Aditya Birla Fashion and Retail: ธุรกิจฟื้นตัวได้อย่างยอดเยี่ยม โดยบันทึก EBITDA ระดับเฉพาะกิจการที่สูงสุดเป็นประวัติกาล

08 กุมภาพันธ์, 2564

ไฮไลท์ผลประกอบการ

  • ในไตรมาสที่ 3 การฟื้นตัวของธุรกิจเป็นไปอย่างโดดเด่นตลอดจนถึงไตรมาสถัดมา โดยผู้บริโภคเริ่มกลับเข้ามายังร้านค้าและสั่งซื้อทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและการแพร่ระบาดที่มีอัตราลดลงอย่างชัดเจน
    • ยอดขายในไตรมาสที่ 3 ปีงบประมาณ 2021 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากไตรมาสที่ 2 ปีงบประมาณ 2021 ซึ่งฟื้นกลับมาที่ 80% ของปีก่อน
  • บริษัทรายงาน EBITDA แบบรวมที่ 4,220 ล้านรูปี ซึ่งเกือบเทียบเท่าระดับเดียวกับปีก่อน แม้จะมียอดขายที่ลดลงก็ตาม
    • ข้อเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นเลิศ การจัดการด้านการลดราคาและการควบคุมต้นทุนคงที่อย่างจริงจังทำให้ส่วนต่างกำไร EBITDA ที่รายงานเพิ่มขึ้น 400 bps
  • บริษัทยังคงให้การมุ่งมั่นในด้านการปรับเปลี่ยนเชิงยุทธศาสตร์
    • การปรับไปสู่รูปแบบดิจิทัลทั้งในงานส่วนหน้าและส่วนหลังให้มีความคล่องตัวสูง
    • การเสาะหาอย่างจริงจังถึงการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคต้องการ ที่มีการเปิดตัวหมวดผลิตภัณฑ์ใหม่ รวมไปถึงพัฒนาส่วนต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
  • การขยายเครือข่ายที่เร็วขึ้น
    • มีการเปิดบริการร้านค้าในส่วนธุรกิจและรูปแบบต่าง ๆ ถึงกว่า 230 แห่ง
    • บุกตลาดในพื้นที่และเมืองที่มีขนาดเล็กลงผ่านทางการบุกเบิกแบรนด์ที่ใหม่กว่า
  • มีการสร้างกระแสเงินสดสำหรับการดำเนินการที่ 5,880 ล้านรูปีในระหว่างไตรมาส
  • คาดการณ์ว่าหนี้สินจะลดลงได้ 90% จากต้นปีงบประมาณจนถึงสิ้นปีงบประมาณ

ผลประกอบการทางการเงิน

การประชุมของคณะกรรมการบริหารของบริษัทในวันนี้ มีการอนุมัติผลประกอบการสำหรับไตรมาสสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2020 ผลประกอบการทางการเงินเหล่านี้ คือผลที่ได้ภายหลังการใช้หลักการบัญชีตามการปรับที่จำเป็นเมื่อนำ Ind AS 116 มาใช้

ผลประกอบการทางการเงินแบบรวมกิจการ

หน่วยเป็นสิบ ล้านรูปี ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2021 การเติบโต
QOQ
ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2020 การเติบโต YOY
รายได้ 1028 2076 102% 2583 -20%
EBITDA 136 422   423  
กำไรหลังภาษี (PAT) -188 58   -38  

การฟื้นตัวที่เริ่มจากการกลับมาเปิดร้านค้าในไตรมาสที่ 2 เป็นไปด้วยดีโดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น การเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาล อีกยังเป็นฤดูกาลของงานวิวาห์ การผสมผสานของปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้ยอดขายทะยานขึ้นจนถึงเกือบเท่าตัวของไตรมาสที่ 2

ล้านรูปี ไตรมาส 1 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 2 ปีงบฯ 2021 ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2021 Gr % QOQ ไตรมาส 3 ปีงบฯ 2020 Gr % - LY
ยอดขาย 323 1028 2076 102% 2583 -20%
EBITDA -182 136 422 210% 423 -

ส่วนธุรกิจแต่ละส่วนของเราแสดงผลการดำเนินงานได้อย่างยอดเยี่ยม

  • แบรนด์ไลฟ์สไตล์ – ด้วยแรงหนุนที่แข็งแกร่งที่มาจากช่วงเทศกาลและฤดูกาลแห่งงานวิวาห์ ธุรกิจจึงฟื้นตัวกลับมาที่ 80% ของระดับในปีก่อน โดยช่องทางค้าปลีกมีการบันทึกการฟื้นตัวที่ 92% กำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นและมาตรการในการควบคุมค่าใช้จ่ายที่รัดกุมทำให้เกิดการขยายของกำไรขั้นต้นที่ 140 bps
  • Pantaloons – ธุรกิจสามารถฟื้นตัวได้ที่ 75% จากระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด โดยมีการรายงานกำไรขั้นต้น EBITDA ของบริษัทที่สูงสุดเป็นประวัติกาล ซึ่งทั้งนี้ได้รับแรงผลักดันจากการผสมผสานผลิตภัณฑ์ การจัดการรายการสินค้าที่ยอดเยี่ยมที่ทำให้เกิดการลดราคาน้อยลง และการควบคุมต้นทุนคงที่ที่เข้มงวด
  • ธุรกิจอื่น ๆ
    • ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ประกอบด้วยแบรนด์แฟชั่นวัยรุ่น เช่น Forever 21 และ American Eagle, ชุดชั้นในและธุรกิจเสื้อผ้าแนวสปอร์ต, แบรนด์ระดับโลก และธุรกิจเครื่องแต่งกายพื้นเมืองที่มาใหม่
    • แต่ละธุรกิจสามารถแสดงผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดเป็นประวัติกาลได้อย่างเป็นไปโดยธรรมชาติ ในแง่ของความสามารถในการทำกำไร โดยได้รับแรงหนุนมาจากการเติบโตในไตรมาสนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน ถึงแม้จะเกิดการระบาดของโควิดก็ตาม
    • ซึ่งเป็นการพิสูจน์ถึงความผูกพันของผู้บริโภคต่อแบรนด์ที่แข็งแกร่ง และแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นที่แฝงอยู่ในส่วนธุรกิจนี้
    • ส่วนธุรกิจชุดชั้นในและเครื่องแต่งกายแนวสปอร์ตบันทึกการเติบโตที่ 25% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน การที่ส่วนธุรกิจชุดชั้นในสตรีและเครื่องแต่งกายแนวสปอร์ตได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทำให้ธุรกิจมีการเติบโตและอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่ง
  • เสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล:
    • ด้วยแรงเสริมจากผลประกอบการที่อยู่ในระดับสูงสุด ตลอดจนมาตรการในการควบคุมค่าใช้จ่ายและต้นทุนในการดำเนินงานที่เข้มงวด ABFRL จึงสามารถสร้างกระแสเงินสดได้เกือบ 5,880 ล้านรูปีในระหว่างไตรมาส
    • ด้วยกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่คาดการณ์ไว้ในไตรมาสถัดไป ประกอบกับการดำเนินการด้านกรรมสิทธิ์ในหุ้นที่ได้รับจากการออกสิทธิ์และการจัดสรรสิทธิพิเศษให้กับ Flipkart บริษัทจึงอยู่ในระหว่างการปิดรอบบัญชีโดยมีการลดลงของหนี้สินสุทธืที่ 90% นับจากต้นปี
    • ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการบริหารที่มีการมุ่งเน้นไปยังจุดเดียวกัน ซึ่งก็คือการปรับโครงสร้างทางการลงทุนของบริษัท

เนื่องจากมีการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งและเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานะที่สามารถแข่งขันได้ บริษัทจึงได้เร่งแผนการขยายเครือข่าย โดยมีการเพิ่มร้านค้าอีกเกือบ 300 แห่งในระหว่างปีงบประมาณจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นการชี้ชัดถึงความตั้งใจที่จะเพิ่มการได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดและการเข้าถึงแบรนด์ให้ได้มากขึ้น

ในไตรมาสนี้ยังได้เห็นถึงความก้าวหน้าของความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการสร้างส่วนธุรกิจเครื่องแต่งกายพื้นเมืองของชาวอินเดียอันเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมีกำลังซื้อมากด้วย โดยบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงการเข้าซื้อกิจการ ‘Sabyasachi’ ซึ่งเป็นแบรนด์หรูระดับโลกชั้นนำจากอินเดียในสัดส่วน 51%

แนวโน้ม

ABFRL มีความมั่นใจว่าการฟื้นตัวของธุรกิจจะเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของโควิดนั้นจะลดลงไปในไตรมาสต่อ ๆ ไป และคาดว่าจะสามารถกอบกู้การเติบโตให้กลับมาได้ในปีถัดไป

บริษัทยังคงให้การมุ่งมั่นไปที่การใช้ประโยชน์จากรายการผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ที่แข็งแกร่งของตน การค่อย ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องไปกับการเปลี่ยนแปลงความชื่นชอบในการจับจ่ายของผู้บริโภค และขยายการเข้าถึงให้มากขึ้น ในแง่ของธุรกิจ การมุ่งเน้นอย่างเต็มที่ไปที่ต้นทุนและการควบคุมอย่างแน่วแน่จะยังคงดำเนินต่อไปเพื่อเป็นแนวทางให้กับโมเดลทางธุรกิจเพื่อให้เดินหน้าต่อไป จึงคาดได้ว่า บริษัทจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมจากการระบาดของโควิด

เกี่ยวกับ Aditya Birla Fashion and Retail Limited

ABFRL เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัทชั้นนำของอินเดีย Aditya Birla Group ที่มีรายได้ 87,880 ล้านรูปีในปีงบประมาณ 2019-2020 โดยเป็นบริษัทมหาอำนาจแห่งแรกของอินเดียที่มีมูลค่านับพันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ที่ประกอบการด้านแฟชั่นแต่เพียงอย่างเดียว โดยเป็นเจ้าของกลุ่มแบรนด์หรูชั้นนำในด้านแฟชั่นและมีรูปแบบการค้าปลีกที่หลากหลาย

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2020 บริษัทมีเครือข่ายร้านค้า 3,157 แห่ง โดยมีเอาท์เล็ตแบบรวมหลายแบรนด์ประมาณ 29,900 แห่ง พร้อมมีจุดขาย 6,835 แห่งในห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศอินเดีย

บริษัทเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำในตลาด อาทิ Louis Philippe, Van Heusen, Allen Solly และ Peter England ที่ก่อตั้งมานานกว่า 25 ปี โดย Pantaloons จัดเป็นหนึ่งในแบรนด์ค้าปลีกที่มีมูลค่ามากที่สุดในอินเดีย

บริษัทยังครองเอกสิทธิ์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์สำหรับ Forever 21 กลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์สากล – Collective เป็นผู้ค้าปลีกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอินเดียที่ถือครองแบรนด์ระดับสากลหลากหลายแบรนด์ เช่น Simon Carter และแบรนด์เดี่ยวที่เลือก เช่น American Eagle, Ralph Lauren, Hackett London, Ted Baker และ Fred Perry

Van Heusen สามารถสร้างตัวจนเป็นแบรนด์เครื่องแต่งกายชั้นใน, เครื่องแต่งกายแนวสปอร์ต และแบรนด์เสื้อผ้าลำลองแนวแฟชั่นที่มีความสร้างสรรค์มากที่สุดในอินเดีย นอกจากนี้ บริษัทยังบุกตลาดเครื่องแต่งกายพื้นเมืองผ่านทางการลงทุนใน Jaypore และ Shantanu & Nikhil

คำสงวนสิทธิ์: ข้อความบางส่วนใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ อาจไม่อยู่บนพื้นฐานตามข้อมูลตามประวัติหรือข้อเท็จจริง โดยอาจเป็น “แถลงการณ์คาดการณ์” ที่อยู่ภายใต้กฎหมายและข้อบังคับว่าด้วยหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง เรื่องที่เกี่ยวข้องกับแผนธุรกิจและกลยุทธ์ทั่วไปของบริษัท แนวโน้มและความคาดหวังในอนาคต การพัฒนาธุรกิจในอนาคต สภาวะการณ์ด้านกฎหมายและการแข่งขัน และมุมมองและสมมติฐานจากการบริหารจัดการในปัจจุบัน ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างไปจากที่นำเสนอหรือที่กล่าวโดยนัย บริษัทไม่รับผิดชอบต่อการแก้ไขหรือปรับปรุงแถลงการณ์คาดการณ์ล่วงหน้า อันเกิดจากการพัฒนา ข้อมูลหรือเหตุการณ์ หรือสาเหตุอื่นที่เกิดขึ้นในภายหลังแต่อย่างใด "ข่าวประชาสัมพันธ์" นี้ ไม่ใช่หนังสือชี้ชวน บันทึกข้อตกลง หรือข้อเสนอให้ซื้อหุ้นแต่อย่างใด และไม่อาจพิจารณาได้ว่าเป็นคำแนะนำให้นักลงทุนจับจองหรือซื้อหุ้นของทางบริษัทแต่อย่างใด ตัวเลขทางการเงินใน "ข่าวประชาสัมพันธ์" ฉบับนี้ได้ปัดให้ใกล้เคียงที่สุดกับหน่วย สิบล้านรูปี ผลประกอบการทางการเงิน เป็นผลทางการเงินรวม เว้นเสียแต่ได้ประกาศไว้เป็นอื่น