Aditya Birla Fashion and Retail รายงานผลประกอบการที่ฟื้นคืนกลับมาด้วย EBITDA ที่เติบโตขึ้น 51% จากปีก่อน ถึงแม้อยู่ท่ามกลางภาวะที่หยุดชะงักก็ตาม

28 พฤษภาคม, 2564

ไฮไลท์ผลประกอบการ

  • ไตรมาสที่ 4 ยังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวที่แข็งแกร่งตลอดไตรมาสจนกระทั่งมีการหยุดชะงักเนื่องจากเกิดโควิดระลอก 2 ที่ส่งผลให้มีการชัตดาวน์ในพื้นที่ โดยบริษัทได้ตอบสนองต่อความท้าทายนี้ด้วยความว่องไวในระดับสูงสุด
    • ยอดขายในไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021 ปิดลงที่ระดับเกือบเท่ากับปีก่อนหน้านี้
    • มียอดขายที่ดีในเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าและเมืองใหญ่ทั้งหลาย ซึ่งการเติบโตจากพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สูงสุดเป็นประวัติกาลในทั่วทุกแบรนด์ และมียุทธศาสตร์ผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่นเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนการฟื้นตัวในคราวนี้
    • แรงผลักดันจากอี-คอมเมิร์สพร้อมกับส่วนแบ่งธุรกิจเติบโตชึ้นถึงกว่าสองเท่า
    • ธุรกิจอื่น ๆ ที่ประกอบด้วยแบรนด์ชุดชั้นในและแบรนด์ระหว่างประเทศเติบโตในอัตราที่เป็นที่พอใจที่ 36%
    • กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องแต่งกายพื้นเมืองมีการเติบโตของ NSV ถึง 165% จากปีก่อนโดยได้รับแรงหนุนจากส่วนเพิ่มเติมจากร้านค้าแห่งใหม่
  • บริษัททำ EBITDA แบบรวมกิจการได้ที่ 2,530 ล้านรูปีในไตรมาส ซึ่งสูงขึ้น 51% จากปีก่อน โดยมีการขยายของ EBITDA มาร์จิ้น 480 bps เพื่อให้แตะมาร์จิ้นที่ 13.9% สำหรับไตรมาสที่ 4 ปีงบประมาณ 2021
    • ซึ่งทั้งนี้มีสาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวที่แข็งแร่งในยอดขาย ซึ่งเกินไปกว่าการกลับมาสู่สภาพปกติมาก
    • ธุรกิจอื่น ๆ บันทึก EBITDA ที่เป็นบวกสำหรับไตรมาสเป็นครั้งแรก
  • การลงทุนมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
    • มีการเปิดตัวร้านค้าแห่งใหม่กว่า 400 แห่งในทั่วทุกส่วนธุรกิจและรูปแบบในระหว่างปีงบประมาณ 2021 ตลอดจนมีการจัดเครือข่ายตามตรรกะทางคณิตศาสตร์ด้วย
    • มีการขยายไปยังทั่วทุกเมืองในจังหวัดต่าง ๆ ผ่านทางการใช้โมเดลการถือครองสินทรัพย์ถาวรลดลง (Asset Light Model)
    • ให้การมุ่งเน้นไปที่หมวดผลิตภัณฑ์ใหม่ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของผู้บริโภคเพื่อให้เป็นเสื้อผ้าแนวลำลองและสปอร์ตมากขึ้น
    • ปิดการลงทุนเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับแบรนด์ดังอย่าง Sabyasachi และ Tarun Tahiliani
  • มีการจัดสรรทุน 12,000 ล้านรูปีตามตรรกะทางคณิตศาสตร์ในระหว่างปีเพื่อบรรเทาผลกระทบของโควิดต่อความสามารถในการทำกำไร
  • หนี้สินลดลงจาก 25,110 ล้านรูปี (สิ้นปีงบฯ 2020) เหลือ 6,540 ล้านรูปีจากการผสมผสานกระแสเงินสดในการดำเนินงานกับตราสารการเงินที่แข็งตัว
  • มีการเสริมความแข็งแร่งให้กับส่วนธุรกิจเครื่องแต่งกายพื้นเมืองด้วยการลงทุนใหม่ที่ 5,200 ล้านรูปี โดยมีการลงทุนร่วมกับ Sabyasachi และ Tarun Tahiliani ซึ่งเมื่อไม่รวมการลงทุนเพื่อการเติบโตเหล่านี้ หนี้สินที่แท้จริงจะเหลือเพียง 1,340 ล้านรูปี

ผลประกอบการทางการเงิน

คณะกรรมการบริหารของบริษัทอนุมัติผลประกอบการรายไตรมาส สิ้นสุด 31 มีนาคม 2021 ในวันนี้ ผลประกอบการทางการเงินเหล่านี้ คือผลที่ได้ภายหลังจากการใช้หลักการบัญชีตามการปรับที่จำเป็นเมื่อนำ Ind AS 116 มาใช้

การเงินแบบรวมกิจการ

หน่วยเป็นสิบ ล้านรูปี ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 4 ปีงบฯ 2020 เติบโตจากปีก่อน
รายได้ 1822 1832 -1%
EBITDA 253 167 51%
PAT เปรียบเทียบ -87 -147  
PAT ที่รายงาน -196 -147  

ด้วยมาตรการควบคุมต้นทุนที่ผันแปรอยู่เสมอ ทำให้ถึงแม้มียอดขายที่ลดลง แต่บริษัทยังสามารถแสดงผลที่ปรับปรุงดีขึ้นเป็นอย่างมากสำหรับ PAT ที่เปรียบเทียบได้

ในขณะที่การฟื้นกลับมาเป็นไปอย่างแข็งแกร่งในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของไตรมาสอันเนื่องมาจากความต้องการที่ถูกกักเก็บไว้ระยะหนึ่ง แต่โควิดระลอก 2 เมื่อปลายเดือนมีนาคมได้ส่งผลให้ลูกค้าชะลอการจับจ่ายลงและทำให้การเติบโตที่ช้าลง และด้วยปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ ผลประกอบการของธุรกิจสำหรับไตรมาสจึงเกือบเทียบเท่ากับระดับเดียวกันของปีก่อน

ส่วนธุรกิจต่าง ๆ ประกาศผลประกอบการอันเป็นที่พอใจ

  • แบรนด์ไลฟ์สไตล์ - ด้วยให้การมุ่งเน้นไปที่การเสริมความแข็งแกร่งให้กับเสื้อผ้าแนวลำลองยิ่งขึ้นและเร่งการเติบโตให้กับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แบรนด์ไลฟ์สไตล์จึงบรรลุระดับรายได้ในไตรมาส 4 ที่สูงขึ้นถึง 94% จากปีก่อน และกำไรขั้นต้น EBITDA ที่ 17.5% ช่องทางค้าปลีกต่าง ๆ แสดงการเติบโตที่เป็นไปอย่างยืดหยุ่นที่ 8% จากปีก่อน ซึ่งเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ ความสร้างสรรค์ของผลิตภัณฑ์และการดำเนินการด้านการค้าปลีกที่เชี่ยวชาญ
  • Pantaloons - นำโดยการควบคุมต้นทุนที่มั่นคง ธุรกิจจึงบันทึก EBITDA มาร์จิ้นที่แข็งแกร่งที่ 14.5% โดยการเติบโตของ EBITDA แบบสมบูรณ์คือ 54% จากระดับของปีก่อน
  • ธุรกิจอื่น ๆ
    • ส่วนธุรกิจนี้ประกอบไปด้วยแบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่น เช่น Forever 21 และ American Eagle แบรนด์ชุดชั้นในและธุรกิจเสื้อผ้าแนวสปอร์ต แบรนด์พรีเมียมระดับโลกและธุรกิจเครื่องแต่งกายพื้นเมืองที่มาใหม่
    • ส่วนธุรกิจเสื้อผ้าแนวสปอร์ตลำลองเติบโตขึ้นที่ 56% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขับเคลื่อนโดยการเติบโตจากส่วนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (1.5 เท่าจากปีก่อน) ผลประกอบการยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่พุ่งขึ้นสำหรับหมวดผลิตภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและแนวสปอร์ต อีกธุรกิจยังมีการขยายฐานการกระจายสินค้าโดยมีการเพิ่มเอาท์เล็ทใหม่กว่า 5,500 แห่งในระหว่างปี ในแบบเต็มตลอดทั้งปี ธุรกิจฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งและเหนือกว่าระดับของปีก่อน ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์ Van Heusen ในหมวดชุดชั้นในและเครื่องแต่งกายแนวสปอร์ต
    • ในระหว่างปี บริษัทยังสร้างความแข็งแกร่งให้กับสถานะในส่วนของเครื่องแต่งกายพื้นเมืองด้วยการหลอมรวมการเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์กับแบรนด์พื้นเมือง 2 แห่งซึ่งเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศ คือ Sabyasachi และ Tarun Tahiliani

แนวโน้ม

ABFRL มุ่งเน้นถึงความอยู่ดีมีสุขของพนักงานและครอบครัวของพวกเขาในขณะนี้ ในขณะที่ยังมีการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทเองเพื่อเก็บเกี่ยวโอกาสในการเติบโตที่กว้างขวางหลังการจากแพร่ระบาด ด้วยจะมีการฉีดวัคซีนอย่างแพร่หลายในอีกสองสามเดือน บริษัทจึงคาดหวังว่าผู้บริโภคจะก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งความท้าทายในปัจจุบัน และคาดว่าการบริโภคจะเป็นไปในเชิงบวกในช่วงหลังของปี

ในส่วนของการดำเนินงานนั้น การควบคุมต้นทุนให้มีความเหมาะสมสูงสุดและการจัดการกระแสเงินสดที่เข้มงวดขึ้นจะยังคงเป็นหลักของโมเดลทางธุรกิจต่อไป โดยขณะนี้บริษัทมีสถานะที่ดีขึ้นมากที่จะจัดการกับการหยุดชะงักทางธุรกิจ ด้วยการฟื้นตัวที่ค่อยเป็นค่อยไปจากกำลังซื้อและการจับจ่ายของผู้บริโภค จึงจะทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นเมื่อมองในอีกด้านหนึ่งของวิกฤติในครั้งนี้

เกี่ยวกับ Aditya Birla Fashion and Retail Limited

ABFRL เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทชั้นนำของอินเดีย Aditya Birla Group ที่มีรายได้ 52,490 ล้านรูปีจากการขยายธุรกิจค้าปลีกพื้นที่ 8.4 ล้านตารางฟุต (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2021) โดยเป็นบริษัทมหาอำนาจแห่งแรกของอินเดียที่มีมูลค่านับพันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ที่ประกอบการด้านแฟชั่นแต่เพียงอย่างเดียว โดยเป็นเจ้าของกลุ่มแบรนด์หรูชั้นนำในด้านแฟชั่นและมีรูปแบบการค้าปลีกที่หลากหลาย

บริษัทมีเครือข่ายร้านค้า 3,212 แห่ง โดยมีเอาท์เล็ตแบบรวมหลายแบรนด์ประมาณ 31,000 แห่ง พร้อมมีจุดขายกว่า 6,800 แห่งในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศอินเดีย (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2020)

บริษัทเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำในตลาด อาทิ Louis Philippe, Van Heusen, Allen Solly และ Peter England ที่ก่อตั้งมานานกว่า 25 ปี Pantaloons จัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ร้านค้าแฟชั่นแบบรวดเร็วที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย

บริษัทยังครองเอกสิทธิ์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์สำหรับเครือข่ายในอินเดียของแบรนด์แฟชั่น Forever 21 ซึ่งมีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์สากลรวมถึง The Collective ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดียที่ถือครองแบรนด์ระดับสากลหลากหลายแบรนด์ Simon Carter และแบรนด์เดี่ยวที่เลือกสรรมา เช่น American Eagle, Ralph Lauren, Hackett London, Ted Baker และ Fred Perry

Van Heusen ซึ่งมีทั้งชุดชั้นใน, แนวลำลองและสปอร์ต สามารถสร้างตัวจนเป็นแบรนด์แฟชั่นที่มีความสร้างสรรค์มากที่สุดในอินเดีย บริษัทยังบุกตลาดธุรกิจแบรนด์เครื่องแต่งกายพื้นเมืองต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง Jaypore และดีไซเนอร์ ’Shantanu & Nikhil’ นอกจากนี้ บริษัทยังปิดการลงทุนเชิงกลยุทธ์กับสองดีไซเนอร์ Designers ’Sabyasachi’ และ ’Tarun Tahiliani’ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คำสงวนสิทธิ์: ข้อความบางส่วนใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ อาจไม่อยู่บนพื้นฐานตามข้อมูลตามประวัติหรือข้อเท็จจริง โดยอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ทั่วไปของบริษัท แนวโน้มและความคาดหวังในอนาคต การพัฒนาธุรกิจในอนาคต สภาวะการณ์ด้านกฎหมายและการแข่งขัน และมุมมองและสมมติฐานจากการบริหารจัดการในปัจจุบัน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด "ข่าวประชาสัมพันธ์" นี้ ไม่ใช่หนังสือชี้ชวน บันทึกข้อตกลง หรือข้อเสนอให้ซื้อหุ้นแต่อย่างใด และไม่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นคำแนะนำให้นักลงทุนจับจองหรือซื้อหุ้นของทางบริษัทแต่อย่างใด ตัวเลขทางการเงินใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" นี้ได้ปัดให้ใกล้เคียงกับหน่วยเป็นสิบล้านรูปีมากที่สุด ผลประกอบการทางการเงิน เป็นผลทางการเงินรวม เว้นเสียแต่ได้ประกาศไว้เป็นอื่น