน้าในการผสานรวมกิจการกันเป็นอย่างดี โดยบรรลุ EBITDA Margin การดำเนินงานที่ 21% เมื่อเทียบกับอัตราส่วนโดยเฉลี่ยของอินเดียที่ 28% เมื่อสามารถเปิดตลาดได้แล้ว ผลประกอบการจะปรับปรุงดียิ่งขึ้นต่อไปควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่มีอยู่เดิม

เครือธุรกิจบริการทางการเงิน – Aditya Birla Capital Limited (ABCL)

รายได้แบบรวมกิจการของ ABCL เติบโตขึ้นที่ราว 11% จากปีก่อนเป็น 40,350 ล้านรูปี ผ่านทางบริษัทในเครือ บริษัทยังคงแสดงผลกำไรที่มั่นคงด้วยมีความหลากหลายทางธุรกิจ โดยผลกำไรสุทธิหลังดอกเบี้ยส่วนน้อยสำหรับไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 อยู่ที่ 1,980 ล้านรูปี

NBFC และบัญชีเงินกู้สินเชื่อเพื่อการเคหะอยู่ที่ 580,730 ล้านรูปี ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 กำไรจากการดำเนินงานหลักใน NBFC และสินเชื่อเพื่อการเคหะยังคงทรงตัว ถึงแม้ประสบความล่าช้าในการฟื้นตัวภายใต้การล็อคดาวน์ก็ตาม ธุรกิจยังคงให้การมุ่งเน้นอย่างแข็งขันไปที่คุณภาพบัญชีและลดขนาดของเงินค้ำประกันลงในทั่วทุกภาคส่วน

สินทรัพย์ภายใต้การจัดการทั้งหมดที่ปิดบัญชีแล้วเพิ่มขึ้นที่ 8% จากไหตมาสก่อนเป็น 2,176,430 ล้านรูปี ส่วน AUM กองทุนเติบโตขึ้นที่ 19% เป็น 780,170 ล้านรูปีในเดือนมิถุนายน 2020 ธุรกิจให้การมุ่งเน้นไปที่การสร้างฐานแฟรนไชส์ลูกค้ารายย่อย โดย AAUM รายย่อยและ SIP AUM บันทึกการเติบโตที่ 12% และ 27% ตามลำดับ

สำหรับธุรกิจประกันชีวิต (ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021) เบี้ยประกันรับปีแรกเพิ่มขึ้นที่ 5% จากปีก่อนเป็น 3,090 ล้านรูปี ซึ่งโดดเด่นเหนือภาคอุตสาหกรรมที่มีการหดตัวลงที่ 23% จากปีก่อน คุณภาพของธุรกิจนั้นปรับปรุงดีขึ้น โดยความยั่งยืนของเบี้ยประกันเดือนที่ 13 สูงขึ้นที่ 2% จากปีก่อนเป็น 81% สัดส่วน Opex ต่อเบี้ยประกันปรับตัวดีขึ้นเป็น 16.3% ในไตรมาสที่ 1 ปีงบประมาณ 2021 ในส่วนของธุรกิจประกันสุขภาพ เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 2,460 ล้านรูปี (ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021) ซึ่งเติบโตขึ้นถึง 72% จากปีก่อนโดยมีสัดส่วนรายย่อยที่ 73%

แนวโน้ม

ด้วยมีการผ่อนคลายเงื่อนไขการล็อคดาวน์และการฟื้นคืนอย่างช้า ๆ ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ จึงคาดว่าความต้องการในผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเพิ่มขึ้นในไตรมาสต่อไป บริษัทได้เริ่มใช้มาตรการหลายอย่างเพื่อทำให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกโรงงาน ลดต้นทุนคงที่และรักษาเงินสดไว้โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนสำรองทางธุรกิจที่ครอบคลุมโดยรวม บริษัทยังคงรักษาระดับเพื่อให้เกิดความสะดวกต่อสภาพคล่องเพื่อให้เป็นไปตามทิศทางสภาวะทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน

ด้วยบริษัทมีความแข็งแกร่งทางการเงิน มีความเป็นเลิศในการดำเนินงาน และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย (ซีเมนต์, บริการด้านการเงิน, เส้นใยและเคมีภัณฑ์) จึงยังคงมีความสามารถที่จะยืนหยัดได้ในช่วงที่เกิดการชะงักงันชั่วคราวและสามารถรักษาสถานะผู้นำในทุกภาคธุรกิจได้

Grasim Industries Limited

Aditya Birla Centre, 'A’ Wing, 2nd Floor, S. K. Ahire Marg, Worli, Mumbai - 400 030
สำนักงานจดทะเบียน: Birlagram, Nagda - 456 331 (M.P.)
โทร: (07366) 246760-66, แฟ็กซ์ : (07366) 244114, 246024, CIN: L17124MP1947PLC000410
www.grasim.com www.adityabirla.com
Twitter: www.twitter.com/adityabirlagrp
ค้นหาชื่อทวิตเตอร์: @GrasimInd / @AdityaBirlaGrp

แถลงการณ์เตือน

แถลงการณ์ใน “ข่าวประชาสัมพันธ์” ฉบับนี้ อธิบายถึงวัตถุประสงค์ การคาดการณ์ การประมาณการ ความคาดหมายหรือคาดคะเนของบริษัท โดยอาจจัดว่าเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย ปัจจัยสำคัญที่อาจสร้างความแตกต่างให้กับผลการดำเนินงานของบริษัท ได้แก่ สภาพอุปสงค์และอุปทานในอินเดียและตลาดโลก ราคาสินค้าสำเร็จรูป ความคล่องตัวของการจัดเก็บสินค้าและราคา วงจรความต้องการของตลาดและราคาตามตลาดหลักของบริษัท การเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับของภาครัฐ การจัดเก็บภาษี การพัฒนาด้านเศรษฐกิจในอินเดียและในประเทศต่าง ๆ ที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ และปัจจัยอื่น ๆ อาทิ การดำเนินคดีความและข้อตกลงด้านแรงงาน บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด